จริงๆ เรื่องราวชีวิตของเราที่ไม่เคยมูฟออนได้นั้นมีมากมาย
แต่เราขอโฟกัสที่คู่ชีวิตเท่านั้นแล้วกันนะคะ เพราะนอกนั้นเราหลีกเลี่ยงได้
สวัสดีค่ะ ขอสมมุติชื่อเราว่า 'ลิลลี่' นะคะ ปัจจุบันก็อายุย่าง 32 แล้วปีนี้
ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงแบบแต่ก่อนเท่าไหร่ เหมือนกับจิตใจที่จู่ๆ ก็อ่อนแอลง
หวังว่าการสร้างกระทู้นี้จะเต็มไปด้วยกำลังใจดีๆ จากคนที่เข้มแข็งนะคะ
เรื่องราวชีวิตคู่ของเราเริ่มต้นแบบกึ่งปกติ ไม่ได้มีการจีบหวานๆ เอนไปทางอยากเล่นกันมากกว่าในสมัยเรียนมหาลัยปี 2556
เขาอายุมากกว่า 3 ปี และในขณะนั้นเราเป็นเฟรชชี่ที่ซิ่วมาเรียนปี 1 ใหม่จากที่อื่น
เราเจอเขาที่ร้านสักหลังมหาลัย การได้เจอคือเพราะถูกนัดหมายจากช่างให้ไปสัก ซึ่งเขาก็อยู่ที่นั่นค่ะ
เราขอชื่นชมเขาจากหัวใจ (จะว่าหลงก็ได้นะ 555) เขาเป็นคนที่ดีคนหนึ่งเลยค่ะ ไม่งี่เง่า เป็นคนที่มีความคิด โตเป็นผู้ใหญ่
เราคบกับเขามาอย่างราบรื่นตลอด กระทั่งเขาเรียนจบมหาลัยไปก่อนค่ะ แล้วย้ายไปทำงานที่เชียงใหม่ ส่วนเรายังต้องเรียนที่ กทม.
แล้วปัญหามันก็เกิดขึ้นตอนที่เขาไปทำงานเสริมร้านเหล้าของคนรู้จัก สังคมกลางคืนในเชียงใหม่เป็นที่เข้าใจยากสำหรับเราพอสมควร
มีทั้งลูกค้านิสัยแย่และดีปะปนกันไป และหนึ่งในปัญหานั้นก็คือเรื่องลูกค้าผู้หญิงค่ะ
เรามีปัญหากับ ผญ.คนนึงช่วงนั้นที่มาเต๊าะแฟนเรา มาขอไลน์ชวนไปเที่ยวต่อดึกๆ ซึ่งเราไม่โอเคมากๆ
แต่แฟนเราเขาเป็นคนพูดจานิ่ม บอกเราว่ามันไม่มีอะไรก็แค่ลูกค้าประจำคนหนึ่ง ถามว่าเราไว้ใจมั้ยมันก็ 50/50 ค่ะเพราะไม่เคยมีปัญหากันเรื่องนี้เลย
เรื่อง ผญ.คนนี้หายไปจากชีวิตคู่เราหลังจากนั้น 1-2 เดือน (ตามเท่าที่รู้) เพราะเราต้องกลับมาเรียนที่ กทม.ตลอด แวะไปแค่ตอนว่าง
ทุกอย่างดูนิ่งสงบโดยมีเพื่อนผู้ชายเขาช่วยคุยกับเราให้สบายใจ แต่ลึกๆ แล้วอาจจะช่วยกันก็ได้ ไม่อาจรู้ได้เลย
แต่หลังจากนั้นค่ะ เรากับเขาก็ทะเลาะกันจนขอห่างสักพัก เราเฮิร์ตหนักมาก ส่วนเขามีความเคลื่อนไหวในช่วงนั้นดังนี้ค่ะ
