JJNY : 5in1 "กัณวีร์"ลุยช่วยผู้สมัคร ปชน.│นันทนาชี้ส.ว.ภาพลักษณ์เสีย│กันซัดพีช│หนุนรื้อ แจกเปล่า│ผู้นำยุโรปเยือนเคียฟ

มิติใหม่ข้ามพรรค! "กัณวีร์" ลุยช่วยผู้สมัครนายกเทศบาลพรรคประชาชน บอกขออนุญาต กกต.แล้ว
https://ch3plus.com/news/political/morning/439215
.
.
วันที่ 10 พ.ค.68 เวลา 13.30 น. นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ ต.บางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เพื่อช่วยผัสมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางสีทอง นายวุฒิไกร กลางทอง ผู้สมัครพรรคประชาชน
.
นายกัณวีร์ เปิดเผยว่า ตนเองมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครจากพรรคประชาชน ได้แจ้งชื่อจาก กกต.แล้ว และแจ้งทางพรรคเป็นธรรม รับทราบแล้ว เพราะเป็นงานส่วนตัว ที่นอกจากมาช่วยเพื่อนแล้ว พรรคประชาชนก็เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทางการเมืองกันอยู่แล้ว
.
ผมมาช่วยผู้สมัครพรรคประชาชน คุณวุฒิไกร เป็นเพื่อนร่วมรุ่น รร.สวนกุหลาบ เห็นเพื่อนมีความมุ่งมั่นทางการเมืองก็อยากสนับสนุน ถือว่ามาสวมเสื้อพรรคประชาชนชั่วคราว ซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร เพราะมาช่วยเป็นการส่วนตัว และแจ้งชื่อเป็นผู้ช่วยหาเสียงถูกต้องครับ
.
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่าการมาช่วยหาเสียงให้พรรคประชาชนครั้งนี้ ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการเมืองใหญ่ ไม่ได้ย้ายพรรค ยังอยู่พรรคเป็นธรรม เพียงแต่สนใจการเมืองท้องถิ่น ที่เห็นว่าสำคัญมาก เพราะผมคิดว่า การเมืองท้องถิ่น เป็นรากฐานสำคัญของการเมืองระดับชาติ ถ้าเราต้องการความเปลี่ยนแปลงในระดับชาติ เราต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงในท้องถิ่นให้ได้เสียก่อน
.
พอศึกษาการเมืองท้องถิ่นของตำบลบางสีทอง การเมืองยังยากที่จะเปลี่ยนแปลง ถ้าพวกเราประชาชนทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ แสดงให้เห็นว่า สิทธิและอำนาจอยู่ในมือเรา ผ่านผลการเลือกตั้งท้องถิ่น จะเป็นก้าวย่างสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับชาติต่อไปครับ” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ
.
นายกัณวีร์ ยังเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ที่มีการเลือกตั้งนายกเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาลทั่วประเทศ ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 11 พ.ค.นี้ด้วย
.

.
นันทนา ชี้ ส.ว.ภาพลักษณ์เสีย จี้หยุดทําหน้าที่-ชะลอลงมติ หวั่นกระทบเลือกตําแหน่งองค์กรอิสระ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5176814
.
นันทนา จวก ส.ว.ภาพลักษณ์ดิ่งเหว จี้หยุดทําหน้าที่-ชะลอลงมติ หวั่นกระทบเลือกตําแหน่งองค์กรอิสระ เป็นโมฆะ
.
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวว่า กระบวนการตรวจสอบที่มาของ ส.ว.ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเกือบ 10 เดือน ขณะนี้ได้เริ่มขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว โดยคาดว่ามี ส.ว.จำนวนมากถึงกว่า 100 คน ที่อยู่ในข่ายจะได้รับแจ้งข้อกล่าวหา
.
