สวัสดีค่ะ ปัญหานี้มีมาสักพักแล้วค่ะ นอนคิดเสียใจมาก็หลายคืน จนตอนนี้ปวดหัวอยู่บ่อยครั้งไม่รู้ว่าเครียดเกินไปรึเปล่า ประเด็นตัวหนูอายุ 26 เพิ่งจะทำงานที่ค่อยข้างมั่นคงได้ไม่กี่เดือน ยังไม่ทันสร้างหรือให้รางวัลความพยายามในความสำเร็จของตัวเอง แม่ก็เริ่มขอเงิน เริ่มถามว่าหนูจะให้เงินแม่ใช้เดือนละเท่าไร หนูเพิ่งจะทำงานได้ 3 เดือน เงินเดือนแรกหนูก็ให้ที่บ้านส่วนหนึ่งเพราะเค้าขอเป็นเงินขวัญถุง หนูก็ให้ไม่ได้คิดอะไร พอหนูมีเงินพอจะทำตามความฝันในวัยเด็กที่หนูเคยอยากได้อยากมีแล้วแม่บอกว่าโตขึ้นอยากได้อะไรก็หาเงินซื้อเอง หนูก็เริ่มทำทีละอย่างเท่าที่กำลังหนูจะซื้อได้จะสร้างไหว หนูบอกเค้าว่ารอก่อนนะขอเก็บเงินซื้อโทรศัพท์ก่อน เพราะเครื่องนี้มันไม่ไหว พอซื้อมาแม่ก็ไม่พอใจ ทะเลาะกันแทบจะไม่คุยเลย ทั้งๆที่ก็ใช้เงินที่หนูหามาได้หามาเอง ก่อนที่หนูจะได้กลับมาทำงานแถวบ้าน ห้องที่หนูอยู่ตอนนี้ก็เงินหนูเองติดฝ้า ทาสี ติดแอร์ ปูพื้น เปลี่ยนห้องน้ำก็เงินเก็บหนูเองทั้งนั้นหนูไม่ได้ไปรบกวนเงินเค้าเลยสักบาท หนูมานั่งคิดว่าเค้าควรจะภูมิใจในตัวหนูไหมที่ไม่เคยขอเงินเค้าใช้เลย ผิดกับเด็กแถวบ้านคนอื่นๆ จากนั้นเค้าก็เลยถามว่าจะให้เค้าเดือนละเท่าไร ให้พ่อ ให้น้อง ให้ยายกันคนละเท่าไร ตอนเด็กหนูเคยคิดไว้ว่าจะให้เงินเค้าตอนทำงานแล้ว แต่นี่คือต้องให้ ต้องให้กับอยากให้มันก็คนคละความรู้สึกแล้ว เหมือนแม่เลี้ยงเราเป็นวัตถุ เป็นสิ่งของ หนูอยากใช้เงินของหนูทำอะไรก็ไม่ได้ ชอบยกตัวอย่างคนนี้คนนั้นมาว่าว่าเค้าใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย ไม่ดีโง้นงี้ ชีวิตใครชีวิตมัน เลี้ยงก็เลี้ยงได้แต่ตัว หวังจะมาเลี้ยงตอนแก่ ลงทุนกับเราเพื่อมาหวังผล ผลมันก็คือสิ่งที่ลูกเค้าจะทำให้อยู่แล้วในหน้าที่ลูก ทุกคนก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง ขนาดยายแม่ยังเลี้ยงไม่ได้เลย หนี้อะไรก็ใช้ไม่หมดเท่าหนี้บุญคุณ ทุกวันแม่ทำให้หนูเสียใจมาก อยากจะหนีไปให้ไกลหรือไม่ก็ตายๆไปสะ ถ้าเกิดมาต้องเดินตามทางที่คนอื่นชี้นิ้วสั่งให้เดิน ถ้าคนเป็นพ่อเป็นแม่มาอ่าน คุณเป็นแบบนี้กับลูกคุณไหมคะ
ทำไมแม่ถึงเป็นแบบนี้ เห็นลูกเป็นอะไร