1.มีการไปคอมเมนต์ให้เพื่อน ผญ. 2 คนบ่อยๆ เช่น ชมว่าสวย เหมือนเต๊าะนิดหนึ่ง แต่กับเราไม่เคยทำเลยค่ะ จนทุกวันนี้ก็เช่นกันที่ไม่เมนต์และแทบไม่กดไลก์ (ตอนนี้แก้ปัญหาโดยการลบเฟซบุ๊กออกไปเลย เพื่อไม่ต้องหวังอีกแล้วค่ะ)
2.เขาคงลืมว่าเรามีอีเมลเขาและรหัส เขามีการสมัครเว็บหาคู่ค่ะ (ตอนดีกันแล้ว เราถามเขาว่าสมัครทำไม เขาบอกว่าอยากลองดูเฉยๆ แต่ไม่เคยได้นัดใครนะ แต่ตอนนั้นเราเฮิร์ตกลัวเสียเขาไป เลยยอมเชื่อไปค่ะ ซึ่งการเชื่อและไม่เอ่ยถึงอีก มันก็ทำให้เกิดความรู้สึกในวันนี้ขึ้นมาค่ะ)
3.เราห่างกันจนถึงวันครบรอบ 3 ปีค่ะ และเขาโทร.มาบอกเลิกในวันนั้นเลย เราก็เฮิร์ตรับไม่ได้ คิดว่าเราหรือเปล่านะที่ผิดเลยนั่งเครื่องไปง้อที่เชียงใหม่ แต่ก็กลับมาจนวันนี้นะคะ ปีนี้เข้าปีที่ 12 แล้ว
วันที่บินไปง้อ เราไปนอนค้างที่นั่น 2-3 วันและทำความสะอาดห้องให้ค่ะ ปรากฏว่าเราเจอกระดาษที่ถูกขยำทิ้ง 5-6 แผ่นโดยมีสก็อตเทปแปะอยู่ด้วย และด้วยเซนส์ของเรา สายตาเราก็ไปปะกับผนังห้องที่มีรอยแปะสก็อตเทป พอเราเทียบกับมุมองศาสก็อตเทปของกระดาษ สรุปมันใช่เลยค่ะ มันโดนดึงขว้างทิ้งลวกๆ จากผนังจริงๆ
เราคลี่ออกอ่านก็น้ำตาคลอๆ ค่ะ ใจไม่อยากคิดไม่อยากเชื่อว่าระหว่างห่างกันเขาทำหรือเปล่า
เราจำไม่ได้ทุกแผ่นว่าเขียนว่าอะไร แต่จำแผ่นหนึ่งได้ที่เขียนว่า "ถุงเท้ากับเสื้อซักให้แล้วนะ อยู่ในตะกร้าสีน้ำเงิน"
เราช็อกมากพออ่าน และเราก็ไม่เก็บไว้ รีบเดินเอาไปถามกับเขาตรงๆ ว่าช่วงห่างกันพาคนอื่นมาอยู่ด้วยใช่มั้ย และสิ่งที่เขาตอบคือ "มันไม่ใช่ของเขา มันติดมากับหนังสือที่ไปยืมรุ่นพี่คนหนึ่งมา แล้วพี่เขามีกิ๊ก"
เราเลยต้อนว่าทำไมต้องแปะผนังห้องตัวเองล่ะ เขาตอบว่า "เพื่อถ่ายส่งไปแซวรุ่นพี่" ซึ่งเราไม่ได้โง่หรอกค่ะ แต่เขาพูดต่อตอนนั้นว่า "จะไม่เชื่อก็ตามใจนะ"
ด้วยความที่เขาบอกเลิกและเราเป็นคนมาง้อเอง มันถึงได้จบลงแบบปล่อยผ่านไปเลยค่ะ
พอคบกันต่อนาน 2-3 เดือนได้ ทุกอย่างกลับดีขึ้นค่ะ เขาดูโอเคขึ้นเยอะเลย ไม่มีปัญหาอะไรแล้วกระทั่งเราเรียนจบ และย้ายไปอยู่กับเขาที่เชียงใหม่
