กลับมาเจอกันในตอนที่โตขึ้น ควรไปต่อหรือพอเเค่นี้?

เราเคยมีเเฟนเมื่อตอนเรียนมัธยมปลาย เขาเป็นรุ่นพี่เราปีนึง ช่วงนั้นเราตามจีบประมาณ9เดือนกว่าจะได้เป็นเเฟนกัน พี่รหัสของเราเป็นเพื่อนสนิทกับเขา เวลาไปไหนเราเลยได้ไปกับเขาบ่อยๆ ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาเป็นคนดีมาก ดีมากจริงๆ เชียร์ให้เราได้คบกัน จนเราได้เป็นเเฟนกับเขา เราดีใจมากกกกกกกกกกก เป็นความรักที่เราดีใจมากๆที่ได้เจอคนที่เข้ากันได้มากขนาดนี้ มันดีมากๆ เขาเป็นคนเทคเเคร์ ดูเเล ใส่ใจเราดีทุกอย่าง ใจเย็น จริงๆเรื่องพวกนี้อาจจะเป็นเบสิคเลิฟสำหรับใครหลายๆคนเเต่สำหรับเรามันดีมาก เขาเป็นgreen flag 100%คนนึงอย่างที่เพื่อนเขาบอกเลยค่ะ ตอนไปรร.ส่วนใหญ่เราจะเจอกันตอนเช้า(ไปรร.ด้วยกัน)เย็น(เล่นกีฬาด้วยกันกลับบ้านด้วยกัน) ถ้าวันไหนไม่ได้เจอกันก็จะไปเจอกันหลังเลิกเรียน เขาจะพาไปหาอะไรกินตลอด เวลาเราทำงานพาร์ทไทม์ส. อา. หรือมีประชุมเขาก็จะเป็นไปรับ-ส่งเราทำงาน วิชาไหนที่เรียนไม่เข้าใจเขาก็จะสอนให้(เรียนสายเดียวกันอาจารย์ส่วนใหญ่ที่เรียนด้วยเป็นคนเดียวกัน) เวลาเครียดมากๆหรือไม่สบายใจดึกเเค่ไหนเขาก็จะขอพ่อกับเเม่เขาออกจากบ้านมาหาเรา พาเราไปขี่รถเล่นให้สบายใจ เจออะไรก็จะนึกถึงเราตลอด ถามตลอดว่าเอาอันนั้นไหมอันนี้เดี๋ยวซื้อมาฝาก เซอร์ไพรส์เก่งมากๆ อยู่ด้วยเเล้วพากันเป็นเด็กได้ตลอดเป็นตัวเองไม่ต้องเฟคอะไรใส่กันเลย คอยเตือนคอยเเนะนำเราตลอดเวลาเราต้องตัดสินใจอะไร เราเป็นคนที่ไม่สนิทกับครอบครัวตัวเองเลยตั้งเเต่เด็กจนโตเวลามีอะไรก็จะเก็บไว้เองคนเดียวคุยกับใครไม่ได้ คือพอมีเขาเป็นคนซัพพอร์ตความคิดซัพพอร์ตอะไรเราเราก็รู้สึกว่ามีบ้านเป็นของตัวเอง มีเขาเป็นเเทบทุกอย่างให้ในเวลานั้น เขาเป็นคนรักครอบครัวมากๆๆๆๆๆ ครอบครัวเขาก็ดีกับเรามากๆเหมือนกัน ชวนไปกินข้าวที่บ้านบ่อยๆ เวลาไปเที่ยวหรือไปไหนก็จะให้เขามาชวนเราไปด้วย ก่อนหน้านี้เราเจอคสพ.ไม่ค่อยดีเลย ถึงจะรู้ว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้ในวัยนี้ก็ไม่ควรคาดหวัง เเต่เราคาดหวังมากๆ ปกติเราเป็นคนชินกับการอยู่คนเดียวใช้ชีวิตคนเดียวเงียบๆไม่ค่อยสุงสิงกับใครไม่มีเป้าหมายอะไรที่อยากทำ พอเราเจอความรักครั้งนี้ทำให้เราอยากเปลี่ยนตัวเอง กลับมาดูเเลมาพัฒนาตัวเองพร้อมกับการรักเขาไปด้วย อยากโตไปพร้อมๆกับเขา infpเป็นพวกช่างฝันอ่ะเนอะ เราเป็นคนไม่ชอบเด็กมากๆไม่อยากมีลูกเลยรู้สึกว่าตัวเองคงเป็นเเม่ที่ยังดีไม่พอ เเต่พอมีเขาเเล้วเรากลายเป็นคนที่อยากมีลูก อยากมีครอบครัว อยากสร้างครอบครัวไปด้วยกัน เพราะเขาก็คงจะเป็นพ่อที่ดีให้ลูกของเราได้เเน่นอน  คิดเเบบนี้มาตลอด จนเขาขึ้นมหาลัยปี1 เราอยู่ม6 ระยะทางห่างกันประมาณ80กม. อ่านมาถึงตรงนี้หลายๆคนน่าจะเดาได้ว่าจะเป็นยังไง ช่วงที่เขาไปเรียนเเรกๆก็ปกติเลย คุยกันเเทบจะตลอดเพราะปกติเราเจอกันทุกวัน ช่วงปิดเทอมก็เจอกันทุกวัน พอห่างกันก็เลยติดกันมากกว่าเดิม พอวันหยุดส. อา.เขาก็จะขับรถกลับมาหาเรา พาเราไปกินข้าวด้วยกัน ทำนู่นนี่ด้วยกันเเล้วก็กลับมหาลัย(ซึ่งสำหรับเราเเล้วการขับรถไกลๆเพื่อมากินข้าวกับเรา เราเรียกว่าความรักมากๆ)บางครั้งวันไหนเลิกคลาสเร็วก็จะมารอรับเราที่รร.ไปส่งที่บ้าน เป็นเเบบนี้อยู่ประมาณ2เดือน มีครั้งนึงทำกิจกรรมเฟรชชี่เลิก3ทุ่ม ตอนนั้นเขาบอกกับเราว่าเเบตทรศ.จะหมด กำลังรอเพื่อนซื้อข้าวอยู่ เรากลัวว่าถ้าเเบตเขาหมดมีอะไรฉุกเฉินจะติดต่อใครไม่ได้เราเลยบอกเขาว่างั้นถ้าถึงห้องเเล้วเราค่อยคุยกันก็ได้ เขาก็โอเค กลังจากนั้นเราก็ส่งข้อความหาเขาเรื่อยๆ ชม.ละข้อความ(ปกติเราเป็นคนไม่ส่งข้อความซ้ำหรือรัวเเชทใส่เลย) เรารอจนเที่ยงคืนกว่าเขาก็ยังไม่มาตอบจนเราบอกว่างั้นเรานอนก่อนนะ กลับถึงเเล้วทิ้งข้อความไว้หน่อย ตื่นเช้ามาเราเห็นข้อความของเราทักเรามาเมื่อตอนตี4? บอกว่าถึงห้องเเล้ว กำลังอาบน้ำนอน เขาตื่นไปเรียนปกติ เราก็ตื่นไปรร.ปกติเเต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรไปก็ฟีลงอนๆเเหละ ว่าเออเขาหายไปไหนทั้งคืน ไม่อธิบายกับเราเลยว่าไปไหนทำอะไรมา ทำตัวปกติ พอเราไปรร.เพื่อนเราที่เป็นน้องรหัสของเเฟนเราก็ถามประมาณว่า เออเมื่อคืนเเฟนไปกินเหล้ากับพี่รหัสกูนิ เราก็งง ว่าห้ะ? ใช่หรอ ไปรู้มาได้ไงว่าเขาไปกิน เขาไม่ได้บอกอะไรกูเลย เพื่อนก็บอกว่าพี่รหัสเพื่อนเราลงสตอรี่ เเต่เขาปิดสตอรี่เราไว้  เราเลยไปถามเเฟนเราก็คือไปมาจริงๆเเต่เเฟนเราก็ไม่ได้เอาลงต่อเพราะกลัวเราจะไม่สบายใจ เพื่อนเราเลยไปถามเพื่อนเเฟนเรา(ผช=A)ว่า ทำไมถึงทำเเบบนี้ ปิดสตร.เราทำไม ทำไมไม่บอกตรงๆ เพื่อนเเฟนเราพิมพ์ให้เพื่อนเราว่า เขาอยากให้เราเข้าใจนะว่าชีวิตมหาลัยกับชีวิตมัธยมมันต่างกัน มันต้องใช้ชีวิต มันต้องมีสังคม อยากให้เราเข้าใจเเฟนเราในส่วนนี้บ้าง เราเลยบอกกับเเฟนว่า ทำไมเพื่อนเธอถึงพิมพ์เเบบนี้มาให้เรา ทั้งที่เราไม่เคยห้ามเธอเลยไม่ว่าจะเรื่องดื่มเหล้า เรื่องเข้าสังคม เรื่องเที่ยวอะไรก็เเล้วเเต่ เราก็พยายามเข้าใจให้ได้มากที่สุดอยู่ เเต่เรื่องเดียวที่เราเคยขอกับเเฟนตั้งเเต่เราจีบเขาอาทิตว์เเรก ว่าจะหายไปไหนจะทำอะไรขอเเค่บอก เเค่พิมพ์บอกหรือโทรบอกว่ากำลังจะไปไหนทำอะไรเเค่นั้น จะไปเป็น1234ชม.