ทำไมต้องไอแพดด้วย

น้อง ๆ ที่ทำงานคุยกัน  เรื่องต้องซื้อไอแพดให้ลูกเพื่อใช้เรียนหนังสือ  
เลยถามว่า ทำไมต้องไอแพดด้วยหล่ะ มันมียี่ห้ออื่นที่ไม่ใช่ไอแพดแต่สามารถใช้งานได้เทียบเท่าไอแพด โดยประสิทธิภาพก็ไม่ได้แตกต่างกัน
(ในความคิดของเรา)  แต่น้อง ๆ บอกว่าไม่ได้ มันต้องไอแพดเท่านั้น มันดีกว่า มันเสถียรกว่า  มัน....(เราจำไม่ได้ค่ะ น้องบรรยายมาเยอะว่ามันดี)

ส่วนตัวเราก็มีลูก เรียนมัธยมต้น   เมื่อต้นปีเราก็ซื้อแท็บเล็ต หัวเว่ยให้ลูก  ราคาหมื่นกลาง ๆ  ซึ่งตอนที่เราไปซื้อ เราเดินดูทุกร้านทุกช็อปเลยค่ะ  
แล้วเลือกสองยี่ห้อ คือหัวเว่ยกับวีโว่ (มั้ง?-จำไม่ได้) แล้วให้ลูกที่เป็นคนใช้งานมาเลือกอีกทีนึง  (ตอนที่เราเดินดูกับแฟน ลูกเราไปเล่นบาสเราเลยมีเวลาเดินดูและสอบถามรายละเอียดได้เยอะเลย)  ก่อนที่จะมาเดินดูเราก็หาข้อมูลมาบ้างนิดหน่อย  แต่แฟนเราค่อนข้างจะเชี่ยวชาญในเรื่องนี้มากกว่า

ณ.ขณะนั้น ส่วนตัวเราคือไม่ประทับใจ ไอแพดเลย  พนง.ขายไม่สนใจลูกค้าเท่าไหร่ อธิบายแบบขอไปที  ไม่มีของแถมหรือว่าอะไรทุกอย่างต้องซื้อหมด เหมือนประมาณว่ามีแต่เครื่องกับโปรแกรมที่ติดเครื่องมาเท่านั้น  ออฟฟชั่นเสริมอื่น ๆ แทบจะไม่มีอะไร  แถมราคาก็สูงกว่าชาวบ้านเค้า
อ่อจะบอกว่าเรามีปัญญาซื้อให้ลูกได้นะคะในราคา 2 หมื่น+ จะซื้อสดหรือรูดบัตรผ่อน 0% ได้หมดค่ะ แต่ที่ไม่ซื้อเพราะเราคิดว่า ยี่ห้ออื่นก็ทดแทนได้  ทำไมต้องไอแพดด้วย  

คุณๆ ที่เชี่ยวชาญด้านนี้  ว่าอย่างไรกับบ้างคะ  กับสิ่งนี้  เห็นด้วยหรือเห็นต่างอย่างไรบ้างคะ ?

ปล.ส่วนตัวไม่ค่อยยึดติดแบรนด์สินค้าค่ะ  อย่างลูกน้อง  ในแผนกที่ทำงานด้วย  ทุกคนนี่ใช้มือถือไอโฟน กินกาแฟเมซอนกันแทบทุกวัน
หันกลับมาดูที่ตัวเรา redmi  เครื่องเดิม ปกติกาแฟดำชงเอง อย่างดีสุดก็แค่บาว 1 แถม 1
ส่วนตัวยอมรับว่า ลูกน้องพูดๆๆ กันก็มีแอบหวั่นไหวบ้างเหมือนกันค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ทำไมต้อง Apple? น่าจะเป็นคำถามที่ซ่อนอยู่ลึกๆของกระทู้นี้ ไอแพด เป็นตัวอย่างเฉยๆ

คำตอบหลักๆมี 3 ข้อครับ
1.ติดแบรนด์
มันมีจริงๆ คนที่ติดแบรนด์ ด้วยภาพลักษณ์ ด้วยแบรนด์ และ ผูกเอาไว้กับสถานะและการยอมรับ ข้อนี้ผมเคยตั้งกระทู้ไว้นานแล้ว ก็มีคนโต้แย้งเยอะ แต่ก็มีคนเข้าใจประเด็นและให้ความเห็นไว้ว่า มันคือความสำเร็จของ Apple ซึ่งไม่ต่างจากแบรนด์ที่ตั้งให้ตัวเอง lux อื่นๆครับ
(fact  คือ Apple ไม่ได้แพงที่สุดในตลาดอปกรณ์พวกนี้นะ แต่เค้ามีบางไอเท็มที่แพงกว่าชาวบ้านมากๆ และ ไม่มีไอเท็มไหนเลยที่มีสินค้าราคาเบาๆ ภาพลักษณ์ของแบรนด์เลยเป็นอย่างนี้)