พอได้ไปอยู่ด้วยกันมันก็ดีไปหมดค่ะ จนลืมเรื่องราวแย่ๆ ที่เคยเกิดขึ้น
และจนมีวันหนึ่งเรากับเขาไปนั่งดื่มกันบนดอยวันปีใหม่ ด้วยความที่ทุกอย่างมันดีแล้ว เราเลยกล้าถามเขาว่า "ตอนนั้นอะ มีคนอื่นไปแล้วใช่มั้ยถึงมาบอกเลิก" ซึ่งดูจะเป็นการทำลายบรรยากาศอยู่ค่ะ และเขาก็ตอบว่า "ยังไงพี่ก็เลือกเธอ"
และมันก็คือคำตอบค่ะ แต่มันผ่านมาแล้วเราเลยปล่อยผ่านอีกครั้ง
จนตอนนี้ เขาอายุมากขึ้น หมดสนุกกับทุกอย่างเพื่อสร้างครอบครัว และเราก็ตั้งครรภ์ลูกคนแรกค่ะ
ตอนนี้ท้อง 6 เดือนกว่าๆ แล้ว เขาตื่นเต้น เขารอคอย เขาดูแลเราทุกอย่างค่ะ ทุกอย่างกำลังดีเลย
แต่เจ้ากรรมฮอร์โมนเรามั้งคะ บวกกับความรู้สึกที่ค้างคาใจที่ปล่อยผ่านมา มันก็ระเบิดเอาตอนนี้น่ะค่ะว่าวันนั้นเราโดนนอกกายนอกใจใช่มั้ย แถมเรื่องที่ชอบใส่ใจคนอื่นผ่านโซเชียลที่ไม่เคยทำให้เราเลยนั่นอีก
แล้วก็...หนึ่งในเพื่อน ผญ.ที่เขาชอบไปเมนต์ชมว่าสวยน่ะค่ะ ล่าสุดเขาไปส่องรูปชุดว่ายน้ำ ผญ.คนนั้น เราจับได้เลยถามว่าดูทำไม เขาบอกมันขึ้นฟีด แต่พอเรากดดูดีๆ สรุปคืออยู่ในอัลบั้มรูป ซึ่งมันคือการกดเข้าไปดูเอง (เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนท้อง ปีที่แล้ว) และเราก็ปล่อยผ่านเพราะไม่อยากทะเลาะเหมือนเดิม จนมันมาระเบิดด้วยกันเอาตอนนี้ค่ะ
เราทราบดีค่ะว่าเรามีส่วนผิดด้วยที่ปล่อยผ่านมาเอง ไม่เคลียร์ให้มันจบตอนนั้น
และจนตอนนี้มันดีไปหมดแล้วน่ะค่ะ แต่เรากลับยังเจ็บปวดกับมันอยู่เสมอ
เราหยิบขุดเอามาทะเลาะเมื่อ 4-5 วันก่อนนี้เอง ร้องไห้ฟูมฟายด้วย และเขาก็พูดค่ะว่า "เรื่องมันตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว ทำไมถึงเอามาพูดตอนนี้ มีลูกแล้ว พี่ไม่ได้ไปไหนเลย ชีวิตพี่มีแค่เธอกับลูกเนี่ย"
เรารู้นะคะว่ามันจบแล้ว ควรโฟกัสอนาคต แต่มันทำไมเหมือนไม่ยุติธรรมสำหรับเราเลย
เราจึงอยากมูฟออนค่ะ แต่เราไม่มีกำลังใจจะก้าวต่อไปได้เลย เราไม่ได้อยากเลิกเพราะเขาดูรักลูกมาก แต่มันยังคงอยู่ในใจตลอดเลยค่ะ
