ได้ข่าวออกว่า 7HD เตรียมจะเปิดไลน์ละครใหม่ สิ่งที่น่าสนใจสุดคือ การ “เปิดรับผู้จัดข้างนอก” เข้ามาร่วมผลิตละครด้วย ซึ่งเราว่าดีมากกกกกก เพราะรู้สึกว่าละครช่อง 7 ถึงเวลาต้อง “ยกเครื่อง” กันแบบจริงจังได้แล้ว บทซ้ำ พล็อตเดิม คาแรกเตอร์ตัวละครแบบเดิม ๆ มุมกล้องเดิม ๆ การตัดต่อก็ยังเดิมทั้งหมดนี้กลายเป็นภาพจำที่ทำให้คนดูรู้สึกเบื่อ แม้ว่าบางค่ายจะเคยทำเรตติ้งดีในอดีต แต่ยุคนี้ “บริบทมันเปลี่ยน” คนดูเปลี่ยน แพลตฟอร์มเปลี่ยน พฤติกรรมคนเสพสื่อเปลี่ยน แต่ผู้ผลิตยังใช้วิธีเดิม ก็เลย “ไม่รอด”
ใครที่ติดตามละครช่อง 7 มานาน คงสังเกตเหมือนกันมั้ยว่า…หลายเรื่องที่ถูกวิจารณ์บ่อย ๆ จากโซเซียล ไม่ว่าจะเป็น บท พล็อต มุมกล้อง การตัดต่อ มันมักจะมาจาก “ค่ายเดิม ๆ” (เพราะช่องมีผู้จัดมีน้อยหรือยังไงไม่ทราบ) บางค่ายดูเหมือนอาจจะยังไม่เข้าใจพฤติกรรมผู้ชมยุคใหม่ แค่เห็นชื่อเรื่องก็คาดเดาได้เลยว่าจะมาแนวไหน และบ่อยครั้ง “ดราม่านอกจอ” ก็ยิ่งพาให้ภาพรวมของละครเสียไปอีก
ซึ่งบางคนอาจแย้งว่าเพราะ “งบน้อยไง ละครมันเลยออกมาได้เท่านั้น” เราเข้าใจเลย ปัญหานี้ แต่เราว่าก็ต้องเข้าใจคนออกเงินด้วยนะ ด้วยสถานการณ์ทีวีดิจิทัลตอนนี้มันเป็นยังไง ละครเรื่องหนึ่งธรรมดาก็ลงทุนหลักสิบล้านยี่สิบล้าน คิดตอนจะขายโฆษณาทีมขายต้องขายยังไงให้ได้กำไรไม่ขาดทุนในยุคนี้ ที่โฆษณาแชร์ไปหลายแพลตฟอร์มและออนไลน์โฆษณาก็ถูก ช่องก็ลดจำนวนละครลง หรือบางช่องเลิกผลิตไปเลยก็มี จะให้ทุ่มไม่อั้นเหมือนยุคก่อนมันก็ไม่ไหวหรอก เข้าใจช่องด้วยนะคะ
คือถ้าไปโฟกัสที่ “เนื้อเรื่อง” เรากลับคิดว่า “ละครจะสนุกหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่งบเสมอไป แต่อยู่ที่บทและการเล่าเรื่อง” จะพล็อตธรรมดาแค่ไหน ถ้าเล่าเป็น มีมุมใหม่ ๆ มีพัฒนาการของตัวละคร มันก็สนุกได้ ไม่จำเป็นต้องอลังการเสมอไปหรอก จริงไหม?
ขอยกตัวอย่างค่าย ปรากฏการณ์ดี ที่ทำละคร หงษ์เหนือมังกร , ตะวันอาบดาว ทำไมค่ายนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยโดนติล่ะ ค่ายนี้เขาได้งบเยอะไหมไม่ทราบนะ เรื่องล่าสุดอย่าง “หลงกลิ่นจันทร์” ที่เป็นแนวเป็นดราม่าสืบสวน คือ ทั้งบท การถ่ายทำ มู้ดแอนด์โทน จังหวะการเล่าเรื่อง คือได้รับแต่คำชม และแตกต่างจากแนวเดิมที่เราคุ้นเคยจากช่อง 7
ซึ่งเราว่าส่วนใหญ่นอกจากงบ คืออยู่ที่ผู้ผลิตผู้จัดด้วย แหละ ที่จะเลือกเรื่องเลือกพล็อตอย่างไง เลือกพล็อตสนุก เลือกเรื่องที่ทำไมต้องอลังมันก็สนุกได้นะ ประกอบกับผู้อนุมัติละครต้องทันเทรน์คนดูนิดหนึ่ง
ซึ่งตอนนี้ช่องเหมือนเริ่มรู้ มีการจะให้ผู้จัดข้างนอกมาร่วมผลิตละคร ดีแล้วค่ะ อยากให้ช่องประเมินด้วย ค่ายไหนที่ทำแล้ว คนดูบ่นซ้ำ ๆ เรื่องเดิม ๆ ก็ควร “พักก่อน” แล้วหันมาให้โอกาส “ผู้จัดนอกช่อง” หรือ “ผู้จัดหน้าใหม่” ได้แสดงฝีมือบ้าง ถึงเวลาต้องมี “ระบบประเมิน” อย่างจริงจัง ดูว่าให้งบเรื่องนี้ประมาณนี้ใกล้เคียงกันงานจะออกมาเป็นแบบไหน ไม่ใช่เพราะเคยได้เรตติ้งดีในอดีตก็ได้สิทธิ์ทำต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีการปรับอะไรเลย
และเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างอื่น ๆ เห็นมีการเชิญดาราอิสระมาร่วมงานหรือศิษย์เก่ามาร่วมงานบ่อยขึ้น ล่าสุดศิษย์เก่าอย่าง “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ” ที่มาออกรายการก็แอบบอกว่าอยากกลับมาเล่นละครช่อง 7HD หรือ “กิ๊ก สุวัจนี” ที่ก็เพิ่งมาที่ช่อง 7 สองสามเดือนก่อน เราว่าถ้าเอาเรียกดารานอกช่องนอกสังกัดหรือศิษย์เก่ามาจอยละครใหม่ก็น่าจะดีด้วนะ อาจช่วยสร้างกระแสให้ช่องได้เหมือนกัน
นี่คือความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ ยังเชื่อว่า ช่อง 7 ยังมีศักยภาพ มีทุน เห็นการเปลี่ยนแปลง
ช่องเตรียมทำซีรีส์วาย ซีรีส์ยูริ ก็กลายเป็นกระแสในโซเชียลแล้ว ยังไม่ทันฉายแต่คนก็พูดถึงเยอะมาก โดยเฉพาะโปรเจกต์
4 Elements คนใน X ก็คือช่วยเชียร์สุด คอนเทนต์อื่น ๆ เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง แล้ว แต่ละครก็ “เปลี่ยน” แบบจริงจังด้วยค่า สู้ ๆ ค่า
7HD ควรพักปัญหาเดิม ๆ จากค่ายเดิม ๆ ได้แล้วหรือยัง? ถึงเวลายกเครื่องละคร เปิดทาง “ผู้จัดนอก” มาผลิตละคร แล้วมาประเมิน
ใครที่ติดตามละครช่อง 7 มานาน คงสังเกตเหมือนกันมั้ยว่า…หลายเรื่องที่ถูกวิจารณ์บ่อย ๆ จากโซเซียล ไม่ว่าจะเป็น บท พล็อต มุมกล้อง การตัดต่อ มันมักจะมาจาก “ค่ายเดิม ๆ” (เพราะช่องมีผู้จัดมีน้อยหรือยังไงไม่ทราบ) บางค่ายดูเหมือนอาจจะยังไม่เข้าใจพฤติกรรมผู้ชมยุคใหม่ แค่เห็นชื่อเรื่องก็คาดเดาได้เลยว่าจะมาแนวไหน และบ่อยครั้ง “ดราม่านอกจอ” ก็ยิ่งพาให้ภาพรวมของละครเสียไปอีก
ซึ่งบางคนอาจแย้งว่าเพราะ “งบน้อยไง ละครมันเลยออกมาได้เท่านั้น” เราเข้าใจเลย ปัญหานี้ แต่เราว่าก็ต้องเข้าใจคนออกเงินด้วยนะ ด้วยสถานการณ์ทีวีดิจิทัลตอนนี้มันเป็นยังไง ละครเรื่องหนึ่งธรรมดาก็ลงทุนหลักสิบล้านยี่สิบล้าน คิดตอนจะขายโฆษณาทีมขายต้องขายยังไงให้ได้กำไรไม่ขาดทุนในยุคนี้ ที่โฆษณาแชร์ไปหลายแพลตฟอร์มและออนไลน์โฆษณาก็ถูก ช่องก็ลดจำนวนละครลง หรือบางช่องเลิกผลิตไปเลยก็มี จะให้ทุ่มไม่อั้นเหมือนยุคก่อนมันก็ไม่ไหวหรอก เข้าใจช่องด้วยนะคะ
คือถ้าไปโฟกัสที่ “เนื้อเรื่อง” เรากลับคิดว่า “ละครจะสนุกหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่งบเสมอไป แต่อยู่ที่บทและการเล่าเรื่อง” จะพล็อตธรรมดาแค่ไหน ถ้าเล่าเป็น มีมุมใหม่ ๆ มีพัฒนาการของตัวละคร มันก็สนุกได้ ไม่จำเป็นต้องอลังการเสมอไปหรอก จริงไหม?
