ทีมชาติไทย ประกาศรายชื่อ 23 นักเตะ เกมที่ "สำคัญที่สุด" ของเราในปีนี้ นั่นคือ เอเชียนคัพ รอบคัดเลือก นัดเยือนทีมโถ 2 เติร์กเมนิสถาน
ด้วยความที่เอเชียนคัพ ใช้กฎ head to head ถ้าเราบุกไปเสมอก็ยังพอไหว แต่ถ้าแพ้ล่ะก็ โอกาสตกรอบจะสูงมากๆ
นี่เป็นเกมที่สำคัญมาก ชนิดที่เดิมพันอนาคตของทีมชาติไทยในอีกหลายปีข้างหน้าทีเดียว คิดดูว่า บอลโลกเราก็ไม่เข้ารอบ ถ้าแม้กระทั่งเอเชียนคัพ เรายังไม่ได้เข้าอีก ไม่ต้องมาพูดถึงการก้าวไปเอเชียกันแล้ว
อิชิอิ ไม่ได้แชมป์ AFF ไม่เป็นไร แต่เอเชียนคัพ เราไม่เข้ารอบไม่ได้ครับ
ไทย ปัจจุบันคือทีมอันดับ 15 ในเอเชีย (ฟีฟ่า แรงค์กิ้ง 99) ส่วนเติร์กเมนิสถาน อันดับ 26 (ฟีฟ่า แรงค์กิ้ง 142)
อันดับต่างกันขนาดนี้ คุณภาพของลีกเราก็เหนือกว่า ดังนั้นมันควรชนะ หรือเลวร้ายสุดคือเสมอ (แม้จะเสียคะแนนฟีฟ่าเพียบก็ตาม) ส่วนความพ่ายแพ้ไม่ใช่อ็อปชั่น
นี่คือเกมเดิมพันชะตาชีวิตของอิชิอิเลยทีเดียว มีกระแสข่าวลือเยอะ ว่าเขาอาจโดนเด้งทันที ถ้าทีมแพ้เกมนี้ แม้ผลงานที่ผ่านมาจะโอเคก็ตามที
ความน่าสนใจในการเลือกตัว 23 นักเตะ ชุดลุยเติร์กเมนิสถาน มี 3 ข้อ
ข้อ 1 คือ เติร์กเมนิสถานเป็นประเทศเกือบจะปิด เข้า-ออกยากมาก อินเตอร์เน็ตมีก็จริง แต่บล็อกทุกอย่าง ทั้งกูเกิ้ล เฟซบุ๊ก ยูทูบ ฯลฯ ต้องมุด VPN อย่างเดียว แต่ VPN ก็ผิดกฎหมายที่เติร์กเมนิสถานอีก
เมื่อไม่มีโซเชียลมีเดีย แปลง่ายๆ ว่า นักเตะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เสียเป็นส่วนใหญ่ ต้องสร้างความบันเทิงกันเอง ดังนั้นนักเตะกลุ่มที่ถูกเลือกไป ควรเป็นพวกที่สร้างบรรยากาศดีๆ ให้เกิดขึ้นในแคมป์ คนที่ส่อแวว ว่าจะเป็น Toxic หรือคนใหม่ ที่ไม่รู้นิสัยใจคอเป็นยังไง จะยังไม่โดนเรียกตัวในรอบนี้
ข้อ 2 เติร์กเมนิสถาน ใช้สนามหญ้าเทียม จังหวะเด้ง กระดอนต่างๆ มันจะต่างจากสนามหญ้าจริง ดังนั้น นักเตะที่ถูกเลือก ต้องมีสกิลทักษะดี จับบอลชัวร์มาก ส่งบอลสั้นได้ดี
ข้อ 3 แมตช์กับเติร์กเมนิสถาน แข่งวันที่ 10 มิถุนายน แต่ไทยลีก ปิดฉากไปแล้วตั้งแต่ 30 เมษายน แปลง่ายๆ ว่า นักเตะบางคน จะไม่มีเกมลงแข่งถึงเดือนกว่าๆ ดังนั้นการเลือกตัวของอิชิอิ จำเป็นต้องเอานักเตะจากทีม ที่ยังอยู่ในเส้นทางของบอลถ้วย เพราะการันตีได้ว่า สภาพความฟิตยังมีอยู่
ทีมที่ยังอยู่ในเส้นทางบอลถ้วยก็อย่างเช่น