2.ความคุ้มค่าระยะยาว
เป็นที่ยอมรับกันจากคนใช้และสายเทคฯ ว่า สินค้า Apple มีอายุการใช้งานยาวกว่า โดยเฉพาะเมื่อเทียบเฉพาะสมาร์ทโฟน เพราะ สองเรือ่งหลักๆคือ ซอฟท์แวร์ที่รองรับและอัพเดทนานมาก เล่าสุด 6 ปีแล้วยังอัพฟีเจอร์ใหม่ๆได้ มีลูกเล่นเพิ่มเรื่อยๆ ที่สำคัญการอัพซอฟท์แวร์รวมถึงการอัพเดทความปลอดภัย นอกจากนั้น เมื่อสิ้นสุดซอฟท์แวร์ก็ยังมีอัพเดทแพ็คความปลอดภัยต่างๆอีกหลายปี อีกเรื่องคือการขายต่อ ด้วยวัสดุภายนอก ด้วยแบรนด์ ทำให้ไอโฟน เป็นสมาร์ทโฟนที่ราคาตกน้อยที่สุด ใช้ไปแล้ว 5 ปียังขายได้ในสัดส่วนราคาที่สูง คนที่เทียบตรงนี้ จะมองว่า ไอโฟนแพงกว่าตอนซื้อแต่ระยะยาวๆคุ้มกว่า ใช้ได้นานกว่า และตอนขายต่อก็ได้ราคาดีกว่า ซื้อใหม่ก็เพิ่มเงินน้อยกว่า
(เทียบกับแอนดรอยด์ ที่อัพซอฟท์แวร์ 1-2 ปีก็หยุดเพราะแต่ละแบรนด์เป็นคนทำซอฟท์แวร์ให้ตัวเอง โดยเอาระบบแอนดรอยด์มาครอบ และแต่ละแบรนด์ไม่ค่อยซัพพอร์ทยาวๆครับ ส่วนเรื่องราคาตก หลายตัว บางยี่ห้อ ราคาตกมากๆ ใช้ปีเดียวเหลือครึ่งราคา)

3.Appe Eco
คนที่ใช้สินค้า Apple หลายชิ้น จะใช้งานได้เต็มที่ โดยเฉพาะสามชิ้นหลักได้แก่ ไอโฟน ไอแพด และ คอมพิวเตอร์แม็ค เพราะทั้งสามชิ้นจะทำงานร่วมกันได้แบบไร้รอยต่อ คล่องตัวกว่า ข้อนี้ คู่แข่งแบรนด์ไหนๆก็ไม่มีครับ เนื่องจาก Apple พัฒนาทั้งแอปฯและฮาร์ดแวร์เองทั้งหมด เมื่อผูกให้มันซิงค์กัน สามารถทำงานได้ร่วมกันหลายอย่างมาก ยี่ห้ออื่นๆ บางตัวมีแต่สมาร์ทโฟน บางตัวมีสมาร์ทโฟนและไอแพดแต่ไม่มีคอม แถมคอมที่ใช้ระบบ Chrome ของ Google ก็ไม่ได้แปลว่าจะทำงานร่วมกับมือถือแอนดรอยด์ทุกตัวได้ เพราะมือถือแต่ละยี่ห้อ ก็ทำมาตัวใครตัวมัน
(สิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดคือ Google Doc และ Microsoft One  แต่อย่างที่บอกคือ ผลิตภัณฑ์ที่รองรับเต็มระบบมีน้อย จึงไม่สามารถทำแบบ Apple ได้)

ตัวผมเองทำงานสายสร้างสรรค์ ทำให้คอมที่ใช้เป็นหลักคือ Apple โดยมีทั้งตั้งโต๊ะ (iMac, Mac Mini) โน้ตบุ้ค (Macbook), ไอแพด, ไอโฟน (จริงๆมี Apple Watch, Airpods, Homepod, Airtag ด้วย)
แต่ ผมก็มีคอม PC และผมมีโทรศัพท์อีกเครื่องเป็น Android ใช้คู่กันสองเครื่อง
มีลูกสาวอายุ 16 ใช้ไอโฟน 12 (5 ปีแล้ว) นางก็ไม่ได้เรียกร้องต้องการเครื่องใหม่ ยังคงพึงพอใจ มีไอแพดตัวล่างสุด(ราคารวมโค้ดส่วนลดไม่ถึงหมื่น) ใช้ปากกายี่ห้อเทียบราคา 990 บาท ใช้เคสเทียบ 1200 ใช้หูฟังครอบหัวอันละพันนิดๆ เน้นสีสันสดใส คอมหลักส่วนตัวของนางใช้ Windows เพราะต้องการเล่นเกมส์

