หลังจากเคยตั้งกระทู้สอบถามเรื่องริดสีดวงไปและรักษาตัวมาเป็นเวลากว่าปี ตอนนี้เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ทั้งที่ได้ผลและไม่ได้ผลฉบับเฉพาะตัว ซึ่งต้องเน้นตัวใหญ่ๆ ว่าเฉพาะตัวแต่ละคนตอบสนองต่อการรักษาที่ไม่เท่ากันและมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป
เราขอเริ่มจากการเล่าอาการเริ่มแรกที่เผชิญก่อน นั้นคือเราเริ่มมีอาการแสบก้นหลังการขับถ่าย พอคลำๆ ดูก็รู้ว่ามีก้อนเนื้อโผล่ออกมาจากรูทวารพอกดเบาๆ ก็หดกลับเข้าไปก็ไม่ได้สนใจมากนัก จนสักเดือนสองเดือนเริ่มแสบมากขึ้นพอคลำพบว่ายังมีติ่งเนื้อที่รูทวารเลยพยายามดันเข้าอย่างจริงจังพอดันเข้าไปแล้วอาการก็ดีขึ้น แต่น่าจะมาจากที่กว่าจะรู้ตัวก็ครึ่งค่อนวันมันเลยอักเสบนิดหน่อย เลยตัดสินใจไปหาหมอ พอได้พบหมอจึงได้แน่ใจว่าตัวเองเป็นริดสีดวง แต่ดันเป็นทั้งแบบภายนอกและภายใน คือแบบภายในจะมีการแบ่งระยะและสามารถรักษาด้วยวิธีที่ไม่ใช่การผ่าตัดได้ ซึ่งจะแตกต่างจากการเป็นริดสีดวงภายนอกที่จะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้นถ้าอยากจะให้หายไป แต่เนื่องจากริดสีดวงของเราภายในน่าจะระยะ 1 ซึ่งมี 2 หัว และภายนอก 1 หัวเล็กๆ ซึ่งหมอไม่แนะนำให้ผ่า เพราะอาจจะมีผลที่ตามมาแบบได้ไม่คุ้มเสีย ซึ่งก็มีการสั่งยาและรอดูอาการ 1 เดือน ตอนแรกค่อนข้างกังวลเพราะการมีอะไรโผล่ออกมาจากรูทวารตลอดมันไม่น่าพิสมัยแน่ๆ ละ หลังนัด 1 เดือนทุกอย่างก็คงยังเหมือนเดิมไม่ได้เป็นมากขึ้นหรือน้อยลง เลือดก็แทบไม่มีออกทีนี้หมอเลยนัดดูอาการอีก 1 ปี
หลังจากนั้นโรคมีการพัฒนาตัว 555 นั้นคือมีเจ้าก้อนริดสีดวงโผล่ออกมาตอนทำธุระทุกครั้งพยายามขมิบสู้ก็ไม่ตอบรับต้องคอยใช้นิ้วดันกลับตลอด แต่โชคดีคือมันไม่อักเสบถ้าทำธุระเสร็จแล้วดันน้องกลับเข้าไปก็แทบจะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอาจจะมีอาการเจ็บนิดหน่อยเท่านั้น(ตอนนี้ถึงเพิ่งคิดได้ว่าน่าจะเป็นเจ้าก้อนนี้แหละที่ทำให้เราต้องไปหาหมอแต่แรก) ซึ่งตอนนั้นเข้าใจว่าตัวเองเป็นริดสีดวงภายในที่น่าจะระยะ 3 ซึ่งเคยคุยกับหมอแล้วว่าถึงจะเกินระยะ 2 แต่ถ้าหมอดูว่ารัดยางได้ก็ยังทำได้ เลยมีความหวังเต็มเปี่ยมว่าครั้งนี้ที่ไปหาหมอจะให้หมอจัดการเจ้าก้อนนี้ให้ ส่วนเจ้าริดสีดวงภายนอกที่เป็นติ่งเนื้อน้อยๆ ก็ทำใจอยู่ร่วมกันได้แล้ว แต่พอเจอหมอผลปรากฎว่าเป็นริดสีดวงภายนอก