เมื่อเวลา 20.15 น. วันที่ 11 พฤษภาคม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน แถลงข่าวหลังทราบผลเลือกตั้งเทศบาลอย่างไม่เป็นทางการ โดยเบื้องต้นภาพรวมที่เห็นอยู่ตอนนี้ ผลการเลือกตั้งเทศบาลระดับเทศบาลนคร เราก็กำลังรอลุ้นอยู่ 3 พื้นที่ ประกอบด้วย เทศบาลนคร จ.เชียงราย ,เจ้าพระยาสุรศักดิ์ จ.ชลบุรี และเทศบาลนคร จ.นนทบุรี ซึ่งทั้งใน 3 พื้นที่นั้นยังมีคะแนนที่ใกล้เคียงกันอยู่

.

นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวขอบคุณทีมงานผู้สมัครทุกคน และประชาชนที่ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในสนามเทศบาลครั้งนี้ โดยเฉพาะเทศบาล จ.นครปฐม และ จ.เชียงใหม่ ซึ่งทีมงานก็พยายามทำงานกันอย่างเต็มที่ เช่น จ.นครปฐมก็มีความห่างของคะแนนเพียงแค่หลักร้อย จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนช่วยกันรณรงค์หาเสียงอย่างแข็งขันเต็มที่แล้ว

.

ในส่วนเทศบาลเมือง และเทศบาลตำบลที่มีผลค่อนข้างชัดเจนว่าพรรคประชาชนสามารถชนะการเลือกตั้งในพื้นที่ได้ เราก็พร้อมเอานโยบายหลายๆ อย่าง ที่ได้ดำเนินการในองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ลำพูน ทั้งมนเรื่องของแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ รวมถึงนโยบายอื่นอีกหลายๆ เรื่อง ที่จะนำเข้ามาดำเนินการในเทศบาลอื่นๆ ด้วยเช่นเดียวกัน

.

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงปัจจัยในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ทำให้พรรคประชาชนสามารถชนะในเทศบาลตำบลมากกว่าเทศบาลในพื้นที่ตัวเมืองได้นั้น เกิดจากอะไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ชนะในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน เช่น กรณีในพื้นที่ จ.นครปฐม ที่มีคะแนนห่างกันเพียงหลักร้อย จึงคิดว่าสิ่งที่พวกเราจะต้องทำต่อ คือการรณรงค์อย่างแข็งขัน และแสดงผลงานออกมาให้ประชาชนได้เห็นอย่างเต็มที่ ซึ่งเชื่อว่าใสสนามที่เราชนะจะมีเวทีให้เราสามารถผลักดันนโยบายให้เกิดขึ้นจริงได้

.

ส่วนความพึงพอใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ถือว่าค่อนข้างน่าพอใจในหลายเวทีที่เราชนะมา และเป็นสิ่งที่เราจะต้องเดินหน้าทำงานต่ออย่างหนัก และเต็มที่ และพร้อมเดินหน้ารับใช้พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่มอบความไว้วางใจให้กับพวกเรามา

.

ผู้สื่อข่าวถามถึงโมเดลที่จะนำไปใช้ในพื้นที่เทศบาลเป็นอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนของประชาชน และทำงานในพื้นที่อย่างจริงจัง เราพร้อมที่จะมีทีมส่วนกลาง ทีมนโยบายท้องถิ่นที่จะลงไปทำงานในพื้นที่จริง พร้อมกับประสบการณ์ที่เราได้สะสมมา เช่น น้ำประปาสะอาด ขนส่งสาธารณะ รวมถึงนโยบายด้านการศึกษา และระบบสาธารณสุข ซึ่งเราก็พร้อมที่จะผลักดันต่อในทุกพื้นที่ และอีกสิ่งที่ตนมองว่า จะสามารถผลักดันได้อย่างแน่นอนที่เป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นใน อบจ.ลำพูน และไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริบทพื้นที่มากนัก คือ การนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลไปทำกับท้องถิ่นสนามเทศบาล

ส่วนพื้นที่เป้าหมายอย่างเทศบาลนครเชียงใหม่ อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถชนะในพื้นที่ได้ นายณัฐพงษ์ มองว่า คงมีองค์ประกอบหลายๆ ปัจจัย แต่ไม่สามารถวิเคราะห์อะไรได้มาก เนื่องจากผลยังไม่ออกมาเป็นทางการ แต่ก็อยู่ที่ตัวของพวกเราในการต้องรณรงค์ให้มากยิ่งขึ้น แต่อีกสิ่งที่ตนเห็น คือเสียงของพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ที่มอบให้ มีคะแนนเสียงที้เติบโตขึ้นอย่างเป็นลำดับ ฉะนั้นตนคิดว่า เราทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ และเป็นให้กับทีมงานที่หาเสียงอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา

.