สิ่งที่นางใช้คือ
การจดโน้ตผ่านแอพนอก (เสียเงินซื้อมาติดตั้ง) แต่หลักๆเวลาจดอะไรเร็วๆนางจะจดใน Note ของ Apple ที่ติดเครื่อง นางจะอัดเสียง แปะรูป แปะคลิป แปะลิงค์ในนั้น เพราะทำบนมือถือและไอแพด แล้วมันซิงค์กันอัตโนมัติและแทบจะทันที นางเซฟเอกสารสำคัญ เก็บไฟล์หนังสือเรียนเอาไว้ในไอคลาวด์ เพราะเรียกใช้สะดวกกว่าคลาวด์ยี่ห้ออื่น นางตัดต่อคลิปบนนั้น แล้วโปรเจ็กมันก็ซิงค์กันเอง แต่ถ้านางจะตัดต่ออะไรยาวๆส่งงานที่เป็นวีดีโอ ก็จะมาใช้คอมของพ่อแทน เพราะ PC ที่ใช้มันไม่ลื่น (ทั้งๆที่คอมแรงเล่นเกมส์ได้) นอกจากนี้เวลาทำงานกลุ่มกับเพื่อน เค้าส่งไฟล์ ลากไฟล์กันไปมา แชร์โปรเจ็กทำงานกันได้สะดวก (จริงๆ Microsoft Team ก็ทำได้แต่ต้องทำบนคอมเท่านั้น)

ตอนนี้ลูกสาวไปเรียนอเมริกาครับ ใช้เฉพาะไอแพดไปเรียน และใช้งานร่วมกับระบบ Google  เป็นหลัก ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ดังนั้นเราอาจสรุปได้ง่ายๆว่า สินค้า Apple ก็ทำงานกับฟีเจอร์ชาวบ้านได้ ทำ Google Doc ได้ แต่สินค้ายี่ห้ออื่นใช้ฟีเจอร์ร่วมกับอุปกรณ์ Apple ไม่ได้

สรุป
สำหรับคนที่ใช้งานสินค้า Apple จริงๆ แล้วใช้ฟีเจอร์ของมันทำงานจริงๆ จะเข้าใจครับ กลุ่มนี้ เราตัดทิ้งไปได้เลย เพราะส่วนมากเป็นพวกทำงานโปรดักชั่น ยิ่งสายที่ออนไซท์เยอะๆ ต้องทำงานร่วมกันทั้งในและนอกสถานที่ ซฟอท์แวร์ในระบบที่ทำงานเต็มที่กับซอฟท์แวร์อื่นๆและฟีเจอร์ข้ามเครื่องของ Apple ช่วยได้มากที่สุดจริงๆ

ทว่า ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ใช้งานแบบนั้น เพราะเคยทำงานกับต่างประเทศ แม้ว่าจะใช้ Macbook (ฝั่งเราก็ใช้ ฝั่งเค้าก็ใช้) แต่บริษัทเค้าเซ็ทระบบบน Google Doc ต้องทำงานร่วมกันบนนั้น ทั้งๆที่สามารถใช้งานแอปฯพื้นฐานของเครื่องร่วมกันได้สะดวกกว่า อัตโนมัติกว่า เป็นเพราะนโยบายของบริษัท ที่เซ็ทระบบมาเผื่อเจอทีมที่ไม่ได้ใช้ Apple  เหมือนกกัน (ย้อนไปข้างบนนะครับ Apple ใช้กับทุกระบบได้แต่ยี่ห้ออื่นใช้กับ Apple ไม่ได้)