แทบทรุด เพราะน้องเป็นก้อนที่ต้องคอยดันเก็บมาตลอดไม่คิดไม่ฝันว่าจะเป็นภายนอก ส่วนตัวที่อ่านมาภายนอกคือด้านนอกเลย แต่จากที่ประสบก็คงจะแยกที่หูรูดภายในมากกว่า เพราะเลยจากนั้นมาน่าจะมีเส้นประสาท อย่างหูรุดภายนอกคือให้เราขมิบก้นได้ ดังนั้นส่วนนี้หมอไม่ยอมรัดยางให้เพราะจะเจ็บปวดมาก หมอเลยให้ยาถ่าย + ไฟเบอร์ มาทานรอดูอาการอีก 4 เดือน(จริงๆคือถามหมอว่ามีโอกาสจะยุบไหม หมอบอกว่าไม่อย่างมากคือจะเหี่ยวแล้วเหลือถุงหุ้มไว้) เอาจริงเป็นคนท้องเสียง่าย ไม่ใช่คนท้องผูกแต่จากการที่เจ้าก้อนริดสีดวงคอยขวางทำให้รู้สึกถ่ายไม่สุดและไม่กล้าเบ่งหรือนั่งนานด้วยหมอเลยจ่ายยานี้มา
เกริ่นมานานเข้าเรื่องรักษาจริงจังเลยนะ หลังจากที่ลองมาหลายอย่างค้นพบว่าวิธีการต่างๆ ที่รักษาเจ้าริดสีดวงคือการทำให้ถ่ายง่ายและไม่นั่งห้องน้ำนาน
1 Himalaya อันนี้ใช้ทั้งแบบทาและทาน ก็เฉยๆ นะถ้าใครท้องผูกอาจจะดีเพราะเท่าที่สังเกตคือขับถ่ายนิ่มขึ้น
2 เพชรสังฆาต อันนี้ก็เหมือนกันเหมือนทานแล้วให้ขับถ่ายนิ่ม จริงๆ ไม่รู้กลไกช่วยยังไงบ้างเห็นคนพูดเยอะ หมอก็บอกตัวนี้ทานได้
3 หัวไชเท้า+น้ำผึ้ง อันนี้สำหรับเรากินแล้วท้องเสียไปเลย กินก่อนนอนทำยากด้วย555 เช้ามาวิ่งเข้าห้องน้ำไปเลย อาจจะเหมาะกับคนท้องผูกมากๆ แต่เราขอบายทำได้ 3 วันเลิก
4 ยาสอดตัวนี้เห็นว่าเป็นขี้ผึ้ง+steroid ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานๆ ให้ใช้ตอนน้องอักเสบ ซึ่งเราแทบไม่อักเสบ
5 แช่ก้นในน้ำอุ่น
ซึ่งจะบอกว่าวิธีข้างต้นที่กล่าวมาสำหรับเราคือไม่ได้ผลอาจเนื่องด้วยเราเป็นริดสีดวงแบบภายนอกและเป็นคนท้องเสียง่ายไม่ใช่คนท้องผูก
และวิธีสุดท้ายที่เราทำแล้วได้ผล แต่จะบอกว่าอันนี้ต้องพิจารณาดีๆ นะเราไม่รับประกันว่าจะได้ผลและเหมาะกับทุกคน นั่นคือการรัดยาง ซึ่งจริงๆ วิธีนี้เหมาะกับการรักษาริดสีดวงอยู่แล้วแต่ส่วนมากจะทำกับริดสีดวงภายในเท่านั้นเพราะถ้าทำกับตัวริดสีดวงภายนอกมันจะเจ็บมาก อันนี้เกิดจากความดื้อส่วนตัวล้วนๆ ไม่ขอให้ใครลอกเลียนแบบ เนื่องจากเราก็ยังไม่อยากให้ถึงขั้นผ่าตัด และพักรักษาตัว หลังจากดูข้อมูลในเน็ตก็เห็นมีการรัดยางริดสีดวงภายนอกด้วย แค่ถ้าเจ็บมาทนไม่ไหวให้เอาออก เราเลยคิดว่าถ้าต้องผ่ายังไงก็เจ็บ เลยตัดสินใจลองรัดยางด้วยตัวเองดู แต่เราไม่ได้ไปซื้ออุปกรณ์เฉพาะนะ แค่หลังถ่ายก็จับเจ้าก้อนริดสีดวงเอาไว้ดึงๆ หน่อยแล้วเอายางเส้นเล็กๆ(ของเราใช้ยางดึงจัดฟันที่เคยใช้อันที่เล็กและหนาที่สุด) เราใช้ยางคลอบลงไปที่ริดสีดวงตรงๆ เลยไม่ได้ทบยางแต่ใช้ยาง 2 เส้น หลังจากนั้นก็ดันก้อนริดสีดวงกลับเข้าไป จะบอกว่าเจ็บมาก เจ็บจริง แต่เป็นแบบยังพอทนได้แต่จะขยุกขยิกหน่อย คอยเปลี่ยนท่าทางตลอดเวลา ก่อนจะนอนเราทานพาราไป 1 เม็ดกะดักไว้ก่อน แต่สุดท้ายไม่เป็นผล เรานอนแทบไม่หลับเลยคืนนั้นคือมันเจ็บมาก มากกว่าตอนมี ปจด อีก เพราะปกติเวลามี ปจด กระเป๋าน้ำร้อน + พารา คือหลับได้ แต่อันนี้คือทั้งคืน สุดท้ายตื่นเช้าไปทำงานเรารู้สึกเหมือนจะวูบ เพราะทั้งเจ็บและนอนน้อยพอเราถ่ายแล้วก้อนริดสีดวงโผล่ออกมาเราเลยตัดสินใจเอายางออกเลย(รัดไปได้ประมาณ 15 ชั่วโมง) ผลคือมีเลือดและน้ำเหลืองไหลอยู่พอควร อาการเจ็บดีขึ้น แต่มันปวดแสบเลยต้องหายาแก้ปวดกิน(แก้ปวดจริงๆ ไม่ใช้พาราแล้วเพราะน่าจะเอาไม่อยู่) หลังจากนั้นทุกครั้งที่ถ่ายคือเจ็บมากเพราะตัวริดสีดวงอักเสบ มีเลือดไหลติดกระดาษทิชชูพอควร โดนก้อนริดสีดวงคือปวดมาก แต่ต้องทำใจทนเจ็บดันเข้าไปไม่งั้นจะเจ็บกว่าเดิม และทานยาแก้ปวด ช่วงนั้นมีเอา Steroid ผสมครีมฆ่าเชื้อทาแถวที่รัดริดสีดวงด้วยเพราะแอบกลัวติดเชื้อ แล้วก็คอยแช่ก้นในน้ำอุ่นร้อนเท่าที่มีโอกาส ตอนนั้นคือรู้สึกหาเรื่องมากจากที่ไม่เจ็บก็ไปหาเรื่องให้ตัวเองเจ็บ แต่ก็คิดว่าถ้าทนรัดยางไปได้ถึงสัปดาห์แล้วหัวหลุดไปจริงๆ ก็คือคุ้ม แต่เพราะทำเองก็กลัวผิดวิธีแล้วเนื้อเน่าจะไปกันใหญ่ แถมตอนนี้ก็รัดได้ไม่ถึงวันก็ทนไม่ได้แล้ว หลังจากนั้นก็ทนทรมานไปได้ 4 วันก็เริ่มดีขึ้นอาการอักเสบน่าจะหายแล้วเลยเลิกทานยาแก้ปวดขนานแรงกลัวกระเพาะจะพัง แล้วหลังจากนั้นก็สังเกตได้ว่าถึงแม้ตัวริดสีดวงจะยังโผล่ออกมาตอนทำธุระ แต่ก็จะหดกลับเข้าไปเองหลังขมิบก้น หรือลุกขึ้นยืน ซึ่งนั่นหมายความว่าเจ้าก้อนริดสีดวงมีขนาดเล็กลง น่าจะเพราะจากเลือดที่ไหลออกมา เพราะตัวริดสีดวงเกิดจากเลือดคั่งอยู่แล้วพอได้ระบายออกเลยมีขนาดเล็กลง(คิดว่านะ) ตอนนี้ผ่านมา 3 อาทิตย์คือหายเจ็บแล้วชีวิตถือว่าแฮปปี้นะเพราะเราก็แค่ต้องการให้น้องริดสีดวงกลับเข้าไปได้เองแบบนี้แหละตอนนี้ก็ได้แต่ระวังและขอให้น้องไม่ใหญ่ขึ้นอีก
