หนังสือ 180 วันในกระทรวงศึกษาธิการ :ประวัติศาสตร์การศึกษาไทย พลิกโฉมหน้าการบริการการศึกษาคนไทยในรอบ 100 ปี

กระทู้สนทนา
หนังสือ 180 วันในกระทรวงศึกษาธิการ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล (พ.ย. 2539 – พ.ค. 2540)

หนังสือ “180 วันในกระทรวงศึกษาธิการ: ประวัติศาสตร์การศึกษาไทย พลิกโฉมหน้าการบริการการศึกษาคนไทยในรอบ 100 ปี” เป็นผลงานรูปธรรม การอภิวัฒน์การศึกษา 2538 ของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในช่วงปี พ.ศ. 2538 -2540 หนังสือเล่มนี้ถ่ายการข้อมูลดำเนินนโยบายและปฏิรูปการศึกษาไทยในช่วงเวลาสำคัญ .

เนื้อหาสำคัญของหนังสือ


การอภิวัฒน์การศึกษา 2538: หนังสือเล่มนี้เน้นย้ำถึงการปฏิรูปการศึกษาครั้งสำคัญในปี พ.ศ. 2538 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้การศึกษามีความทั่วถึงและเท่าเทียม โดยเฉพาะสำหรับเด็กและเยาวชนจากครอบครัวยากจนในชนบท.

แนวคิด “No Child Left Behind”: ของสุขวิชโนมิกส์ ได้นำเสนอแนวคิดที่ว่า “เด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษา” ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาในช่วงเวลานั้น.

การวางรากฐานการศึกษาสำหรับศตวรรษที่ 21: หนังสือยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของระบบการศึกษาไทยเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์และเทคโนโลยี.

ความสำคัญของหนังสือ

หนังสือเล่มนี้ถือเป็นเอกสารสำคัญที่บันทึกประวัติศาสตร์การปฏิรูปการศึกษาไทยในช่วงเวลาสำคัญ และเป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าสำหรับนักวิชาการ นักการศึกษา และผู้ที่สนใจในนโยบายการศึกษา





หากคุณสนใจอ่านหนังสือเล่มนี้เพิ่มเติม  หนังสือ 180 วันในกระทรวงศึกษาธิการ รวบรวมผลงานรูปธรรมของการอภิวัฒน์การศึกษา 2538 https://drive.google.com/file/d/1l9b-mUDDOvsfkyj2DUSzOwBrGM84Lhxt/view?usp=drivesdk


ผลสัมฤทธิ์เชิงรูปธรรมอย่างชัดเจน ที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเวลาเพียง 180 วัน ของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยสามารถสรุปประเด็นหลักที่เป็น “การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ” ได้ดังนี้:


1. การเข้าถึงการศึกษาอย่างแท้จริง (Massive Inclusion)

เด็กทุกคนอายุ 3–17 ปี ได้สิทธิเรียนฟรี พร้อมปัจจัยพื้นฐาน (อาหาร 3 มื้อ, เสื้อผ้า, อุปกรณ์, ที่พัก)
ลดจำนวนเด็กหลุดจากระบบการศึกษา เกือบ 3 ล้านคน ภายในเวลาอันสั้น

2. ขยายโอกาสทางการศึกษาในระดับมหภาค

ขยายโรงเรียนมัธยมต้นเพิ่ม ครอบคลุมทุกตำบล
เปิดทางให้วิทยาลัยอาชีวะและพลศึกษา รับนักเรียนแบบไม่จำกัดจำนวน
ส่งเสริมการศึกษาด้านกีฬา ศิลปะ และอาชีพ อย่างเท่าเทียม

3. งบประมาณตรงถึงโรงเรียน — กระจายอำนาจจริง


โรงเรียนกว่า 30,000 แห่งได้รับ งบประมาณโดยตรงครั้งแรก รวม 3,000 ล้านบาท
พัฒนาโรงเรียนทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี (ห้องภาษา, ห้องวิทย์, ห้องคอม)

4. การปฏิรูปคุณภาพครูแบบบูรณาการ

ครูได้รับการอบรมทุก 2 ปี เน้นการใช้เทคโนโลยี
แก้ปัญหาหนี้สินครู ด้วยกองทุน 500 ล้านบาท
ยกระดับสวัสดิการ และคุณภาพชีวิตของครูทั่วประเทศ

5. บริหารราชการแบบเปิด และลดระบบรวมศูนย์

เริ่มต้น “การกระจายอำนาจสู่โรงเรียน” อย่างแท้จริง ระบบโรงเรียนนิติบุคคล:สุขวิชโนมิกส์
ปรับระบบการทำงานในกระทรวงให้เป็นทีม รวดเร็ว และไม่ซ้ำซ้อน