ถ้าตัดตัวแปรเรื่องการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์ออกไป ก็เหลือแค่ความคุ้มระยะยาว กับแบรนด์เท่านั้นแหละครับ ถ้าคุณไม่ได้ใช้ฟีเจอร์เต็มระบบ แล้วไม่เดือดร้อนกับการใช้โทรศัพท์ที่ไม่ได้อัพซอฟท์แวร์ต่อเนื่อง คุณไม่รู้สึกว่าแอนดรอยด์มันใช้ไปนานๆแล้วไม่สเถียร คุณก็ไม่จำเป็นต้องสนใจแบรนด์นี้ อีกอย่าง เท่าที่อ่าน คุณเทียบความคุ้มจากตอนที่ซื้อมากกว่า และ คุณดูในเรื่องราคาเทียบกับสิ่งที่ได้ซึ่งแท็บเล็ตยี่ห้ออื่นๆ ใช้เรื่องราคามาแข่งครับ ไอแพด เป็นแท็บเล็ตที่มียอดขายสูงสุดในโลก เค้าไม่ง้อแถมนั่นนี่ให้หรอก และ ราคาสองหมื่นบวกๆ ก็ได้แค่ตัวกลางๆของเค้าเท่านั้นเอง ตัวบนๆของเค้า ราคาเรือนแสน ซึ่งถ้าไม่ได้ใช้ขนาดนั้น ก็ไม่จำเป็นหรอก

เรื่องสเถียร จริงๆไม่ค่อยอยากเอ่ยถึงเพราะต่างคนต่างกรรมต่างวาระ และคำว่า"พอใจ" กับความสเถียรของแต่ละคนไม่เหมือนกัน มือถือแอนดรอยด์ของผมอายุ 2 ปี ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ใช้งานมาก็เจอปัญหาไม่สเถียรแค่นิดๆหน่อยไม่ได้มากไปกว่าไอโฟน ส่วนไอโฟนอายุปีครึ่ง ก็มีที่เอ๋อๆ บ้าง แต่ประสบการณ์ส่วนตัวคือ พออายุเกิน 3-4 ปีไปแล้วจะเห็นต่างกันชัดเจนครับ แอนดรอยด์ที่อายุมากๆจะงอแงกว่า(จริงๆก็มีวิธีทำให้มันลื่นไหลเมหือนวันแรกได้) ส่วนไอโฟน ไอแพด และอื่นๆของ Apple วันแรกเป็นยังไง ผ่านไปนานๆก็ยังเป็นแบบนั้นแหละ
โดยเฉพาะคอมฯ ที่ผ่านมา 13 ปี คอม Mac Mini ที่เปลี่ยนชิ้นส่วนแค่ 1 อย่าง ทำงานได้ปกติ เล่นเน็ท ดูหนัง ทำเอกสารพื้นฐาน ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ใหม่ได้ ในขณะที่คอม Windows อายุเท่านี้ ถ้าไม่เคลียร์เครื่องเป็นศูนย์ ก็ใช้แล้วหงุดหงิดเปล่าๆ

ผมเอนเอียงมาทางการใช้สินค้า Apple เพื่อความสะดวกนะครับ
มีหลายอย่างที่แบรนด์อื่นก็ทำได้เช่นกัน แต่ไม่สะดวกเท่า หลายอย่างแบรนด์อื่นๆทำสิ่งนั้นๆได้ดีกว่ามาก เช่นหูฟัง ยี่ห้ออื่นเสียงดีกว่าเยอะ แต่ของ Apple มันสลับเครื่องให้เราได้เองทันที แม้ว่าราคาจะแพงกว่าเยอะ แต่ รวมๆแล้วก็สะดวกกว่า (อย่าเอา Airpods ไปเทียบกับหูฟัง 499 เพราะคุณภาพเสียงและไมค์ต่างกัน ถ้าเทียบ จะทเียบกับหูราคา 2-3 พัน ซึ่งคือครึ่งราคาของมัน แต่เวลาใช้กับหลายๆเครื่องมันสลับเปลี่ยนให้เองไม่ได้)
ทีนี้ถ้าคุณมีแค่มือถือ มีแค่ไอแพด แบบลูกสาวผม ก็ไม่ได้ต้องการใช้ฟีเจอร์แบบนี้ ก็ไม่เลือกครับ (หูฟังครอบหูของ Apple ราคาสองหมื่น ต่อให้ลูกสาวอยากได้ก็คิดว่าแพงเกินไป และ สีสัน หน้าตาไม่ใช่แบบที่นางอยากได้)