อยากขอกำลังใจหรือคำแนะนำในการก้าวไปข้างหน้า ขณะกำลังจะเป็นแม่คนหน่อยค่ะ
แต่เราขอโฟกัสที่คู่ชีวิตเท่านั้นแล้วกันนะคะ เพราะนอกนั้นเราหลีกเลี่ยงได้
สวัสดีค่ะ ขอสมมุติชื่อเราว่า 'ลิลลี่' นะคะ ปัจจุบันก็อายุย่าง 32 แล้วปีนี้
ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงแบบแต่ก่อนเท่าไหร่ เหมือนกับจิตใจที่จู่ๆ ก็อ่อนแอลง
หวังว่าการสร้างกระทู้นี้จะเต็มไปด้วยกำลังใจดีๆ จากคนที่เข้มแข็งนะคะ
เรื่องราวชีวิตคู่ของเราเริ่มต้นแบบกึ่งปกติ ไม่ได้มีการจีบหวานๆ เอนไปทางอยากเล่นกันมากกว่าในสมัยเรียนมหาลัยปี 2556
เขาอายุมากกว่า 3 ปี และในขณะนั้นเราเป็นเฟรชชี่ที่ซิ่วมาเรียนปี 1 ใหม่จากที่อื่น
เราเจอเขาที่ร้านสักหลังมหาลัย การได้เจอคือเพราะถูกนัดหมายจากช่างให้ไปสัก ซึ่งเขาก็อยู่ที่นั่นค่ะ
เราขอชื่นชมเขาจากหัวใจ (จะว่าหลงก็ได้นะ 555) เขาเป็นคนที่ดีคนหนึ่งเลยค่ะ ไม่งี่เง่า เป็นคนที่มีความคิด โตเป็นผู้ใหญ่
เราคบกับเขามาอย่างราบรื่นตลอด กระทั่งเขาเรียนจบมหาลัยไปก่อนค่ะ แล้วย้ายไปทำงานที่เชียงใหม่ ส่วนเรายังต้องเรียนที่ กทม.
แล้วปัญหามันก็เกิดขึ้นตอนที่เขาไปทำงานเสริมร้านเหล้าของคนรู้จัก สังคมกลางคืนในเชียงใหม่เป็นที่เข้าใจยากสำหรับเราพอสมควร
มีทั้งลูกค้านิสัยแย่และดีปะปนกันไป และหนึ่งในปัญหานั้นก็คือเรื่องลูกค้าผู้หญิงค่ะ
เรามีปัญหากับ ผญ.คนนึงช่วงนั้นที่มาเต๊าะแฟนเรา มาขอไลน์ชวนไปเที่ยวต่อดึกๆ ซึ่งเราไม่โอเคมากๆ
แต่แฟนเราเขาเป็นคนพูดจานิ่ม บอกเราว่ามันไม่มีอะไรก็แค่ลูกค้าประจำคนหนึ่ง ถามว่าเราไว้ใจมั้ยมันก็ 50/50 ค่ะเพราะไม่เคยมีปัญหากันเรื่องนี้เลย
เรื่อง ผญ.คนนี้หายไปจากชีวิตคู่เราหลังจากนั้น 1-2 เดือน (ตามเท่าที่รู้) เพราะเราต้องกลับมาเรียนที่ กทม.ตลอด แวะไปแค่ตอนว่าง
ทุกอย่างดูนิ่งสงบโดยมีเพื่อนผู้ชายเขาช่วยคุยกับเราให้สบายใจ แต่ลึกๆ แล้วอาจจะช่วยกันก็ได้ ไม่อาจรู้ได้เลย
แต่หลังจากนั้นค่ะ เรากับเขาก็ทะเลาะกันจนขอห่างสักพัก เราเฮิร์ตหนักมาก ส่วนเขามีความเคลื่อนไหวในช่วงนั้นดังนี้ค่ะ