ลีกคัพ : ราชบุรี, ลำพูน, หนองบัว พิชญ, บุรีรัมย์
เอฟเอคัพ : ราชบุรี, เมืองทอง, บีจี, บุรีรัมย์
หรือในลีกต่างแดน ที่ยังไม่ปิดลีก ทั้งเจลีก และ ลีกอินโดนีเซีย ก็จะถูกดึงมาใช้แน่นอน เพราะพวกเขาจะมีโปรแกรมเตะตามปกติ จนถึงฟีฟ่าเดย์โน่นเลย
การประกาศ 23 คนของอิชิอิ เกิดขึ้นในช่วงบ่ายสองของวันนี้ ผมก็ดู Live ในเพจช้างศึกพร้อมทุกคน ข้อสังเกต เมื่อเห็นตัวผู้เล่นครบแล้ว ก็คือ
- ไทย ไม่มีศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, นิโคลัส มิคเคลสัน, โจนาธาร เข็มดี, ปาตริก กุสตาฟส์สัน และ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ บางคนบาดเจ็บ บางคนมีปัญหาส่วนตัวที่จำเป็นจริงๆ ต้องจัดการ ซึ่งก็น่าเสียดายมาก เพราะทั้ง 5 คนคือคีย์แมนของทีมชาติในยุคอิชิอิ
- ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ไม่ได้มีปัญหาบาดเจ็บ แต่ติดปัญหาเรื่องเอกสาร เขาต้องบินกลับฝรั่งเศสช่วงต้นเดือนมิถุนายน เพื่อไปทำเอกสารที่สำคัญมากๆ ต่อการใช้ชีวิตในไทย เป็นไฟต์บังคับเลี่ยงไม่ได้ เคสนี้ไม่ใช่อิชิอิไม่อยากได้ แต่ธนวัฒน์มีความจำเป็นจริงๆ
- เอราวัณ กานิเยร์ เพิ่งลงตัวจริงให้ลียง ได้รองแชมป์ในรายการพรีเมียร์ลีก อินเตอร์เนชั่นแนลคัพ (แพ้น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์) ร่างกายเขาหายดีแล้ว จริงๆ ผมอยากให้อิชิอิวัดไปเลย เอาเอราวัณ ติดทีมชุดใหญ่ นักเตะที่ได้ซ้อมร่วมกับทีมลียงชุดใหญ่ ไม่ดีพอจะติดทีมชาติไทยอีกหรือ?
แต่ก็อย่างที่บอกไป เกมกับเติร์กเมนิสถานเสี่ยงเกินไปที่จะทดลองผู้เล่นใหม่ถอดด้าม อิชิอิเป็นพวกเพลย์เซฟอยู่แล้ว และยิ่งไม่มีธนวัฒน์ที่พูดฝรั่งเศสได้ เอราวัณก็น่าจะใช้ชีวิตได้ยากมาก เพราะเขาพูดได้แต่ฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษก็พูดได้ไม่แข็ง
- นักเตะที่ถูกเลือกมา เกือบทั้งหมด เป็นกลุ่มผู้เล่นที่มีโปรแกรมบอลถ้วย หรือเป็นตัวลีกต่างชาติ เพราะสภาพร่างกายยังฟิตอยู่ คนจากทีมอื่นๆ ที่สอดแทรกเข้ามาได้ ต้องเป็นคนที่อิชิอิชอบจริงๆ ซึ่งมีด้วยกัน 4 คน คือ ศุภนันท์ บุรีรัตน์, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ จากท่าเรือ และ เบน เดวิส จากอุทัยธานี ซึ่งทั้ง 4 คนนี้ จะไม่ได้เล่นเกมทางการ 1 เดือนเต็ม ดังนั้น ต้องรักษาความฟิตด้วยตัวเอง หวังว่าพวกเขาจะมีวินัยต่อเนื่องจนถึงฟีฟ่าเดย์
สำหรับการประกาศ 23 ขุนพลรอบนี้ ความรู้สึกของผมก็มีชอบ และไม่ชอบปนๆ กัน
-----------------
สิ่งที่ชอบในการประกาศตัว
1) การรีเทิร์นของคคนะ คำยก นี่เป็นนักเตะที่ผมชอบมากๆ ในวัย 20 ปี เขาคือผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดใน Squad ชุดนี้
ฟอร์มกับเมืองทอง คคนะ พัฒนาขึ้นมาก เขาเป็นกองกลางที่สอดมายิงได้ยอดเยี่ยมสุดๆ ในไทยลีกปีนี้ คคนะคือกองกลางคนไทย ที่ยิงได้เยอะสุดในไทยลีกด้วยจำนวน 8 ประตู เขาไม่ติดไม่ได้จริงๆ
คคนะได้ลงทีมชาติแค่นัดเดียวเท่านั้น ในเกมคิงส์คัพ ที่เจอฟิลิปปินส์ ซึ่งน้ำท่วมสนาม วันนั้น เขายังไม่ได้ปล่อยของให้คนไทยเห็นด้วยซ้ำ มาคราวนี้แหละ เขาจะได้โชว์ศักยภาพแน่ๆ
2) การกลับมาของพิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ในเมื่อเราไม่มีวีระเทพ ป้อมพันธุ์ ก็จำเป็นต้องหา DMC ที่เล่นกลางรับได้ดี มาเป็นแกนหลักแทน พิธิวัตต์ ประสบความสำเร็จมากๆ กับบุรีรัมย์ เขาสมควรจะติดทีมแล้ว ไม่มีข้อสงสัยอะไร
3) สามนายทวารรอบนี้ ปฏิวัติ คำไหม, สรานนท์ อนุอินทร์ และ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล เป็นสามคนที่ดีที่สุด ในไทยลีก ดูตามตารางคะแนนเลย
บุรีรัมย์ อันดับ 1 ใช้นีล เอเธอริดจ์ (ฟิลิปปินส์) แต่อันดับ 2 แบงค็อก คือ ปฏิวัติ, อันดับ 3 บีจี คือ สรานนท์ และ อันดับ 4 ราชบุรี คือ กัมพล เกมสำคัญแบบนี้ เอานายทวารไทยจากทีมท็อปมาติดพร้อมกัน ถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว
4) ชอบที่เอาตัวลีกต่างชาติกลับมาหมดเลย จริงอยู่ว่า เจริญศักดิ์ก่อนจะเจ็บ เขาลงในเกมลูวานคัพ และยิง 1 แอสซิสต์ 1 ถ้าได้เล่นจริงๆ ฟอร์มก็พอได้อยู่ ส่วนเอกนิษฐ์ เริ่มได้ลงตัวจริงให้เอฮิเมะ เอฟซีแล้ว
ในสถานการณ์ที่ศุภณัฏฐ์ เจ็บ เราไม่มีตัวที่ไว้ใจให้ยืนปีกขวาได้ ดังนั้น ไม่เจริญศักดิ์ ก็ต้องเป็นเอกนิษฐ์นี่แหละ เป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลแล้ว
เจริญศักดิ์เจ็บ 1 เดือนใช่ ถ้าฟีฟ่าเดย์เตะวีกหน้า โค้ชคงไม่เรียก แต่อันนี้อีก 1 เดือนกว่าจะเตะ ยังมีเวลามากเกินพอที่จะพักฟื้นให้หายดี
ส่วนเคสของสุภโชค กับ เอเลียส ทั้งคู่เป็นคนสำคัญของอิชิอิ ยังไงก็ต้องเรียกเสมออยู่แล้ว ไม่มีประเด็นอะไร
-----------------
สิ่งที่ไม่ชอบในการประกาศตัว
1) มาร์โค บัลลินี่ มายังไง?