ถ้าอ่านมาตรงนี้ก็ไปต่อกันอีกนิดนะครับ
การติดแบรนด์ ไม่ใช่เรื่องผิดนะครับ ในชีวิตของเราๆ ชนชั้นกลาง จะมีการติดแบรนด์อยู่บ้างสักชิ้นสองชิ้นนั่นแหละครับ และแต่ละคนจะมีเหตุผลในการติดแบรนด์นั้นไม่เหมือนกัน อย่างคุณ มองความคุ้มค่าวันที่ซื้อเป็นหลัก  แต่ลองมองที่สินค้าอื่นๆสิครับ น้ำหอม ยาสีฟัน ซ็อสปรุงรส บางที คุณก็ซื้ออันที่แพงกว่า แบรนด์ที่แพงกว่า เพราะ"เชื่อ" และเห็นความแตกต่างของตัวนั้นเทียบกับตัวอื่น เช่น น้ำปลา ที่บ้านคุณใช้ยี่ห้ออะไร ขวดละเท่าไหร่ ทำไมคุณไม่ใช้น้ำปลาแบบรถเข็นก๋วยเตี๋ยวขวดละ 9 บาทล่ะ? เพราะคุณ รับรู้กลิ่น คุณภาพของมัน รสที่แตกต่างกัน หรือ คุณอาจจะกลัวสีสังเคราะห์ สารสังเคราะห์ นั่นก็เหมือนกับคนที่ใช้ Apple ครับ เค้ารับรู้และแยกความต่างได้จึงยอมจ่ายสิ่งนั้น

เอาล่ะ จะจบแล้ว
Apple กำลังถดถอยจากฟีเจอร์ AI ต่างๆครับ มันทำงานได้แค่เล่นๆ (กระจอกมาก) แต่ละฟีเจอร์ที่ปล่อยมาแบบติดเครื่อง ทำงานจริงยังไม่เก่ง แถมไม่รองรับภาษาไทยด้วย ดังนั้น คนที่ใช้ไอโฟน ไอแพด แม็ค แล้วทำงานกับ AI ยังไงๆก็ไป GPT  อยู่ดี ดังนั้นมองในสองมุม หากใช้แอนดรอยด์ ก็จะมี AI ติดเครื่องที่ฉลาดกว่า (เจมิไน ของกูเกิ้ล) ทำอะไรๆได้ยืดหยุ่นกว่า ช่วยงานได้ในระดับที่วางใจได้มากกว่า (สิริ โง่มาก สั่งงานทำอะไรซับซ้อนกว่าคิดเลขและตั้งเวลา ผมไม่ใช้)
แต่มองอีกมุมนะครับ ยังไม่มีมือถือ แท็บเล็ตค่ายไหนมี AI ติดเครื่องในระดับทำงานจริงจังได้ ดังนั้นจะยี่ห้ออะไรสุดท้ายก็ไปใช้ AI แยกต่างหากอยู่แล้ว ดังนั้นคนใช้ Apple ไม่ค่อยเดือดร้อนกับสิริ เพราะยังไงก็ไม่ใช้

หากเป็นคนชอบใช้ระบบช่วยติดเครื่องทำอะไรได้เยอะๆ ไปหายี่ห้ออื่นที่ไม่ใช่ Apple เถอะครับ สั่งงานใช้งานได้เยอะกว่ามากๆ
เช่น สั่งให้ที่บ้านเปิดไฟและแอร์เมื่อเรากำลังเดินทางกลับบ้านและกำลังจะถึงบ้านในไม่เกิน 5 นาทีแต่ถ้ากลับบ้านตอนกลางวันไม่ต้องเปิดไฟนะ  แบบนี้ AI ของแอนนดรอยด์ที่ใช้ระบบสมาร์ทโฮมในเครือข่ายเดียวกัน ทำได้ด้วยการเอ่ยปากภาษาไทยง่ายๆ แต่ของ Apple คุณต้องเข้าไปทำโค้ดโปรแกรมพื้นฐานเอาเอง

ลืมบอกไป สินค้า IOT หรือ อุปกรณ์สมาร์ทโฮมทั้งบ้าน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ Apple ครับ ใช้ที่เข้ากับ Google เป็นหลัก ฉลาดกว่าเยอะ

มาถึงตรงนี้ลืมตอบคำถามเลยว่าทำไมต้องไอแพด มัวแต่ตอบคำถามข้างเคียง
คำตอบก็ง่ายๆครับ เพราะที่บ้านใช้ Apple เยอะ มันทำงานร่วมกันได้เยอะ สะดวก ขายต่อราคาดี ใช้งานไปหลายปีก็ยังไม่งอแง
เคยใช้แท็บเล็ตแอนดรอยด์ (แต่ก็นานหลายปี) ไม่โอเคเลยครับ เหมือนเข้ากับเพื่อนยาก(เข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ) ทำงานของมันเองเฉยๆก็โอเค ถ้าไม่ใช้อะไรเยอะก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่พอใช้งานไปเยอะๆ งานเยอะๆ มันเอ๋อๆ เห็นลูกสาวใช้แล้วรู้สึกว่าเสียสุขภาพจิต เลยพาไปซื้อใหม่ จากนั้นมาวันนี้ ไอแพดของนางยังคงทำงานดี หอบหิ้วไปต่างประเทศได้แบบสบายใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่