เราก็จะไม่อะไรด้วยเลย เราขอเเค่นี้จริงๆ คนที่ต้องรออีกฝ่าย เป็นห่วงอีกฝ่าย คิดมากว่าเขาจะเป็นอะไรไหมหายไปไหนทำอะไรอยู่มันต้องรู้สึกเเย่เเค่ไหน เเบตเขาหมดจริง ไปดื่มกับเพื่อนจริง ในสตร.ที่เพื่อนเขาลง ทุกคนมีทรศ.เล่น ไอเเพดตั้งอยู่ตรงหน้าเเฟนเราเเท้ๆเขายังไม่คิดจะพิมพ์มาบอกเราเเม้เเต่ข้อความเดียว ให้เพื่อนโทรมาบอกก็ได้ว่าเออ พี่พาเเฟนเรามากินนะ ไม่ต้องห่วงถ้าเมาเดี๋ยวพี่พากลับเอง ดูเเลกันได้ เเค่นี้ก็พอเเล้ว มันมากเกินไปหรือเปล่า หลังจากเรื่องนี้เราตัดสินใจเลิกกับเเฟนครั้งที่1 เพื่อนเเฟนเราคนนั้นก็มาพูดว่า ทำไมต้องเลิกกันเพราะเรื่องไร้สาระเเค่นี้ด้วย “เรื่องเเค่นี้?” เรื่องเเค่นี้ของคนเรามันไม่เท่ากันจริงๆ ช่วงที่เลิกกันไปประมาณ1อาทิตย์เเฟนเราเขาก็มาพยายามง้อเรา เลิกเรียนที่มหาลัยก็จะกลับมารับเรากลับจากรร.ตลอด พี่รหัสเราก็พยายามช่วยเเฟนเราง้อ ไปดูหนัง ทำกิจกรรมด้วยกัน จนเราทำข้อตกลงกันใหม่ หาตรงกลางกันใหม่ว่าถ้ากลับมาคบกันเราควรจะเป็นยังไงต่อ เเล้วก็กลับมาคบกันปกติได้อีกประมาณ2เดือน ถึงตอนนี้คือตัวละครลับผู้นั้นเริ่มมาเเล้ว(ผญ.คนนี้=B) ช่วงสิงหา-กันยาเป็นช่วงที่เราทำพอร์ต มีไปทำกิจกรรมบ่อยๆเราก็จะขอเเม่ไปหาเขาที่มหาลัยบ่อยๆก็จะได้อยู่ด้วยกัน ปกติกลุ่มเพื่อนเเฟนเรามี4คนรวมเเฟนเราเเละเพื่อนผชAคนนั้น มีรุ่นพี่สาขาเดียวกันที่สนิท2คน(ผช=C,ผญ=Dเป็นเเฟนกัน) อยู่ดีๆช่วงที่เราไปหาก็มีเพื่อนสนิทในกลุ่มเพิ่มมา1คน(ผญBคนนั้น) เจอกันตลอดทุกครั้งที่ไปหาเเฟน เราเเอบไปเจอเเชทที่สองคนสี้คุยกัน ช่วงหลังๆเรากับเเฟนความสัมพันธ์เริ่มระหองระเเหง ทะเลาะกันบ่อยขึ้น เราสนิทกับรุ่นพี่สองคนนั้น(C,D)ก็เลยเอาเรื่องไปปรึกษา ตอนเเรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร เขาก็มาเล่าให้ฟังว่าเเฟนเรากับB เคยอยู่ในห้องด้วยกันสองต่อสอง เเต่ไม่ต้องคิดมากนะเพื่อนคนอื่นออกไปหาไรกินสองคนนี้เลยอยู่ด้วยกันไปก่อนเฉยๆ Bมีรถนะเเต่ไม่เคยขี่เวลาจะไปกินข้าวไปเรียนไปทำอะไรก็เเล้วเเต่จะโทรมาทักมาหาเเฟนเราตลอดให้พาไปให้ไปรับไปส่ง C,Dเขาก็ยุว่าเออเเฟนเราเป็นขนาดนี้ให้เลิกๆไปเถอะ คบกันไปต่อทำไม เเฟนเราก็มาเล่าให้ฟังว่า Aสนิทกับรุ่นพี่C,Dที่เป็นเเฟนกัน เเต่Aที่เป็นเพื่อนเเฟนเราไปมีอะไรกับผญDที่เป็นเเฟนกับพี่ผชC เเล้วพี่ผชCไม่รู้ว่าเมียตัวเองเล่นชู้กับน้องที่สนิท(ทุกวันนี้ก็ยังคบกันอยู่