ส่วนในพื้นที่เทศบาลที่ไม่สามารถชนะ แต่คะแนนห่างกันไม่มาก และมีความผิดปกติจะมีการขอนับใหม่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ต้องรอฟังสถานการณ์จากทีมในพื้นที่ก่อน หากมีเหตุผิดปกติจริงหรือมีมูลเหตุให้เชื่อได้ว่าทำให้การเลือกตั้งหรือการนับคะแนน ไม่ได้ โปร่งใสตรงไปตรงมา เราก็จะใช้สิทธิ์ของเราอย่างเต็มที่ และคาดว่าต้องรอความชัดเจนอีก 1-2 วัน ก็จะสามารถให้ความชัดเจนได้

.

ส่วนพื้นที่ใดที่คาดหวังเป็นพิเศษนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในทุกสนามที่เราส่งผู้สมัคร เราก็มีความหวังที่อยากจะชนะการเลือกตั้ง และเราเชื่อว่าในการรณรงค์อย่างแข็งขันในการนำเสนอนโยบาย และส่งผู้สมัครที่ดีที่สุดให้กับประชาชน คือปัจจัยที่นำไปสู่การชนะการเลือกตั้งได้ ส่วนผลการเลือกตั้งที่ออกมา สนามไหนที่แพ้หรือชนะ พวกเราคงไม่สามารถที่จะไป บอกได้ว่าเป็นปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ์ในวันนี้

.

ส่วนในพื้นที่บ้านใหญ่ที่แพ้แม้คะแนนห่างกันไม่มากสะท้อนถึงอะไร นายณัฐพงษ์ ระบุว่า สุดท้ายผลเลือกตั้งที่ออกมา สะท้อนเสียงของประชาชน และตนก็คงจะไม่บอกว่าเกิดจากองค์ประกอบใดหรือปัจจัยใดปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราแพ้เลือกตั้ง ซึ่งสิ่งที่จะสะท้อนออกมาเป็นเสีนงของประชาชนอยู่ที่นโยบายของเราที่นำเสนอ ตัวผู้สมัครของเรา องค์ประกอบของคู่แข่ง และระบบเลือกตั้งที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ได้มากที่สุด ที่ทำให้พรรคการเมืองทุกพรรคเร่งปรับปรุงทุกๆ องค์ประกอบให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ได้สะดวกที่สุด

เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 11 พฤษภาคม ที่ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งกลุ่มนายวิชัย ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายวิชัย บรรดาศักดิ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด หมายเลข 2 แชมป์เก่า 5 สมัย ผู้สมัครในนามกลุ่มนายวิชัย ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ นายวิชัย ได้ 32,730 คะแนน นายภาสกร ฐิติธนาวนิช ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคประชาชน ได้ 17,182 คะแนน

.

ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกฯ สมัยที่ 6 ติดต่อกัน นำทีมผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล แถลงประกาศชัยชนะทีมคู่แข่ง จากผลการนับคะแนนล่าสุดนำลิ่วทิ้งห่างคู่แข่ง

.

ท้งนี้ นายวิชัย กล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวปากเกร็ด ที่ให้ความไว้วางใจกลุ่มนายวิชัย ให้เข้ามาบริหารเทศบาลนครปากเกร็ด อีกหนึ่งสมัย

ส่วนผลจากการนับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ล่าสุดยังไม่เสร็จสิ้น ผู้สมัครกลุ่มนายวิชัย มีคะแนนนำทั้ง 4 เขต รวม 24 คน

.

ด้านเทศบาลตำบลบ้านบางม่วง อ.บางใหญ่ นายณัฐวัฒน์ เอี่ยมแย้ม หรือกำนันเก่ง ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองบ้านบางม่วง หมายเลข 1 ได้คะแนน 3,518 คะแนน นายประถมการ อ่วมอ่อง ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองบ้านบาง หมายเลข 2 อดีตนายกเทศบาลบ้านบางม่วง ได้คะแนน 2,255 คะแนน และนายสรศักดิ์ พึ่งฉิม ผู้สมัครนายกเทศมนตรีบ้านบางม่วงหมายเลข3 จากพรรคประชาชน ได้คะแนน 1,235 คะแนน

.

