ความเสียหาย 1.62 ล้านบาท จากการลดค่าเงินบาท เปรียบเทียบกับ การขุดคลอง 2 แสนกิโลเมตร : สุขวิชโนมิกส์

รวมทั้งหมดเป็นค่าเสียหาย,การกู้ยืมจาก IMF และ FIDF ดังนี้:

ค่าเสียหายที่เรียกร้องในคดี เริงชัย มะระกานนท์ จำนวน 198,400,000 บาท
การกู้ยืมจาก IMF จำนวน 480,000 ล้านบาท
การกู้ยืมจาก FIDF จำนวน 1,140,000 ล้านบาท
รวมทั้งหมด = 480,000 ล้านบาท + 1,140,000 ล้านบาท + 198,400,000 บาท
= 1,620,198,400,000 บาท หรือ 1.62 ล้านล้านบาท

นี่คือจำนวนรวมของค่าเสียหายและหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตการเงินปี 1997 ในประเทศไทย.

ข้อมูลพื้นฐาน:

เงินต้น (PV): 1.62 ล้านล้านบาท
ระยะเวลา (t): 6 ปี
อัตราการเติบโต (r):

สำหรับ การลดค่าเงิน: สมมติอัตราการเติบโตที่ 3% ต่อปี
สำหรับ โครงการขุดคลองสุขวิช: สมมติอัตราการเติบโตที่ 5% ต่อปี

การคำนวณมูลค่าอนาคต (Future Value - FV) ตามสูตร:

FV = PV \times (1 + r)^t

1. การลดค่าเงิน:

อัตราการเติบโต (r) = 3% หรือ 0.03
FV = 1.62 \times (1 + 0.03)^6 = 1.62 \times 1.19405 \approx 1.93 \, \text{ล้านล้านบาท}

2. โครงการขุดคลองตามแนวคิดสุขวิชโนมิกส์:ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ประชาชนเป็นศูนยกล่างซึ่งกำลังได้รับควาสนิยม ในโลกยุคDisruption หลังจากพ่ายแพ้กับ แนวทางประชานิยมในยุคโลกาภิวัตน์

อัตราการเติบโต (r) = 5% หรือ 0.05
FV = 1.62 \times (1 + 0.05)^6 = 1.62 \times 1.3401 \approx 2.17 \, \text{ล้านล้านบาท}

สรุปผลการคำนวณ:

ผลตอบแทนจาก การลดค่าเงิน ในปี 2545 คือ 1.93 ล้านล้านบาท
ผลตอบแทนจาก โครงการขุดคลองสุขวิช ในปี 2545 คือ 2.17 ล้านล้านบาท

การเปรียบเทียบ:

ผลตอบแทนจาก โครงการขุดคลองสุขวิช (2.17 ล้านล้านบาท) จะสูงกว่าผลตอบแทนจาก การลดค่าเงิน (1.93 ล้านล้านบาท) ประมาณ 0.24 ล้านล้านบาท ในระยะเวลา 6 ปี (2540-2545)

การเปรียบเทียบนี้แสดงให้เห็นว่า การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการขุดคลองสุขวิชโนมิกส์ ให้ผลตอบแทนสูงกว่าในระยะยาวเมื่อเทียบกับการลดค่าเงิน ซึ่งได้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าและมีผลกระทบระยะสั้นมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่