จากซูเปอร์สตาร์สู่เงาจาง: บทวิเคราะห์วิกฤตแบรนด์ ITZY ที่คุณต้องรู้



จากซูเปอร์สตาร์สู่เงาจาง: บทวิเคราะห์วิกฤตแบรนด์ ITZY ที่คุณต้องรู้

1. การวาง Positioning ที่สับสนและขาดความต่อเนื่อง
จุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่ง: ITZY ปรากฏตัวในวงการ K-pop ปี 2019 ด้วยแนวคิด "teen crush + self-empowerment" ผ่านเพลง Dalla Dalla ที่สื่อสารชัดเจนว่า "ฉันเป็นฉันเอง ไม่แคร์ใคร" สอดคล้องกับกระแสการแสดงจุดยืนของ Gen Z ในยุคนั้น
ความเปลี่ยนแปลงที่สร้างความสับสน: ตั้งแต่ปี 2021 อัตลักษณ์ของวงเริ่มไม่ชัดเจน:
LOCO (2021): ผสมผสานระหว่างหวานและเปรี้ยว ทำให้แนว crush เดิมเริ่มเบลอ
Sneakers (2022): ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องทิศทางที่ไม่ชัดเจน ทั้ง MV แฟชั่น และท่าเต้นที่ดูย้อนยุคผิดคาแรกเตอร์
Cake (2023): ภาพลักษณ์ pastel แบบซน ๆ สไตล์ "school girl" ขัดแย้งกับภาพ "independent young women" ที่เคยสร้างไว้
เปรียบเทียบกับวงอื่น: ในขณะที่คู่แข่งสร้างแบรนด์ที่ชัดเจน เช่น:
NewJeans: ตอกย้ำภาพ "Gen Z minimalism" อย่างต่อเนื่อง
BLACKPINK: รักษาภาพ "luxury + femme fatale" อย่างเหนียวแน่น
ITZY กลับไม่มีคำหลักที่โดดเด่นที่ทำให้ผู้ฟังนึกถึงวงได้ในทันที ขาด "Brand Identity Consistency" ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในวงการ K-pop ที่คอนเซ็ปต์คือหัวใจของการวางตำแหน่งทางการตลาด

2. ขาดพัฒนาการทางดนตรีและภาพลักษณ์
ความหยุดนิ่งทางดนตรี: เมื่อเปรียบเทียบกับวง (G)I-DLE:
ITZY: ยังคงยึดติดกับรูปแบบ beat drop และ hook หนัก ๆ เหมือนในปี 2019-2020
(G)I-DLE: พัฒนาสู่เพลงที่มีความลึกซึ้งและเรื่องราวชัดเจน อย่าง Tomboy, Queencard และ Super Lady

ภาพลักษณ์ที่ขาดการพัฒนา:
สไตล์การแต่งตัวของ ITZY มักถูกวิจารณ์ว่าล้าสมัย คล้ายวงไอดอลเจนเนอเรชั่น 3 มากกว่าเจน 4
ไม่มีการทดลองสุนทรียภาพใหม่ ๆ เหมือนที่ aespa ทำกับแนว cyberpunk หรือ digital grunge หรือ NewJeans กับสไตล์ 2000s realism
ผลคือ ITZY ถูกมองว่า "หยุดนิ่ง" ในขณะที่วงอื่นก้าวไปข้างหน้า ทำให้สูญเสีย "ความน่าค้นหา" (novelty factor) ซึ่งสำคัญมากในตลาด K-pop ที่ผู้บริโภคชอบความแปลกใหม่

3. การบริหารจัดการจาก JYP ที่ขาดวิสัยทัศน์
ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย: JYP มีประวัติถูกวิจารณ์เรื่อง "การปล่อยให้วงขาด momentum" มาแล้วหลายครั้ง ทั้ง Wonder Girls และ GOT7 และ ITZY ก็กำลังเดินรอยเดียวกันด้วยการจัดการแบบ "สูตรเดิม" ที่ไม่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด
ตัวอย่างความผิดพลาดในการบริหาร:
เพลง Sneakers ที่ต้องการเน้นขายท่าเต้น แต่กลับไม่สามารถสร้างกระแส viral และไม่ประสบความสำเร็จแม้ในเกาหลีใต้
ช่องทางโซเชียลมีเดียของ ITZY มีอัตราการมีส่วนร่วม (engagement) ที่ต่ำกว่าวงรุ่นเดียวกันมาก โดยเฉพาะ TikTok ที่ควรเป็นช่องทางหลักแต่กลับขาดกลยุทธ์การสร้างคอนเทนต์ที่มีเอกลักษณ์
JYP ยังคงยึดติดกับการผลิตแบบ "in-house" มากเกินไป ไม่เปิดรับโปรดิวเซอร์ระดับโลกเหมือนที่ HYBE ทำกับ NewJeans หรือ SM ทำกับ aespa ส่งผลให้ขาดมุมมองที่หลากหลายและพลังในการกระตุ้นตลาดใหม่

4. การถูกแย่งพื้นที่โดย NMIXX
การแข่งขันภายในค่าย: เมื่อ JYP เปิดตัว NMIXX ในปี 2022 ด้วยภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง (แม้เพลงแรก O.O จะเป็นที่ถกเถียง) ทรัพยากรทางการตลาด ทั้งงบประมาณ ทีมครีเอทีฟ และทีม A&R เริ่มถูกจัดสรรไปให้ NMIXX มากขึ้น
ภาพลักษณ์ที่ถูกลดทอน: ITZY จึงกลายเป็น "วงตรงกลาง" ที่ไม่มีจุดยืนชัดเจน ถูกเปรียบเทียบกับ NMIXX อยู่ตลอด แม้กลุ่มแฟนคลับจะแตกต่างกัน
สุดท้าย ITZY จึงตกอยู่ในสถานะ "ไม่ใหม่ ไม่เก่า" ซึ่งอันตรายอย่างยิ่งในวงการที่หมุนไปตามความแปลกใหม่ เพราะ JYP ไม่สามารถสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างทั้งสองวงได้

5. ความไม่สมดุลภายในวงและผลกระทบจากการพักของ Lia
โครงสร้างที่ไม่สมดุล:
วงพึ่งพา Ryujin และ Yeji เป็นหลัก ทั้งในด้านการแสดงและเสน่ห์ทางภาพ
Chaeryeong ไม่ได้รับการส่งเสริมเท่าที่ควร ขณะที่ Yuna ยังค้นหาตัวตนที่ชัดเจนไม่พบ

วิกฤตจากการพักของ Lia: เมื่อ Lia ต้องพักกิจกรรมในปี 2023 เนื่องจากปัญหาสุขภาพจิต ส่งผลกระทบรุนแรงต่ออัตลักษณ์ของวง เพราะเสียงร้องของเธอเป็นองค์ประกอบสำคัญของซาวด์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ITZY
การโปรโมทแบบขาดสมาชิกทำให้วงดูไม่สมบูรณ์ ความต่อเนื่องในการเชื่อมโยงกับแฟนคลับลดลง ความไม่สมดุลนี้ส่งผลให้ความภักดีต่อแบรนด์ของแฟนคลับอ่อนลง และในวงที่การสร้างเรื่องราวมีความสำคัญ การที่สมาชิกดู "ไม่สัมพันธ์กัน" หรือ "ไม่ได้เติบโตพร้อมกัน" ทำให้วงขาดการเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ฟัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่