ด้านผลคะแนนการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี นายเฉลิมพล นิยมสินธุ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองบางกร่าง หมายเลข 1 ได้คะอยู่ประมาณ 1,400 คะแนน ขณะที่นายวราธ์ โมรัฐเสถียร ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองบางกร่าง จากพรรคประชาชนหมายเลข 2 ได้คะแนนอยู่ 1,800 คะแนน

ขณะที่เทศบาลเมืองบางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี ว่าที่ร้อยตรีปริญญา ศักดิ์นาวี ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองบางศรีเมือง เบอร์ 1 จากพรรคประชาชน ได้ 4,754 คะแนน ขณะที่นายณัฏฐพร แสงบัว ผู้สมัครนายกเทศมนตรีหมายเลข 2 อดีตนายกเทศมนตรี ได้ 4,413 คะแนน

.

ด้านเทศบาลเมืองไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จ.ส.อ.มงคล อัศวนิโครธร ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองไทรม้า หมายเลข 1 อดีตนายกเทศมนตรี ได้ 5,389 คะแนน นายนรา สัจจเทพ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองไทรม้า หมายเลข 2 กลุ่มอิสระ ได้ 1,533 คะแนน

.

ด้านเทศบาลตำบลบางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี นายวันชัย วันชาญเวช ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลบางสีทอง หมายเลข 1 อดีตนายกเทศมนตรี ได้ 2,095 คะแนน เอาชนะนายวุฒิไกร กลางทอง ผู้สมัครนายกเทศมนตรี หมายเลข 2 จะพรรคประชาชน ที่ได้ 1,930 คะแนน

วันที่ 11 พ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังผลเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครปฐม อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า “สมโชค พงษ์ขวัญ” จากกลุ่มสันติธรรม ได้ 14,570 คะแนน เบียดชนะ นายชัชวาล นันทะสาร จากพรรคประชาชน ที่ได้ 13,472 คะแนน ห่างกัน 1,098 คะแนน

.

ล่าสุด นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์คลิปผ่าน X (ทวิตเตอร์) หลังทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ระบุว่า

.

เราคาดหวังว่าเราจะสามารถคว้าชัยชนะมาให้พรรคประชาชนได้ ผลออกมาหลังนับไป 95% เราคะแนนตามอยู่ 900 คะแนน เรื่องผลออกมาไม่ว่าแพ้นะเราก็ยอมรับได้ ไม่โทษอะไรทั้งนั้น

.

นางอมรัตน์ กล่าวต่อว่า ปีนี้มีคนไปใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยลงกว่าปี 2564 ที่คนไปใช้สิทธิ 61% แต่วันนี้มีคนไปใช้สิทธิ 51% ลดลง 10% ตรงนี้เป็นเรื่องที่ผิดหวังมากๆ เราพยายามรณรงค์ทุกช่องทางแล้ว แต่ไม่สามารถทำให้คนหันมาสนใจการเลือกตั้งท้องถิ่นได้ ต้องฝากเรื่องนี้ไปที่ กกต.ด้วย

.

ด้านนายชัชวาล นันทะสาร ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครปฐม กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่สนับสนุนเรา ที่ทุกคนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในนครปฐม รอบนี้เราอาจจะยังสื่อสารและรณรงค์ให้เห็นคุณค่าความสำคัญของการเมืองท้องถิ่นซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวได้ไม่มากพอ ทำให้คนออกมาใช้สิทธิไม่มากตามที่คาดหวัง ทำให้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถูกดึงเวลาออกไปอีก ทำให้คนนครปฐมต้องอยู่กับสิ่งที่เป็นปัญหาของนครปฐมมาช้านาน

นายชัชชวาล กล่าวต่อว่า แต่ยังไงก็ยังคาดหวังว่าในการเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งหน้า ทุกท่านจะเห็นความสำคัญของคุณภาพชีวิตที่จะเปลี่ยนแปลงได้ในระดับเทศบาล เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวพวกเราจริงๆ