โครงการคลอง 200,000 กิโลเมตร (Sukavichinomics)
1. เงินลงทุน
10,000 ล้านบาท (สมมุติฐานเพื่อการเปรียบเทียบ)
2. รายได้และผลตอบแทนใน 3 ปี
3. ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานชนบท ทั้งระบบชลประทานและคมนาคมทางน้ำ
กระจายรายได้สู่เกษตรกรและชุมชนท้องถิ่น อย่างทั่วถึง
สร้าง งานจำนวนมาก ในการขุดคลอง บำรุงรักษา การท่องเที่ยว การค้า ฯลฯ
ช่วย ลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศ อย่างยั่งยืน
4. ประโยชน์ทางสังคม
ลดความยากจน ในพื้นที่ชนบทโดยตรง
ส่งเสริม การพึ่งพาตนเองของชุมชน (Self-reliant communities)
เพิ่มโอกาสการศึกษาและสุขภาพ จากรายได้ที่สูงขึ้นของครัวเรือน
เชื่อมโยงเมือง-ชนบทผ่านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
5. ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม
จัดระบบ บริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ทั่วประเทศ
ช่วย ป้องกันภัยแล้งและน้ำท่วม ลดผลกระทบจาก climate change
สร้าง ระบบนิเวศคลอง ที่หล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรและป่าไม้
ส่งเสริม ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Eco-tourism)
6. ความยั่งยืนในระยะยาว
ใช้งานได้หลายวัตถุประสงค์ (multi-functional infrastructure)
บำรุงรักษาได้ง่ายกว่าระบบท่อหรือเขื่อนขนาดใหญ่
เป็นโครงสร้างถาวรที่สนับสนุนทั้งการผลิต การคมนาคม และการท่องเที่ยว
ข้อเปรียบเทียบเด่น
ลงทุนเท่ากับ “คาสิโนคอมเพล็กซ์” แต่ให้ ผลตอบแทนสูงกว่า และ กระจายรายได้ทั่วประเทศ
สร้าง ประโยชน์เชิงโครงสร้างและวัฒนธรรม ในระยะยาว มากกว่าธุรกิจการพนันที่ขึ้นกับพฤติกรรมผู้บริโภค
เปรียบเทียบเทียบ
เปรียบเทียบ Sukavichinomics vs Neoliberalism (ลงทุน 10,000 ล้านบาท เท่ากันใน 3 ปี)
การคำนวณใน Econometrics (ตัวอย่างเบื้องต้น)
สมมุติฐานผลตอบแทน (ROI) ของทั้งสองโปรเจกต์:
1. Sukavichinomics (คลอง 200,000 กม.)
ผลิตผลภาคเกษตร: +5% ต่อปี
ลดต้นทุนการขนส่ง: -10% ต่อปี
รายได้เกษตรกร: +15% ต่อปี
ผลตอบแทนรวม (ROI):
ROI = \frac{(\text{ผลิตผลภาคเกษตร} + \text{ลดต้นทุนการขนส่ง} + \text{รายได้เกษตรกร})}{\text{การลงทุน}} \times 100
2. Neoliberalism (คาสิโนคอมเพล็กซ์)
การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว: +20% ต่อปี
ภาษีการพนัน: +30% ต่อปี
การสร้างงาน: +10% ต่อปี
ผลตอบแทนรวม (ROI):
ROI = \frac{(\text{การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว} + \text{ภาษีการพนัน} + \text{การสร้างงาน})}{\text{การลงทุน}} \times 100
วิธีการคำนวณและการประเมิน
ค่า ROI ของ Sukavichinomics:
สมมุติว่าในปีแรก ผลผลิตเกษตรและรายได้จากการเกษตรจะเพิ่มขึ้นตามที่คาดไว้ ทำให้ ROI โดยรวมสามารถอยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี
ค่า ROI ของ Neoliberalism:
การดึงดูดนักท่องเที่ยวและการเก็บภาษีการพนันทำให้ ROI ของคาสิโนคอมเพล็กซ์อาจสูงกว่า โดยสมมุติว่า ROI โดยรวมอยู่ที่ประมาณ 15% ต่อปี
สรุปผลการคำนวณ
:Sukavichinomics (คลอง 200,000 กม.)