จบแล้วยาวมาก แต่อยากขอ ***ไว้ตรงนี้เลยนะว่าเล่าให้ฟังสำหรับคนที่เป็นริดสีดวงภายนอกและอยากหาทางเลือก แต่ไม่รับประกันผลนะ ถ้าไม่หาย ไม่เล็กลงคือบอกได้เลยว่าเป็นหาเรื่องให้ตัวเองมากเพราะมันเจ็บมากจริงๆ ส่วนตัวยังไม่รู้เลยว่าถ้าเจอหมอจะบอกดีไหมกลัวโดนด่า555
การรักษาริดสีดวงภายนอกฉบับส่วนตัว
เราขอเริ่มจากการเล่าอาการเริ่มแรกที่เผชิญก่อน นั้นคือเราเริ่มมีอาการแสบก้นหลังการขับถ่าย พอคลำๆ ดูก็รู้ว่ามีก้อนเนื้อโผล่ออกมาจากรูทวารพอกดเบาๆ ก็หดกลับเข้าไปก็ไม่ได้สนใจมากนัก จนสักเดือนสองเดือนเริ่มแสบมากขึ้นพอคลำพบว่ายังมีติ่งเนื้อที่รูทวารเลยพยายามดันเข้าอย่างจริงจังพอดันเข้าไปแล้วอาการก็ดีขึ้น แต่น่าจะมาจากที่กว่าจะรู้ตัวก็ครึ่งค่อนวันมันเลยอักเสบนิดหน่อย เลยตัดสินใจไปหาหมอ พอได้พบหมอจึงได้แน่ใจว่าตัวเองเป็นริดสีดวง แต่ดันเป็นทั้งแบบภายนอกและภายใน คือแบบภายในจะมีการแบ่งระยะและสามารถรักษาด้วยวิธีที่ไม่ใช่การผ่าตัดได้ ซึ่งจะแตกต่างจากการเป็นริดสีดวงภายนอกที่จะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้นถ้าอยากจะให้หายไป แต่เนื่องจากริดสีดวงของเราภายในน่าจะระยะ 1 ซึ่งมี 2 หัว และภายนอก 1 หัวเล็กๆ ซึ่งหมอไม่แนะนำให้ผ่า เพราะอาจจะมีผลที่ตามมาแบบได้ไม่คุ้มเสีย ซึ่งก็มีการสั่งยาและรอดูอาการ 1 เดือน ตอนแรกค่อนข้างกังวลเพราะการมีอะไรโผล่ออกมาจากรูทวารตลอดมันไม่น่าพิสมัยแน่ๆ ละ หลังนัด 1 เดือนทุกอย่างก็คงยังเหมือนเดิมไม่ได้เป็นมากขึ้นหรือน้อยลง เลือดก็แทบไม่มีออกทีนี้หมอเลยนัดดูอาการอีก 1 ปี
หลังจากนั้นโรคมีการพัฒนาตัว 555 นั้นคือมีเจ้าก้อนริดสีดวงโผล่ออกมาตอนทำธุระทุกครั้งพยายามขมิบสู้ก็ไม่ตอบรับต้องคอยใช้นิ้วดันกลับตลอด แต่โชคดีคือมันไม่อักเสบถ้าทำธุระเสร็จแล้วดันน้องกลับเข้าไปก็แทบจะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอาจจะมีอาการเจ็บนิดหน่อยเท่านั้น(ตอนนี้ถึงเพิ่งคิดได้ว่าน่าจะเป็นเจ้าก้อนนี้แหละที่ทำให้เราต้องไปหาหมอแต่แรก) ซึ่งตอนนั้นเข้าใจว่าตัวเองเป็นริดสีดวงภายในที่น่าจะระยะ 3 ซึ่งเคยคุยกับหมอแล้วว่าถึงจะเกินระยะ 2 แต่ถ้าหมอดูว่ารัดยางได้ก็ยังทำได้ เลยมีความหวังเต็มเปี่ยมว่าครั้งนี้ที่ไปหาหมอจะให้หมอจัดการเจ้าก้อนนี้ให้ ส่วนเจ้าริดสีดวงภายนอกที่เป็นติ่งเนื้อน้อยๆ ก็ทำใจอยู่ร่วมกันได้แล้ว แต่พอเจอหมอผลปรากฎว่าเป็นริดสีดวงภายนอก แทบทรุด เพราะน้องเป็นก้อนที่ต้องคอยดันเก็บมาตลอดไม่คิดไม่ฝันว่าจะเป็นภายนอก ส่วนตัวที่อ่านมาภายนอกคือด้านนอกเลย