บัลลินี่ สูง 200 ซม. เขาคือนักเตะที่สูงที่สุดของนักเตะที่ถูกเรียกมา แต่ฟอร์มกับบีจี คือไม่ได้ดีเลย เกมที่ลงตัวจริงนัดล่าสุด โดนสุโขทัยยิง 4 ลูก
เหตุผลหลักที่ติด คือเขาอยู่บีจี จึงมีความฟิตมากพอ เพราะยังซ้อมอยู่ และนักเตะส่วนใหญ่ของทีมชาติมาจากบีจี (5 คน) ดังนั้นไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัว
แต่เอาจริงๆ ผมไม่คิดว่าเป็นชอยส์ที่ดีนัก ฤดูกาลนี้บัลลินี่ ลงตัวจริงในไทยลีก 14 นัด ไม่ถึงครึ่งของเกมทั้งหมดด้วยซ้ำ บางทีอิชิอิอาจเอามาเป็นตัวหลอก ส่งลงในเกมเจออินเดีย แล้วในเกมเจอเติร์กเมนิสถาน ก็ใช้คู่อื่นแทน
2) ธีราทร บุญมาทัน น่าจะได้รับโอกาส
ธีราทรหายเจ็บกลับมาแล้ว สองเกมหลังสุด เขาลงตัวจริง (ไทยลีก ชนะหนองบัว 7-0 และ ช็อปปี้คัพ เสมอบีจี 0-0) ในเกมสำคัญแบบนี้ ประสบการณ์ และเซนส์ของธีราทร น่าจะช่วยทีมได้เยอะมากๆ
แบ็กซ้ายของไทยมีสองคน คือ ศศลักษณ์ ซึ่งเล่นเกมรับไม่ดี กับ อิรฟาน ซึ่งก็ไม่ใช่แบ็กซ้ายธรรมชาติ ไม่เข้าใจว่าอิชิอิจะจับเอาอิรฟานเป็นตัวหลักไปเลยหรือยังไงในตำแหน่งนี้
เข้าใจว่าอิชิอิอยากสร้างทีมใหม่ และธีราทรก็ 35 ปีแล้ว แต่ในเกมสำคัญขนาดนี้ แบบที่แพ้ไม่ได้ ผมว่าก็ไม่แย่ถ้าจะเรียกอุ้มกลับมาช่วยก่อน ซึ่งเขาก็คงพร้อมรับใช้ชาติอยู่แล้ว
เคยได้ยินสำนวน ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็แก่พอไหมครับ แต่ในทางตรงข้าม ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็เด็กพอ ได้เหมือนกัน
การสร้างทีมใหม่ ไม่จำเป็นต้องมองข้ามตัวเก๋าทุกคน อย่างสารัช ธีรศิลป์ อันนี้ผมคิดว่าไม่เรียกก็เข้าใจได้ แต่เคสธีราทร ผมว่าไม่เหมือนกัน
คิดถึงอนาคตมันก็ดี แต่ก็ไม่น่าจะมองข้ามปัจจุบันนะ
3) อิชิอิ หวาดกลัวเกินไป
อิชิอิ ไม่กล้าใช้ผู้เล่นตัวใหม่ๆ แม้นักเตะคนนั้นจะเล่นดีแค่ไหนก็ตาม ถ้าใครจำกันได้ โจนาธาร เข็มดี ได้นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของไทยลีก เป็นกองหลังที่ฟอร์มดีสุด ณ เวลานั้น แต่อิชิอิ ก็ไม่เอาตัวไปบอลโลกรอบคัดเลือกด้วย แล้วเขาก็มาเสียใจทีหลัง ว่าน่าจะเรียกมานานแล้ว
มีนักเตะหลายคนที่ฟอร์มดีมาก แต่เขาไม่เคยใช้งาน และไม่อยู่ในเรดาร์ของเขา เขาก็พร้อมมองข้ามทันที เช่น กฤษณนน ศรีสุวรรณ หรือ จักรพันธ์ แก้วพรหม ที่ทำผลงานร่วมกับธนวัฒน์ ได้สุดยอดมากๆ ในครึ่งซีซั่นหลังของไทยลีก จนพาราชบุรี เข้ารอบรองสองถ้วย บวกกับอันดับ 4 ไทยลีก แถมยังโค่นบุรีรัมย์ลงได้ แต่ก็ไม่ถูกพิจารณา
ผมเข้าใจว่า อิชิอินั้น เป็นพวกเพลย์เซฟมากๆ ใช้แต่ตัวที่คุ้นชิน แต่บางที ก็น่าจะดูฟอร์มกันบ้าง คนไหนเล่นดีมากๆ ในไทยลีก ก็น่าจะเรียกมา ไม่ใช่หรือ จะได้เอาผลงานดีๆ ในลีก มาระเบิดฟอร์มกับทีมชาติด้วย