การลงทุน 10,000 ล้านบาท มีผลตอบแทนประมาณ 10% ต่อปี (รวม 30% ใน 3 ปี)
Neoliberalism (คาสิโนคอมเพล็กซ์)
การลงทุน 10,000 ล้านบาท มีผลตอบแทนประมาณ 15% ต่อปี (รวม 45% ใน 3 ปี)
ข้อสังเกต
:Sukavichinomics เน้นการพัฒนาที่ยั่งยืนและกระจายผลประโยชน์ไปยังเกษตรกรและชุมชนในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งอาจมีผลตอบแทนที่ช้า แต่ยั่งยืน
Neoliberalism มุ่งเน้นที่การสร้างกำไรระยะสั้นจากภาคธุรกิจและนักท่องเที่ยว โดยอาจให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น แต่ความเสี่ยงด้านสังคมและเศรษฐกิจอาจสูงขึ้นในระยะยาว
สมมุติฐาน
ความยาวคลอง = 200,000 กม.
รายได้จากการท่องเที่ยวเฉลี่ย = 0.1 ล้านบาท/กม./ปี (หรือ 100,000 บาท/กม./ปี) – คิดแบบอนุรักษ์นิยม
ระยะเวลา = 3 ปี
สรุป
หากรวมศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของคลองเข้าไป Sukavichinomics จะมี ROI รวม 70% ต่อปี หรือ 21,000 ล้านบาทใน 3 ปี มากกว่าคาสิโนคอมเพล็กซ์ และมีผลกระทบเชิงบวกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนกว่า
Sukavichinomics vs Neoliberalism: คาสิโน คอมเพล็กซ์ (ลงทุน 10,000บาท เท่ากันใน 3 ปี) ด้วย Econometrics
1. เงินลงทุน
10,000 ล้านบาท (สมมุติฐานเพื่อการเปรียบเทียบ)
2. รายได้และผลตอบแทนใน 3 ปี
ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานชนบท ทั้งระบบชลประทานและคมนาคมทางน้ำ
กระจายรายได้สู่เกษตรกรและชุมชนท้องถิ่น อย่างทั่วถึง
สร้าง งานจำนวนมาก ในการขุดคลอง บำรุงรักษา การท่องเที่ยว การค้า ฯลฯ
ช่วย ลดต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศ อย่างยั่งยืน
4. ประโยชน์ทางสังคม
ลดความยากจน ในพื้นที่ชนบทโดยตรง
ส่งเสริม การพึ่งพาตนเองของชุมชน (Self-reliant communities)
เพิ่มโอกาสการศึกษาและสุขภาพ จากรายได้ที่สูงขึ้นของครัวเรือน
เชื่อมโยงเมือง-ชนบทผ่านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
5. ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม
จัดระบบ บริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ทั่วประเทศ
ช่วย ป้องกันภัยแล้งและน้ำท่วม ลดผลกระทบจาก climate change
สร้าง ระบบนิเวศคลอง ที่หล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรและป่าไม้
ส่งเสริม ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Eco-tourism)
6. ความยั่งยืนในระยะยาว
ใช้งานได้หลายวัตถุประสงค์ (multi-functional infrastructure)
บำรุงรักษาได้ง่ายกว่าระบบท่อหรือเขื่อนขนาดใหญ่
เป็นโครงสร้างถาวรที่สนับสนุนทั้งการผลิต การคมนาคม และการท่องเที่ยว
ข้อเปรียบเทียบเด่น
ลงทุนเท่ากับ “คาสิโนคอมเพล็กซ์” แต่ให้ ผลตอบแทนสูงกว่า และ กระจายรายได้ทั่วประเทศ
สร้าง ประโยชน์เชิงโครงสร้างและวัฒนธรรม ในระยะยาว มากกว่าธุรกิจการพนันที่ขึ้นกับพฤติกรรมผู้บริโภค
เปรียบเทียบเทียบ
เปรียบเทียบ Sukavichinomics vs Neoliberalism (ลงทุน 10,000 ล้านบาท เท่ากันใน 3 ปี)
การคำนวณใน Econometrics (ตัวอย่างเบื้องต้น)
สมมุติฐานผลตอบแทน (ROI) ของทั้งสองโปรเจกต์:
1. Sukavichinomics (คลอง 200,000 กม.)
ผลิตผลภาคเกษตร: +5% ต่อปี
ลดต้นทุนการขนส่ง: -10% ต่อปี
รายได้เกษตรกร: +15% ต่อปี
ผลตอบแทนรวม (ROI):
ROI = \frac{(\text{ผลิตผลภาคเกษตร} + \text{ลดต้นทุนการขนส่ง} + \text{รายได้เกษตรกร})}{\text{การลงทุน}} \times 100
2. Neoliberalism (คาสิโนคอมเพล็กซ์)
การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว: +20% ต่อปี
ภาษีการพนัน: +30% ต่อปี
การสร้างงาน: +10% ต่อปี
ผลตอบแทนรวม (ROI):
ROI = \frac{(\text{การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว} + \text{ภาษีการพนัน} + \text{การสร้างงาน})}{\text{การลงทุน}} \times 100
วิธีการคำนวณและการประเมิน
ค่า ROI ของ Sukavichinomics:
สมมุติว่าในปีแรก ผลผลิตเกษตรและรายได้จากการเกษตรจะเพิ่มขึ้นตามที่คาดไว้ ทำให้ ROI โดยรวมสามารถอยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี
ค่า ROI ของ Neoliberalism:
การดึงดูดนักท่องเที่ยวและการเก็บภาษีการพนันทำให้ ROI ของคาสิโนคอมเพล็กซ์อาจสูงกว่า โดยสมมุติว่า ROI โดยรวมอยู่ที่ประมาณ 15% ต่อปี
สรุปผลการคำนวณ
:Sukavichinomics (คลอง 200,000 กม.)
การลงทุน 10,000 ล้านบาท มีผลตอบแทนประมาณ 10% ต่อปี (รวม 30% ใน 3 ปี)
Neoliberalism (คาสิโนคอมเพล็กซ์)
การลงทุน 10,000 ล้านบาท มีผลตอบแทนประมาณ 15% ต่อปี (รวม 45% ใน 3 ปี)
ข้อสังเกต
:Sukavichinomics เน้นการพัฒนาที่ยั่งยืนและกระจายผลประโยชน์ไปยังเกษตรกรและชุมชนในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งอาจมีผลตอบแทนที่ช้า แต่ยั่งยืน
Neoliberalism มุ่งเน้นที่การสร้างกำไรระยะสั้นจากภาคธุรกิจและนักท่องเที่ยว โดยอาจให้ผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น แต่ความเสี่ยงด้านสังคมและเศรษฐกิจอาจสูงขึ้นในระยะยาว
สมมุติฐาน
ความยาวคลอง = 200,000 กม.
รายได้จากการท่องเที่ยวเฉลี่ย = 0.1 ล้านบาท/กม./ปี (หรือ 100,000 บาท/กม./ปี) – คิดแบบอนุรักษ์นิยม
ระยะเวลา = 3 ปี
สรุป
หากรวมศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของคลองเข้าไป Sukavichinomics จะมี ROI รวม 70% ต่อปี หรือ 21,000 ล้านบาทใน 3 ปี มากกว่าคาสิโนคอมเพล็กซ์ และมีผลกระทบเชิงบวกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนกว่า