6. บูรณาการการศึกษาเข้ากับรากวัฒนธรรมไทย

พัฒนาวิทยาลัยศิลปะ ดนตรี ศาสนา และวัฒนธรรม
ส่งเสริม “คุณภาพคนไทยอย่างรอบด้าน” ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์

สรุป: “ปฏิรูปที่ลงมือทำจริง”

คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล เสนอแนวคิด และ สามารถ แปลงนโยบายเป็นการลงมือทำ ได้ภายในเวลาเพียง 6 เดือน หลังจากการเริ่มใช้ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 หลังจากท่าน คิดกระบวนทัศน์ใหม่ในการจัดทำแผนพัฒนาฯ 8 : มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และสร้างผลลัพธ์ระดับประเทศที่เห็นผลได้ชัดเจน—ทั้งในด้านโอกาส, คุณภาพ และการเข้าถึงการศึกษาของประชาชนไทย


อภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538–2540 ภายใต้การนำของ ศ.ดร.สุขวิช รังสิตพล คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่ลึกและกว้างขวางที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยยุคใหม่ แม้อยู่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจแห่งเอเชีย


ต่อไปนี้คือ การสรุปเชิงวิเคราะห์แบบองค์รวม ที่สามารถนำไปใช้เผยแพร่หรือจัดทำเอกสารทางวิชาการ/นิทรรศการ/นิพนธ์ได้:

“อภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538–2541”

โดย คุณพ่อสุชวิช รังสิตพล : 
“ติดอาวุธทางปัญญาให้ประชาชน สู้ความยากจนและยาเสพติด ด้วยสันติวิธี”


1. เปลี่ยนประเทศไทยด้วยการบริการให้ “เด็กไทยทุกคนได้เรียน”

เป็นครั้งแรกที่ การศึกษาเป็นสวัสดิการถ้วนหน้า: ครอบคลุมเด็ก 3–17 ปี กว่า 16.68 ล้านคน
รับเพิ่ม เด็กยากจน 4.35 ล้านคน ได้รับการจัดสรรปัจจัยพื้นฐานครบครัน
การศึกษาฟรีไม่ใช่แค่คำพูด แต่มี อาหาร เสื้อผ้า ค่าเดินทาง อุปกรณ์ และที่พักอาศัย

2. ปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานการศึกษาครั้งใหญ่ที่สุด

ปรับปรุงโรงเรียน 29,845 แห่ง ทั่วประเทศ
สร้าง/ปรับปรุงอาคารเรียนกว่า 38,000 หลัง
กระจายงบตรงถึงโรงเรียนทั่วประเทศ โดยไม่ผ่านระบบรวมศูนย์ เป็นครั้งแรก


3. ปักหมุด “รัฐธรรมนูญ 2540” ด้วยพลังจากการศึกษา

สิทธิเรียนฟรี 12 ปี (ม.43) และก่อนวัยเรียน 3ปี  (ม.80)
การศึกษากลายเป็น สิทธิตามกฎหมาย ไม่ใช่ความเมตตา
เป็นรัฐธรรมนูญที่มาโดยสันติ ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุเข้าใจผิดตามบันทึกบิดเบือน

4. สร้าง “ศูนย์การเรียนรู้” ปิดล้อมปัญหายาเสพติดและความยากจน

ห้องสมุดโรงเรียนมัธยม 2,542 แห่ง
ห้องสมุดประชาชน, พิพิธภัณฑ์, ศูนย์การเรียนรู้ กว่า 30,000 แห่ง
ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ กาญจนาภิเษก 99 แห่ง กระจายทั่วประเทศ

5. ก่อตั้งสถาบันเพื่อโอกาสของประชาชนทุกกลุ่ม

สถาบันอุดมศึกษาใหม่ เช่น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, ราชภัฏ 5 จังหวัด
โรงเรียนมัธยมคุณภาพระดับชาติ เช่น จุฬาภรณ์, กาญจนาภิเษก, มหิดลวิทยานุสรณ์
ขยายศูนย์เด็กเล็กจาก 74 เป็น 3,470 แห่ง
ตั้ง อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรม

บทสรุป: การอภิวัฒน์ที่ไม่ใช่แค่ “นโยบาย”

คือการสร้าง รัฐสวัสดิการทางการศึกษา อย่างแท้จริง
คือการเปลี่ยนแปลงประเทศ “โดยประชาชน เพื่อประชาชน”
คือประวัติศาสตร์ที่ยังไม่ถูกเขียนลงในตำรา แต่ปรากฏในชีวิตจริงของคนไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่