) รุ่นพี่ผญDยังมาเล่าอีกว่าวันที่ไปกินเหล้ากันผญBมันมาซบมาไซร้เเฟนเรานู่นนี่ เเต่เเฟนเราบอกว่าก็รุ่นพี่Dนั่นเเหละเป็นคนบังคับให้ผญBมานั่งข้างเเฟนเรา เพราะผญDมีผัวเเล้วคือCเเต่ชอบผชAที่เป็นเพื่อนเเฟนเรา ผญBชอบผชAเหมือนกัน เลยผลักให้ผญBมาชอบเเฟนเราเเทน หาโอกาสให้สองคนนี้อยู่ด้วยด้วยกันบ่อยๆเเล้วเวลาเรามาปรึกษาเขาก็จะยุให้เราเลิกกับเเฟน ตอนที่เรารู้เรื่องทั้งหมดเราขอห่างกับเเฟน เเล้วเราก็ไปเคลียร์กับผญ คนนั้น ตอนเเรกเราก็ถามกลางโต๊ะเหล้าว่านี่เป็นเพื่อนกันยังไงเป็นเพื่อนกันเเบบไหน เราไม่ใช่คนใจกว้างเเต่ทำไมถึงเลือกที่จะทำเเบบนี้ ผญBก็ชวนเราออกมาคุยสองคน เเล้วก็เล่าว่าตัวเองนะเคยถูกกระทำเหมือนกัน เคยเจอความสัมพันธ์เเย่ๆมา ตัวเองเข้าใจเราทุกอย่างที่เป็นผญ ด้วยกัน เราเลยถามกลับไปว่า
ในเมื่อเข้าใจเเล้วยังทำเเบบนี้ทำไม นางก็เล่าวน3รอบเรื่องเดิมๆจนเราบอกว่าเราจะกลับเเล้ว นางก็พูดขึ้นมาคำถามนึงว่า ถ้าเเฟนเรากลับมาง้อเราเราจะกลับไปคืนดีไหม เพราะนางก็มีความหวัง “มีความหวัง” เราก็บอกไปว่าเราไม่รู้ เเต่เราไม่ให้อภัยใครทั้งนั้นเพราะทุกคนเอาความเห็นเเก่ตัวของตัวเองมาทำร้ายคนที่ไม่ได้รู้เรื่องอย่างเรา เรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้ก็คือการนอกกายนอกใจอย่างนึงที่เรียกว่าmicro chattingเหมือนกัน เเล้วเราอยู่ไกลเราไม่รู้เลยว่าคุณทำอะไรลับหลังเราไปบ้าง หลังจากนั้นเราเลยลบ บล็อค เบอร์ ไลน์ ช่องทางการติดต่อทุกอย่างของผญ ซึ่งเเฟนเราอาจจะไปปลดไปเเก้อะไรหลับหลังก็เเล้วเเต่ เเต่ถือว่านี่เราทำเเล้ว(๑)
เรากับเเฟนตัดสินห่างกัน เขาเอาเเต่บอกกับเราว่าอยากโฟกัสอนาคตตัวเอง มีเเต่คำว่าอนาคตตัวเองซึ่งที่คุยเรื่องนาคตกันมาในอนาคตเขาไม่เคยพูดถึงเราเลย555555555 เเต่เราก็ยังติดต่อกันปกติเรื่อยๆ ครั้งนึงที่เราทำงานพาร์ทไทม์เพื่อเก็บเงินมาซื้อบัตรคอนให้เเฟนเรา เเฟนเราชอบนนท์ ธนนท์มาก เเล้วที่ทำงานเรามันมีคอนเสิร์ตพอดี เลยเก็บเงินไปซื้อบัตรให้เขาได้มาดู เเต่ก็ไม่ได้มาดูเเละโอนเงินคืนเพราะ วันนั้นเรามีไปค่ายที่มหาลัยที่เเฟนเราเรียนอยู่ คืนก่อนหน้าเราก็ไปกินเหล้ากับเพื่อนเเล้วโทรไปหาเขาตอนตี2เเต่เขาไม่ได้รับ พอตอนเช้าเราก็ไปค่ายที่มหาลัยเขาปกติ เขาก็พิมพ์มาว่า ทำไมอ้วนชอบโทรมาเค้าเวลานี้ตลอดเลยเค้าหลับไปแล้ว “ตี2หลับไปแล้ว” เลิกกิจกรรมประมาณ4โมงเย็นก็ให้มาเขารับ กะว่าเออจะนอนกับเขาสักคืนอยากปรับความเข้าใจกัน ไว้ค่อยกลับพรุ่งนี้เช้า พอกลับมาถึงห้องก็นอนคุยกันปกติ เราจูบกันเเต่มันเป็นจูบที่ไม่เหมือนเดิม เรารู้สึกเเบบนั้น เเต่ไม่อะไรพอตอนที่กำลังจะออกไปหาอะไรกินความผญ.