1.มีการไปคอมเมนต์ให้เพื่อน ผญ. 2 คนบ่อยๆ เช่น ชมว่าสวย เหมือนเต๊าะนิดหนึ่ง แต่กับเราไม่เคยทำเลยค่ะ จนทุกวันนี้ก็เช่นกันที่ไม่เมนต์และแทบไม่กดไลก์ (ตอนนี้แก้ปัญหาโดยการลบเฟซบุ๊กออกไปเลย เพื่อไม่ต้องหวังอีกแล้วค่ะ)
2.เขาคงลืมว่าเรามีอีเมลเขาและรหัส เขามีการสมัครเว็บหาคู่ค่ะ (ตอนดีกันแล้ว เราถามเขาว่าสมัครทำไม เขาบอกว่าอยากลองดูเฉยๆ แต่ไม่เคยได้นัดใครนะ แต่ตอนนั้นเราเฮิร์ตกลัวเสียเขาไป เลยยอมเชื่อไปค่ะ ซึ่งการเชื่อและไม่เอ่ยถึงอีก มันก็ทำให้เกิดความรู้สึกในวันนี้ขึ้นมาค่ะ)
3.เราห่างกันจนถึงวันครบรอบ 3 ปีค่ะ และเขาโทร.มาบอกเลิกในวันนั้นเลย เราก็เฮิร์ตรับไม่ได้ คิดว่าเราหรือเปล่านะที่ผิดเลยนั่งเครื่องไปง้อที่เชียงใหม่ แต่ก็กลับมาจนวันนี้นะคะ ปีนี้เข้าปีที่ 12 แล้ว
วันที่บินไปง้อ เราไปนอนค้างที่นั่น 2-3 วันและทำความสะอาดห้องให้ค่ะ ปรากฏว่าเราเจอกระดาษที่ถูกขยำทิ้ง 5-6 แผ่นโดยมีสก็อตเทปแปะอยู่ด้วย และด้วยเซนส์ของเรา สายตาเราก็ไปปะกับผนังห้องที่มีรอยแปะสก็อตเทป พอเราเทียบกับมุมองศาสก็อตเทปของกระดาษ สรุปมันใช่เลยค่ะ มันโดนดึงขว้างทิ้งลวกๆ จากผนังจริงๆ
เราคลี่ออกอ่านก็น้ำตาคลอๆ ค่ะ ใจไม่อยากคิดไม่อยากเชื่อว่าระหว่างห่างกันเขาทำหรือเปล่า
เราจำไม่ได้ทุกแผ่นว่าเขียนว่าอะไร แต่จำแผ่นหนึ่งได้ที่เขียนว่า "ถุงเท้ากับเสื้อซักให้แล้วนะ อยู่ในตะกร้าสีน้ำเงิน"
เราช็อกมากพออ่าน และเราก็ไม่เก็บไว้ รีบเดินเอาไปถามกับเขาตรงๆ ว่าช่วงห่างกันพาคนอื่นมาอยู่ด้วยใช่มั้ย และสิ่งที่เขาตอบคือ "มันไม่ใช่ของเขา มันติดมากับหนังสือที่ไปยืมรุ่นพี่คนหนึ่งมา แล้วพี่เขามีกิ๊ก"
เราเลยต้อนว่าทำไมต้องแปะผนังห้องตัวเองล่ะ เขาตอบว่า "เพื่อถ่ายส่งไปแซวรุ่นพี่" ซึ่งเราไม่ได้โง่หรอกค่ะ แต่เขาพูดต่อตอนนั้นว่า "จะไม่เชื่อก็ตามใจนะ"
ด้วยความที่เขาบอกเลิกและเราเป็นคนมาง้อเอง มันถึงได้จบลงแบบปล่อยผ่านไปเลยค่ะ
พอคบกันต่อนาน 2-3 เดือนได้ ทุกอย่างกลับดีขึ้นค่ะ เขาดูโอเคขึ้นเยอะเลย ไม่มีปัญหาอะไรแล้วกระทั่งเราเรียนจบ และย้ายไปอยู่กับเขาที่เชียงใหม่