ขอยกตัวอย่างค่าย ปรากฏการณ์ดี ที่ทำละคร หงษ์เหนือมังกร , ตะวันอาบดาว ทำไมค่ายนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยโดนติล่ะ ค่ายนี้เขาได้งบเยอะไหมไม่ทราบนะ เรื่องล่าสุดอย่าง “หลงกลิ่นจันทร์” ที่เป็นแนวเป็นดราม่าสืบสวน คือ ทั้งบท การถ่ายทำ มู้ดแอนด์โทน จังหวะการเล่าเรื่อง คือได้รับแต่คำชม และแตกต่างจากแนวเดิมที่เราคุ้นเคยจากช่อง 7
ซึ่งเราว่าส่วนใหญ่นอกจากงบ คืออยู่ที่ผู้ผลิตผู้จัดด้วย แหละ ที่จะเลือกเรื่องเลือกพล็อตอย่างไง เลือกพล็อตสนุก เลือกเรื่องที่ทำไมต้องอลังมันก็สนุกได้นะ ประกอบกับผู้อนุมัติละครต้องทันเทรน์คนดูนิดหนึ่ง
ซึ่งตอนนี้ช่องเหมือนเริ่มรู้ มีการจะให้ผู้จัดข้างนอกมาร่วมผลิตละคร ดีแล้วค่ะ อยากให้ช่องประเมินด้วย ค่ายไหนที่ทำแล้ว คนดูบ่นซ้ำ ๆ เรื่องเดิม ๆ ก็ควร “พักก่อน” แล้วหันมาให้โอกาส “ผู้จัดนอกช่อง” หรือ “ผู้จัดหน้าใหม่” ได้แสดงฝีมือบ้าง ถึงเวลาต้องมี “ระบบประเมิน” อย่างจริงจัง ดูว่าให้งบเรื่องนี้ประมาณนี้ใกล้เคียงกันงานจะออกมาเป็นแบบไหน ไม่ใช่เพราะเคยได้เรตติ้งดีในอดีตก็ได้สิทธิ์ทำต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีการปรับอะไรเลย
และเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างอื่น ๆ เห็นมีการเชิญดาราอิสระมาร่วมงานหรือศิษย์เก่ามาร่วมงานบ่อยขึ้น ล่าสุดศิษย์เก่าอย่าง “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ” ที่มาออกรายการก็แอบบอกว่าอยากกลับมาเล่นละครช่อง 7HD หรือ “กิ๊ก สุวัจนี” ที่ก็เพิ่งมาที่ช่อง 7 สองสามเดือนก่อน เราว่าถ้าเอาเรียกดารานอกช่องนอกสังกัดหรือศิษย์เก่ามาจอยละครใหม่ก็น่าจะดีด้วนะ อาจช่วยสร้างกระแสให้ช่องได้เหมือนกัน
นี่คือความเห็นส่วนตัวล้วน ๆ ยังเชื่อว่า ช่อง 7 ยังมีศักยภาพ มีทุน เห็นการเปลี่ยนแปลง ช่องเตรียมทำซีรีส์วาย ซีรีส์ยูริ ก็กลายเป็นกระแสในโซเชียลแล้ว ยังไม่ทันฉายแต่คนก็พูดถึงเยอะมาก โดยเฉพาะโปรเจกต์ 4 Elements คนใน X ก็คือช่วยเชียร์สุด คอนเทนต์อื่น ๆ เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง แล้ว แต่ละครก็ “เปลี่ยน” แบบจริงจังด้วยค่า สู้ ๆ ค่า