ตลาดหุ้นสหรัฐเด้งรับข้อตกลงทางการค้ากับสหราชอาณาจักร

ตลาดหุ้นสหรัฐขานรับข้อตกลงการค้าใหม่กับสหราชอาณาจักร ดันหุ้น ดอลลาร์ และน้ำมันพุ่ง นักลงทุนคาดหวังดีลกับประเทศอื่นจะตามมา
ตลาดการเงินและตลาดทุนโลกเริ่มต้นวันพฤหัสฯ ด้วยแรงซื้อที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในวอลล์สตรีท หลังจากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรเปิดเผยรายละเอียดข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ ซึ่งเป็นข้อตกลงแรกในรอบหนึ่งเดือน นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการเก็บภาษีเป็นเวลา 90 วันเพื่อเปิดทางเจรจาระหว่างประเทศ
 
ข้อตกลงใหม่นี้ยังคงภาษีนำเข้าสินค้าจากสหราชอาณาจักรไว้ที่ 10% แต่ในทางกลับกัน สหรัฐฯ ยอมลดภาษีนำเข้ารถยนต์อังกฤษลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่อังกฤษตอบโต้ด้วยการลดอัตราภาษีสินค้าอเมริกันจาก 5.1% เหลือเพียง 1.8% และเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯ เข้าถึงได้มากขึ้น
 
นักลงทุนมองดีลนี้ว่าเป็น “สัญญาณเชิงบวก” ที่อาจนำไปสู่การประนีประนอมกับประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะการเจรจากับจีน ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ที่สวิตเซอร์แลนด์
 
การฟื้นตัวของตลาดยังได้รับแรงหนุนจากท่าทีของ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ซึ่งเลือกที่จะ “รอดูสถานการณ์” โดยไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันพุธ พร้อมเตือนว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและการว่างงานเพิ่มขึ้น ภายใต้ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าของรัฐบาลทรัมป์
 
ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีหลักยังคงปิดแดนบวก แม้จะอ่อนแรงลงช่วงท้ายตลาด:

• Dow Jones เพิ่มขึ้น 254.48 จุด หรือ +0.62% ปิดที่ 41,368.45 จุด
• S&P 500 บวก 32.66 จุด หรือ +0.58% ปิดที่ 5,663.94 จุด
• Nasdaq Composite พุ่งแรงที่สุด เพิ่มขึ้น 189.98 จุด หรือ +1.07% ปิดที่ 17,928.14 จุด
 
ดอลลาร์แข็งค่า - ปอนด์อ่อนตัว หลัง BOE ลดดอกเบี้ย
 

ในตลาดเงิน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังนักลงทุนคลายกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ชั่วคราวจากข้อตกลง UK-US ขณะที่ปอนด์อังกฤษกลับอ่อนค่าลงจากแรงกดดันของการลดดอกเบี้ยโดย ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE)

• ดัชนี Dollar Index เพิ่มขึ้น 0.77% แตะ 100.66
• ปอนด์ ร่วง 0.42% ปิดที่ $1.3239
• ยูโร อ่อน 0.67% เหลือ $1.1223
• ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 1.46% เทียบเยน อยู่ที่ 145.92
• เทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์แข็งขึ้น 1.01% อยู่ที่ 0.832
 

 

น้ำมันพุ่งต่อเนื่องจากความหวังดีลจีน-สหรัฐ / ทองคำร่วงแรง
 

ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าปรับตัวขึ้น หลังนักลงทุนหวังว่าการเจรจาสหรัฐฯ-จีนในสุดสัปดาห์นี้จะช่วยลดแรงตึงเครียดทางการค้า ซึ่งส่งผลต่อความต้องการพลังงานในระยะยาว:

• WTI (สหรัฐฯ) ปิดที่ $59.91/บาร์เรล เพิ่มขึ้น $1.84 หรือ +3.17%
• Brent (โลก) ปิดที่ $62.84/บาร์เรล เพิ่มขึ้น $1.72 หรือ +2.81%
 

ขณะที่ตลาดทองคำถูกเทขายหนัก หลังความเชื่อมั่นของนักลงทุนหันไปที่การฟื้นตัวของการค้าโลก:

• ราคาทองคำ Spot ร่วง 1.73% ปิดที่ $3,306.00/ออนซ์
• ทองคำล่วงหน้า (U.S. Gold Futures) ลดลง 2.35% ปิดที่ $3,301.90/ออนซ์




ทรัมป์ประกาศข้อตกลงการค้าอังกฤษ “เต็มรูปแบบ” ประเทศแรก

ทรัมป์ประกาศแล้ว! บรรลุดีลการค้าอังกฤษ ประเทศแรกหลังหยุดภาษีตอบโต้ 90 วัน ชี้เป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ คาดข้อตกลงนี้จะหนุนเศรษฐกิจและความมั่นคงระยะยาว

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงการค้าฉบับ "เต็มรูปแบบและครอบคลุม" กับสหราชอาณาจักร ซึ่งถือเป็นประเทศแรกที่สามารถบรรลุข้อตกลงกับมหาอำนาจเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก ภายหลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศหยุดเก็บภาษี "ตอบโต้" (reciprocal tariffs) เป็นเวลา 90 วันตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

ทรัมป์โพสต์ข้อความใน Truth Social โดยระบุว่า "ข้อตกลงกับสหราชอาณาจักรเป็นข้อตกลงที่เต็มรูปแบบและครอบคลุม ซึ่งจะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรในระยะยาว ด้วยประวัติศาสตร์และความเป็นพันธมิตรที่ยาวนานของเรา การมีสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกในการประกาศข้อตกลงเช่นนี้ จึงถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง" พร้อมเสริมว่ายังมีข้อตกลงอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการเจรจาในขั้นคืบหน้าอีกจำนวนมาก
ทำเนียบขาวเตรียมจัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเวลา 10:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 15:00 น. ตามเวลาอังกฤษ ที่ห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) เพื่อให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว

ด้านโฆษกของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งสหราชอาณาจักร ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า "สหรัฐอเมริกาคือพันธมิตรที่ขาดไม่ได้ทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ การเจรจาข้อตกลงระหว่างสองประเทศดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะออกมาแถลงรายละเอียดเพิ่มเติมภายหลังในวันนี้"

แม้ว่าสหราชอาณาจักรจะมีดุลการค้าขาดดุลกับสหรัฐฯ แต่ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่รอดพ้นจากภาษีตอบโต้ชุดใหญ่ที่ทรัมป์ประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมาในนาม "Liberation Day" อย่างไรก็ตาม อังกฤษยังคงถูกเก็บภาษีพื้นฐานในอัตรา 10% และยังอยู่ภายใต้ภาษี 25% สำหรับสินค้ารถยนต์ เหล็ก และอะลูมิเนียมที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากทั่วโลก ซึ่งมีรายงานว่าองค์ประกอบเหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญในรายละเอียดของข้อตกลงใหม่

ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25 จุดในวันเดียวกัน โดยให้เหตุผลว่าภาวะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีการค้าและการประกาศต่างๆ แต่ก็ระบุว่า ผลกระทบต่อการเติบโตและเงินเฟ้อของอังกฤษอาจ "ไม่รุนแรงมากนัก"

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนท์ ให้การต่อสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมเช่นกันว่า สหรัฐฯ อาจจะสามารถประกาศข้อตกลงการค้ากับประเทศคู่ค้าอันดับต้นๆ ได้ภายในสัปดาห์นี้ โดยระบุว่าขณะนี้มี 18 ประเทศที่สหรัฐฯ ถือว่าเป็นคู่ค้าหลัก ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาแล้วทั้งหมด ยกเว้นจีน ซึ่งล่าสุดเพิ่งนัดเจรจาทางการอีกครั้ง

ทั้งนี้ สก็อตต์ เบสเซนท์ และผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เจมีสัน เกรียร์ กำลังเดินทางไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 8 พฤษภาคม เพื่อหารือกับตัวแทนระดับสูงด้านเศรษฐกิจของจีน ซึ่งอาจนำไปสู่การเจรจาข้อตกลงใหม่ระหว่างสองประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในอนาคตอันใกล้


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่