แต่จากที่ประสบก็คงจะแยกที่หูรูดภายในมากกว่า เพราะเลยจากนั้นมาน่าจะมีเส้นประสาท อย่างหูรุดภายนอกคือให้เราขมิบก้นได้ ดังนั้นส่วนนี้หมอไม่ยอมรัดยางให้เพราะจะเจ็บปวดมาก หมอเลยให้ยาถ่าย + ไฟเบอร์ มาทานรอดูอาการอีก 4 เดือน(จริงๆคือถามหมอว่ามีโอกาสจะยุบไหม หมอบอกว่าไม่อย่างมากคือจะเหี่ยวแล้วเหลือถุงหุ้มไว้) เอาจริงเป็นคนท้องเสียง่าย ไม่ใช่คนท้องผูกแต่จากการที่เจ้าก้อนริดสีดวงคอยขวางทำให้รู้สึกถ่ายไม่สุดและไม่กล้าเบ่งหรือนั่งนานด้วยหมอเลยจ่ายยานี้มา
เกริ่นมานานเข้าเรื่องรักษาจริงจังเลยนะ หลังจากที่ลองมาหลายอย่างค้นพบว่าวิธีการต่างๆ ที่รักษาเจ้าริดสีดวงคือการทำให้ถ่ายง่ายและไม่นั่งห้องน้ำนาน
1 Himalaya อันนี้ใช้ทั้งแบบทาและทาน ก็เฉยๆ นะถ้าใครท้องผูกอาจจะดีเพราะเท่าที่สังเกตคือขับถ่ายนิ่มขึ้น
2 เพชรสังฆาต อันนี้ก็เหมือนกันเหมือนทานแล้วให้ขับถ่ายนิ่ม จริงๆ ไม่รู้กลไกช่วยยังไงบ้างเห็นคนพูดเยอะ หมอก็บอกตัวนี้ทานได้
3 หัวไชเท้า+น้ำผึ้ง อันนี้สำหรับเรากินแล้วท้องเสียไปเลย กินก่อนนอนทำยากด้วย555 เช้ามาวิ่งเข้าห้องน้ำไปเลย อาจจะเหมาะกับคนท้องผูกมากๆ แต่เราขอบายทำได้ 3 วันเลิก
4 ยาสอดตัวนี้เห็นว่าเป็นขี้ผึ้ง+steroid ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานๆ ให้ใช้ตอนน้องอักเสบ ซึ่งเราแทบไม่อักเสบ
5 แช่ก้นในน้ำอุ่น
ซึ่งจะบอกว่าวิธีข้างต้นที่กล่าวมาสำหรับเราคือไม่ได้ผลอาจเนื่องด้วยเราเป็นริดสีดวงแบบภายนอกและเป็นคนท้องเสียง่ายไม่ใช่คนท้องผูก
และวิธีสุดท้ายที่เราทำแล้วได้ผล แต่จะบอกว่าอันนี้ต้องพิจารณาดีๆ นะเราไม่รับประกันว่าจะได้ผลและเหมาะกับทุกคน นั่นคือการรัดยาง ซึ่งจริงๆ วิธีนี้เหมาะกับการรักษาริดสีดวงอยู่แล้วแต่ส่วนมากจะทำกับริดสีดวงภายในเท่านั้นเพราะถ้าทำกับตัวริดสีดวงภายนอกมันจะเจ็บมาก อันนี้เกิดจากความดื้อส่วนตัวล้วนๆ ไม่ขอให้ใครลอกเลียนแบบ เนื่องจากเราก็ยังไม่อยากให้ถึงขั้นผ่าตัด และพักรักษาตัว หลังจากดูข้อมูลในเน็ตก็เห็นมีการรัดยางริดสีดวงภายนอกด้วย แค่ถ้าเจ็บมาทนไม่ไหวให้เอาออก เราเลยคิดว่าถ้าต้องผ่ายังไงก็เจ็บ เลยตัดสินใจลองรัดยางด้วยตัวเองดู แต่เราไม่ได้ไปซื้ออุปกรณ์เฉพาะนะ แค่หลังถ่ายก็จับเจ้าก้อนริดสีดวงเอาไว้ดึงๆ หน่อยแล้วเอายางเส้นเล็กๆ(ของเราใช้ยางดึงจัดฟันที่เคยใช้อันที่เล็กและหนาที่สุด) เราใช้ยางคลอบลงไปที่ริดสีดวงตรงๆ เลยไม่ได้ทบยางแต่ใช้ยาง 2 เส้น หลังจากนั้นก็ดันก้อนริดสีดวงกลับเข้าไป จะบอกว่าเจ็บมาก เจ็บจริง แต่เป็นแบบยังพอทนได้แต่จะขยุกขยิกหน่อย คอยเปลี่ยนท่าทางตลอดเวลา ก่อนจะนอนเราทานพาราไป 1 เม็ดกะดักไว้ก่อน แต่สุดท้ายไม่เป็นผล เรานอนแทบไม่หลับเลยคืนนั้นคือมันเจ็บมาก มากกว่าตอนมี ปจด อีก เพราะปกติเวลามี ปจด กระเป๋าน้ำร้อน + พารา คือหลับได้ แต่อันนี้คือทั้งคืน สุดท้ายตื่นเช้าไปทำงานเรารู้สึกเหมือนจะวูบ เพราะทั้งเจ็บและนอนน้อยพอเราถ่ายแล้วก้อนริดสีดวงโผล่ออกมาเราเลยตัดสินใจเอายางออกเลย(รัดไปได้ประมาณ 15 ชั่วโมง) ผลคือมีเลือดและน้ำเหลืองไหลอยู่พอควร อาการเจ็บดีขึ้น แต่มันปวดแสบเลยต้องหายาแก้ปวดกิน(แก้ปวดจริงๆ ไม่ใช้พาราแล้วเพราะน่าจะเอาไม่อยู่) หลังจากนั้นทุกครั้งที่ถ่ายคือเจ็บมากเพราะตัวริดสีดวงอักเสบ มีเลือดไหลติดกระดาษทิชชูพอควร โดนก้อนริดสีดวงคือปวดมาก แต่ต้องทำใจทนเจ็บดันเข้าไปไม่งั้นจะเจ็บกว่าเดิม และทานยาแก้ปวด ช่วงนั้นมีเอา Steroid ผสมครีมฆ่าเชื้อทาแถวที่รัดริดสีดวงด้วยเพราะแอบกลัวติดเชื้อ แล้วก็คอยแช่ก้นในน้ำอุ่นร้อนเท่าที่มีโอกาส ตอนนั้นคือรู้สึกหาเรื่องมากจากที่ไม่เจ็บก็ไปหาเรื่องให้ตัวเองเจ็บ แต่ก็คิดว่าถ้าทนรัดยางไปได้ถึงสัปดาห์แล้วหัวหลุดไปจริงๆ ก็คือคุ้ม แต่เพราะทำเองก็กลัวผิดวิธีแล้วเนื้อเน่าจะไปกันใหญ่ แถมตอนนี้ก็รัดได้ไม่ถึงวันก็ทนไม่ได้แล้ว หลังจากนั้นก็ทนทรมานไปได้ 4 วันก็เริ่มดีขึ้นอาการอักเสบน่าจะหายแล้วเลยเลิกทานยาแก้ปวดขนานแรงกลัวกระเพาะจะพัง แล้วหลังจากนั้นก็สังเกตได้ว่าถึงแม้ตัวริดสีดวงจะยังโผล่ออกมาตอนทำธุระ แต่ก็จะหดกลับเข้าไปเองหลังขมิบก้น หรือลุกขึ้นยืน ซึ่งนั่นหมายความว่าเจ้าก้อนริดสีดวงมีขนาดเล็กลง น่าจะเพราะจากเลือดที่ไหลออกมา เพราะตัวริดสีดวงเกิดจากเลือดคั่งอยู่แล้วพอได้ระบายออกเลยมีขนาดเล็กลง(คิดว่านะ) ตอนนี้ผ่านมา 3 อาทิตย์คือหายเจ็บแล้วชีวิตถือว่าแฮปปี้นะเพราะเราก็แค่ต้องการให้น้องริดสีดวงกลับเข้าไปได้เองแบบนี้แหละตอนนี้ก็ได้แต่ระวังและขอให้น้องไม่ใหญ่ขึ้นอีก
จบแล้วยาวมาก แต่อยากขอ ***ไว้ตรงนี้เลยนะว่าเล่าให้ฟังสำหรับคนที่เป็นริดสีดวงภายนอกและอยากหาทางเลือก แต่ไม่รับประกันผลนะ ถ้าไม่หาย ไม่เล็กลงคือบอกได้เลยว่าเป็นหาเรื่องให้ตัวเองมากเพราะมันเจ็บมากจริงๆ ส่วนตัวยังไม่รู้เลยว่าถ้าเจอหมอจะบอกดีไหมกลัวโดนด่า555