พอได้ไปอยู่ด้วยกันมันก็ดีไปหมดค่ะ จนลืมเรื่องราวแย่ๆ ที่เคยเกิดขึ้น
และจนมีวันหนึ่งเรากับเขาไปนั่งดื่มกันบนดอยวันปีใหม่ ด้วยความที่ทุกอย่างมันดีแล้ว เราเลยกล้าถามเขาว่า "ตอนนั้นอะ มีคนอื่นไปแล้วใช่มั้ยถึงมาบอกเลิก" ซึ่งดูจะเป็นการทำลายบรรยากาศอยู่ค่ะ และเขาก็ตอบว่า "ยังไงพี่ก็เลือกเธอ"
และมันก็คือคำตอบค่ะ แต่มันผ่านมาแล้วเราเลยปล่อยผ่านอีกครั้ง
จนตอนนี้ เขาอายุมากขึ้น หมดสนุกกับทุกอย่างเพื่อสร้างครอบครัว และเราก็ตั้งครรภ์ลูกคนแรกค่ะ
ตอนนี้ท้อง 6 เดือนกว่าๆ แล้ว เขาตื่นเต้น เขารอคอย เขาดูแลเราทุกอย่างค่ะ ทุกอย่างกำลังดีเลย
แต่เจ้ากรรมฮอร์โมนเรามั้งคะ บวกกับความรู้สึกที่ค้างคาใจที่ปล่อยผ่านมา มันก็ระเบิดเอาตอนนี้น่ะค่ะว่าวันนั้นเราโดนนอกกายนอกใจใช่มั้ย แถมเรื่องที่ชอบใส่ใจคนอื่นผ่านโซเชียลที่ไม่เคยทำให้เราเลยนั่นอีก
แล้วก็...หนึ่งในเพื่อน ผญ.ที่เขาชอบไปเมนต์ชมว่าสวยน่ะค่ะ ล่าสุดเขาไปส่องรูปชุดว่ายน้ำ ผญ.คนนั้น เราจับได้เลยถามว่าดูทำไม เขาบอกมันขึ้นฟีด แต่พอเรากดดูดีๆ สรุปคืออยู่ในอัลบั้มรูป ซึ่งมันคือการกดเข้าไปดูเอง (เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนท้อง ปีที่แล้ว) และเราก็ปล่อยผ่านเพราะไม่อยากทะเลาะเหมือนเดิม จนมันมาระเบิดด้วยกันเอาตอนนี้ค่ะ
เราทราบดีค่ะว่าเรามีส่วนผิดด้วยที่ปล่อยผ่านมาเอง ไม่เคลียร์ให้มันจบตอนนั้น
และจนตอนนี้มันดีไปหมดแล้วน่ะค่ะ แต่เรากลับยังเจ็บปวดกับมันอยู่เสมอ
เราหยิบขุดเอามาทะเลาะเมื่อ 4-5 วันก่อนนี้เอง ร้องไห้ฟูมฟายด้วย และเขาก็พูดค่ะว่า "เรื่องมันตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว ทำไมถึงเอามาพูดตอนนี้ มีลูกแล้ว พี่ไม่ได้ไปไหนเลย ชีวิตพี่มีแค่เธอกับลูกเนี่ย"
เรารู้นะคะว่ามันจบแล้ว ควรโฟกัสอนาคต แต่มันทำไมเหมือนไม่ยุติธรรมสำหรับเราเลย
เราจึงอยากมูฟออนค่ะ แต่เราไม่มีกำลังใจจะก้าวต่อไปได้เลย เราไม่ได้อยากเลิกเพราะเขาดูรักลูกมาก แต่มันยังคงอยู่ในใจตลอดเลยค่ะ