น.ส.นันทนากล่าวว่า ภาพลักษณ์ของ ส.ว.ชุดนี้ตกต่ำอย่างมากในสายตาประชาชน และมอง ส.ว.ด้วยความคลางแคลงใจในกระบวนการได้มา โดยสงสัยว่าอาจมีกระบวนการฮั้วกันมา ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกที่รวมกลุ่มกันมา และเมื่อเข้าสภามาก็มีการลงมติไปในทิศทางเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จนนำมาสู่การเริ่มแจ้งข้อกล่าวหาแก่ ส.ว.ที่เข้าข่ายมีปัญหาเรื่องการฮั้ว
.
น.ส.นันทนากล่าวว่า แม้กฎหมายจะไม่ได้กำหนดให้ ส.ว.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เมื่อถูกแจ้งข้อกล่าวหา แต่มีการเรียกร้องโดยใช้หลักยึดทางจิตสำนึกและสามัญสำนึก ให้ ส.ว.ที่อยู่ในข่ายพิจารณาหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรืออย่างน้อยที่สุด ให้ชะลอการลงมติในเรื่องสำคัญออกไปก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงมติให้ความเห็นชอบผู้ที่จะดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ และการลงมติร่างพระราชบัญญัติสำคัญต่างๆ เนื่องจากขณะนี้ที่มาของ ส.ว.ยังมีลักษณะสีเทาๆ การเห็นชอบบุคคลไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ซึ่งจะทำหน้าที่ยาวนาน 7-9 ปี หรือการลงมติกฎหมายที่มีผลถาวร หากทำโดย ส.ว.ที่มีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาจทำให้กระบวนการนั้นเสียเปล่า กลายเป็นโมฆะ หรือผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจะถูกมองว่าได้ตำแหน่งจากผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติในการลงมติ
.
น.ส.นันทนากล่าวว่า หาก ส.ว.ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหายังคงดื้อดึงและไม่ชะลอการลงมติสำคัญออกไป อาจต้องใช้กระบวนการทางกฎหมายเข้ามากดดัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง กกต., คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และดีเอสไอ ต้องเร่งทำงานให้เร็วขึ้น เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาโดยกระบวนการไม่ชอบด้วยกฎหมายหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากมีคำสั่งของ ป.ป.ช. ผู้ที่ถูกกล่าวหาจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
.
อย่างไรก็ตาม หากกระบวนการตรวจสอบล่าช้าออกไป เช่น 6 เดือน จะส่งผลเสียต่อประเทศชาติอย่างมาก ภายใน 6 เดือนนี้อาจมีการให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระสำคัญหลายแห่ง เช่น กกต., ศาลรัฐธรรมนูญ, ป.ป.ช. หากบุคคลเหล่านี้ได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว.ที่มีที่มาไม่ชัดเจน และมีแนวโน้มไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประเทศชาติ เชื่อว่าประชาชนกำลังจับตาดูสถานการณ์นี้อยู่
.

.
กัน จอมพลัง ประกาศขายซากรถกระบะ ซัดคู่กรณี พีช ยังไม่ติดต่อมาซ่อม เปิดราคาค่าเสียหาย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9753614
.
กันจอมพลัง โพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศขายซากรถกระบะ หลังบีเอ็มป้ายแดง พุ่งชนกระแทกแบริเออร์ ได้เงินค่าซากรถจะให้ ลุงป้าไว้รักษาตัว เปิดค่าเสียหาย
.
จากกรณี อุบัติเหตุบีเอ็ม ชน รถกระบะ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งผู้ขับบีเอ็มคือ นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช อายุ 28 ปี ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี ทีมธัญญก้าวหน้า เบอร์ 1​ชนรถกระบะของลุงและป้าจนเกิดอุบัติเหตุ และกลายเป็นความเดือดในโซเชียลตามมา เหตุจากพฤติกรรมการขับรถ
.
ล่าสุด กัน จอมพลัง โพสต์ผ่านเพจว่า “ประกาศหาคนซื้อซากรถกระบะของคุณตาคุณยายที่ถูก BM เบียดกระแทกแท่งปูนครับ เนื่องจากปัจจุบันคู่กรณียังไม่มีการติดต่อมาซ่อมรถให้ แต่อย่างใดและถ้าตายายซ่อมก็ต้องจ่ายซ่อมเอง หากทิ้งไว้ก็กลัวอย่างอื่นในรถจะเสียหายเพิ่มไปอีกครับ ใครสนใจทักมาได้เลยครับ หลังจากปล่อยได้จะเอาเงินเก็บไว้ให้คุณตาคุณยายรักษาตัวครับ
.
สำหรับความคืบหน้าคดีนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สอบสวนฝ่ายกระบะเรียบร้อย สำนวนกำลังเร่งส่งให้อัยการตามกระบวนการต่อไป ​
.
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ พบว่า มีการนำรถกระบะคันดังกล่าวไปประเมินค่าเสียหายกรณีที่จะซ่อม พบว่า ​ค่าซ่อมอะไหล่ โดยที่ยังไม่ทำการรื้อจะอยู่ที่ประมาณ 290,000 บาท ยังไม่รวมค่าแรงซึ่งเป็นส่วนของโครงสร้างรถ​ รวมอะไหล่และค่าแรงแล้วก็จะตกอยู่ประมาณ 400,000 กว่าบาท อย่างไรก็ตาม มีเต้นท์รถอีกหลายแห่งที่ติดต่อมาเพื่อมอบรถคันใหม่ให้เช่นเดียวกัน
.
https://www.facebook.com/gunjompalang1/posts/pfbid02kcY7gqmKfx8fAC1J3c7MixmSu3gpq5CVWc5VKX6SjYmvDSyFAofVZ76T5gAJ4jTel
.

.
สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย หนุนรื้อ มาตราการแจกเปล่า เปิดพิษสง 5 กับดัก เร่งรัฐแก้ด่วน
https://www.matichon.co.th/economy/news_5176625
.
สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย หนุนรื้อ มาตรการแจกเปล่า เปิดพิษสง 5 กับดัก เร่งรัฐแก้ด่วน
.
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานยุทธศาสตร์ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยถึงกรณีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อพิจารณาแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ คาดได้ข้อสรุปภายในเดือนพฤษภาคมนี้ นั้น แนวทางกระตุ้นเฉพาะหน้า หากยังต้องการผลักดันผ่านโครงการคนละครึ่งหรือมาตรการแจกเงิน ก็อยากให้เตรียมพร้อมข้อมูลเป็นบล็อกเชน และให้รู้โดยทั่วไปล่วงหน้าถึงแนวทางช่วยเชื่อโดยเฉพาะภาคประชาชนและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะรายย่อย/เอสเอ็มอี เกษตรกร ผู้ด้อยโอกาสที่จะเข้าถึงแหล่งทุนหรืออาชีพ
.
อยากให้เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการเงิน ที่ไม่ใช่เป็นการให้อย่างเดียวและรัฐไม่ได้อะไรคืน การให้เปล่าแต่ไม่มีผลต่อแรงกระตุ้นเศรษฐกิจและภาษีคืนรัฐเพื่อใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อไป นั่นคือ รัฐจะเติมเงินอะไรผ่านมาตรการ ก็ควรได้รับมาเป็นรายได้คืนในกระตุ้นกำลังซื้อและภาษี
.
นายแสงชัยกล่าวว่า อีกเรื่องที่ต้องเร่งทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น คือ การหาแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ภาคช่วยเหลือและกระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบนโยบายทรัมป์ 2.0 ซึ่งต้องแยกให้ชัดว่าเป็นซอฟต์โลนเพื่อผู้ส่งออก ซอฟต์โลนเพื่อผู้ผลิตที่ต้องพึ่งพาการนำเข้า ซอฟต์โลนภาคท่องเที่ยวควบคู่กับมาตรการต่างๆ อย่างตอนนี้การท่องเที่ยวไทยเจอปัญหาเรื่องยอดคนจีนเข้ามาไทยลดลงมาก บางส่วนไปเที่ยวเวียดนาม บางส่วนหันท่องเที่ยวในประเทศจีนเอง
.