อ่ะเนอะ เราเป็นคนไม่เช็คทรศ.เเต่เเชทกลุ่มเพื่อนเขาที่เด้งมาเซ้นเรามันบอกให้เรากดเข้าไปดู เเล้วเราก็ไปเจอเเชทนึงที่ปักหมุดไว้ มันเป็นเเชทผญ.คนนั้นที่เราลบเราบล็อคทุกอย่างไปเเต่นี่จับได้ครั้งที่2 ข้อความประมาณว่า(B:เราบอกเธอเเล้วเนี่ยว่าเราจุก เป็นรอยเเดงไปหมดเลย เคยจับนมของใครมาก่อนไหมเนี่ย ครั้งหน้าต้องทำเบากว่านี้นะ) (เเฟนเรา: เคยจับเเต่ไม่เคยเต็มไม้เต็มมือขนาดนี้ “???” ไว้ไปทำใหม่นะ “???”) ที่บอกว่าตี2นอนเเล้ว? หรอ? (๒) จริงๆมีมากกว่านี้ตอนนั้นที่เราเจอเราเเคปๆๆๆหน้าจอเเล้วก็ส่งให้พี่รหัสเราดู พี่รหัสเราโทรมาคุยกับเเฟนเราว่า (เออกูเป็นเพื่อนนะ กูไม่อยากจะด่า่า ยิ้มหรอกเเต่ครั้งนี้ทำเกินไปจริงๆว่ะ) เเฟนเราตอบว่า (เป็นไงเพื่อนด่ากู ยิ้มได้เต็มปากหรือยัง)“???” เราฟีลขาดมากมือสั่นจนปาทรศ.ใส่หน้าเขาเเล้วก็พูดหยาบถามๆ ว่าจะเอายังไงกับกู ทำเหี้*ไรลงไป เขาก็อึ้งไม่คิดว่าเราจะพูดเเบบนี้ใส่ เเต่ก็ไม่เถียง ยอมรับเเล้วพูดว่าจะพาเรากลับบ้านคือตอนนั้น4ทุ่มเเล้ว เเล้ว80กม. เราก็บอกไม่กลับจะนอน พยายามจะคุยกับเขาว่าทำเเบบนี้ทำไม เรารักเขาไมากพอหรอ ดูเเลไม่ดีหรอ กับเขากับน้องเขากับครอบครัวเขาเราพยายามให้ความสำคัญพอๆกับตัวเรากับครอบครัวเราเลย เขาก็เอาเเต่ร้องไห้ เอาเเต่ขอโทษ พอเช้าเขาก็มาส่งเรา เรายังพาเขาไปเลี้ยงชาบูอีก(5555555555)  สุดท้ายก็เลิกกันจริงๆ โคตรเจ็บ เจ็บจะเป็นจะตายร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน กินไม่ได้ นน.ลงไปเกือบ10โล โทรมมากเเล้วเป็นช่วงสอบเข้ามหาลัยพอดี เครียดกว่าจะผ่านมาได้
หายจากกันไปนานมาก เราก็บล็อคเขาทุกอย่าง ไม่รับรู้เรื่องกันเเละกัน ต่างคนต่างโตเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามา เเต่สุดท้ายมีโอกาสได้กลับมาคุยกัน เขาก็พูดกับเราว่าเขาอยากกลับมา อยากมาเเก้ไขทุกอย่าง อยากปรับทุกอย่างไปด้วยกันอีกครั้ง จริงๆเราก็ยังรักเขาอยู่ รักมากจริงๆเเต่ทุกครั้งที่จะลองรักเขาอีกครั้งก็ถามตัวเองว่า เราจะเลิกระเเวงเขาได้หรอ นี่หรอคนที่จะเป็นพ่อของลูกเรา เเต่ในใจเรายังอยากให้เป็นเขามาตลอดเลย เราควรทำยังไงคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่