แนวคิดวันนี้รัฐต้องคิด 2 ขา คือทำอย่างไรดึงท่องเที่ยวและรายได้เข้าประเทศ กับคู่กับทำอย่างไรผลักดันส่งออกและนำเงินเข้าประเทศ ยกตัวอย่างการท่องเที่ยว เพิ่มส่งเสริมท่องเที่ยวแมนเมด ท่องเที่ยววิถีชุมชน ท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ดึงภาคบริการผูกกับส่งออก เช่น ดึงคนต่างชาติมาใช้บริการสปา นวดไทย ที่ใช้สมุนไพร จนต่างชาติติดใจ จะส่งเสริมทั้งแพทย์แผนไทยและสินค้าแปรรูปไทย อีกเรื่องที่รัฐควรประชุมและเปิดรับฟังแนวคิดและความต้องการแท้จริงของภาคเอกชนและเอสเอ็มอี เพื่อนำไปประมวลทำแผนงาน ก่อนออกมาตรการและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แบบรัฐให้ฝ่ายเดียวและไม่ได้อะไรกลับมาเท่าที่ควร น่าจะเริ่มรื้อจากตรงนี้ก่อน” นายแสงชัยกล่าว
.
นายแสงชัยกล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะกลาง-ยาว เสนอให้ปรับโครงสร้างและแก้กับดัก 5 เรื่อง ได้แก่ 1.กับดักหนี้ ควรเร่งปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ ทั้งหนี้ครัวเรือน หนี้เอสเอ็มอี หนี้ครู หนี้เกษตรกร หนี้นอกระบบ เพราะหากแก้อุปสรรคหนี้ไม่ได้ ประเทศก็ไปต่อได้ยาก 2.กับดักเรื่องคน โลกเปลี่ยนไปเร็วแต่ประเทศเรายังปรับตัวไม่ทัน ทั้งเรื่องทักษะภาษา ควรปูพื้นตั้งแต่เข้าเรียนถึงอุดมศึกษา แบบไม่มีความเหลื่อมล้ำในการศึกษา และภาษาไม่แค่เน้นไทย อังกฤษ แต่เพิ่มทางเลือกภาษาที่สาม เช่น จีน อาหรับ เป็นต้น รวมถึงเพิ่มทักษะด้านดิจิทัล เน้นตระหนักรู้เรื่องการใช้ดิจิทัลในชีวิตประจำวันในทุกภาคส่วน ใช้โซเซียลมีเดียช่วยการประกอบอาชีพ และผลักดันใช้เทคโนโลยีและเอไอ พร้อมกับเสริมทักษะระดับผู้บริหาร เหมือนสิงคโปร์และญี่ปุ่น
.
นายแสงชัยกล่าวต่อว่า 
.
3. กับดักเรื่องทุน ซึ่งตอนนี้เจอปัญหาสะสมจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ แผนปฏิรูปพลังงาน ที่ควรเน้นพลังงานอื่นๆ ไม่แค่ก๊าซธรรมชาติ ไม่ว่าจะหนุนพลังงานลม แสงแดด มูลขยะ หรือ นิวเคลียร์ ด้วยไทยยังเสียเปรียบเรื่องต้นทุนไฟฟ้า น้ำมัน พลังงาน ดอกเบี้ย และค่าเงิน ที่เป็นต้นทุนและผันผวนสูง 
.
4. กับดักเรื่องทุนเทา วันนี้อยากมองแค่ทุนเทานอกประเทศ หรือมุ่งไปสนใจแต่ทุนจีน แต่มีหลายประเทศที่เป็นทุนแฝงผ่านนอมินี หรือทุนใหญ่ในประเทศเราเองก็มีไม่น้อย ต้องเร่งปราบปรามทุนอุปสรรคต่อเศรษฐกิจนอกระบบ ตรงกันข้ามเราต้องเพิ่มความอำนวยความสะดวกทุกขั้นตอนสำหรับทุนที่มาถูกต้องตามกฎหมาย
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่