-----------------
ท้ายที่สุดแล้ว ในเรื่องการเรียกตัวนั้น เฮดโค้ช คือคนที่ถืออำนาจสิทธิ์ขาด ไม่มีใครไปก้าวก่ายได้ ถ้าเขาคิดว่า 23 คนนี้ดีที่สุด ก็ต้องตามนั้น
แฟนบอลไทย ได้แต่ต้องลุ้น ว่าพวกเขาจะเล่นดี และพาทีมไทยชนะได้ ในเกมที่สำคัญสุดๆ กับเติร์กเมนิสถาน วันที่ 10 มิถุนายนนี้
ตัวอิชิอินั้น ในการคุมทีมชาติมาปีกว่าๆ มีเกมที่ผลการแข่งขันไม่เป็นใจบ้าง แต่แฟนบอลก็ซัพพอร์ทเขาเสมอ
ตกรอบฟุตบอลโลก - แฟนบอลไทยไม่ว่า เพราะเขาต้องมาแก้ปัญหาที่มาโน่สร้างไว้
อุ่นเครื่องเสมอลาว - แฟนบอลไทยไม่ว่า เพราะต้องให้โอกาสเขาทดลองนักเตะหน้าใหม่บ้าง
พลาดแชมป์ AFF - แฟนบอลไทยไม่ว่า เพราะมันไม่ใช่เกมฟีฟ่าเดย์ แถมโปรแกรมของ AFF ก็เยอะผิดมนุษย์มนา
ชนะศรีลังกา 1-0 - แฟนบอลไทยอาจตั้งคำถาม แต่สุดท้ายก็ปล่อยผ่าน เพราะชนะก็คือชนะ ในกฎ Head to Head พอจะกล้อมแกล่มได้ว่า ไม่ต้องยิงเยอะขนาดนั้น
ที่ผ่านมา ผมว่าแฟนบอลไทยยังปกป้องเขาเยอะมาก แต่กับเติร์กเมนิสถานนัดนี้ ไม่ได้เลย ถ้าหากแพ้ อิชิอิจะไม่ได้รับการปกป้องอะไรอีกแล้ว
ถ้าเลือกตัวแบบนี้ แล้วทำทีมชนะ อิชิอิจะได้รับดอกไม้แน่นอน คุณอ่านขาด เลือกตัวแม่นยำ ขัดใจบางคน แต่ยังชนะได้
แต่ถ้าแพ้ จะเจอความกดดันจะถาโถมอย่างรุนแรงมากที่สุด ที่เขาเคยโดนเลยทีเดียว
ท้ายที่สุด เราคนดูบอลก็ไม่ใช่โค้ช คนที่อยู่หน้างาน และสัมผัสนักเตะด้วยตัวเอง อาจจะมองเห็นอะไรบางอย่าง และมีเหตุผลรองรับอยู่แล้ว
ดังนั้นแฟนบอลได้แต่ต้องเชื่อมั่นและศรัทธาครับ ยังไงพวกเราทุกคนก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือเชียร์ไทยให้คว้าสามแต้มให้ได้
หวังว่า 23 ขุนพลช้างศึก จะปิดจ๊อบเติร์กเมนิสถานได้สำเร็จนะครับ เจอทีมอันดับ 142 ของโลก อย่าพลาดเลยนะ ขอร้อง
อืม บทความนี้ดีมาก
ด้วยความที่เอเชียนคัพ ใช้กฎ head to head ถ้าเราบุกไปเสมอก็ยังพอไหว แต่ถ้าแพ้ล่ะก็ โอกาสตกรอบจะสูงมากๆ
นี่เป็นเกมที่สำคัญมาก ชนิดที่เดิมพันอนาคตของทีมชาติไทยในอีกหลายปีข้างหน้าทีเดียว คิดดูว่า บอลโลกเราก็ไม่เข้ารอบ ถ้าแม้กระทั่งเอเชียนคัพ เรายังไม่ได้เข้าอีก ไม่ต้องมาพูดถึงการก้าวไปเอเชียกันแล้ว
อิชิอิ ไม่ได้แชมป์ AFF ไม่เป็นไร แต่เอเชียนคัพ เราไม่เข้ารอบไม่ได้ครับ
ไทย ปัจจุบันคือทีมอันดับ 15 ในเอเชีย (ฟีฟ่า แรงค์กิ้ง 99) ส่วนเติร์กเมนิสถาน อันดับ 26 (ฟีฟ่า แรงค์กิ้ง 142)
อันดับต่างกันขนาดนี้ คุณภาพของลีกเราก็เหนือกว่า ดังนั้นมันควรชนะ หรือเลวร้ายสุดคือเสมอ (แม้จะเสียคะแนนฟีฟ่าเพียบก็ตาม) ส่วนความพ่ายแพ้ไม่ใช่อ็อปชั่น
นี่คือเกมเดิมพันชะตาชีวิตของอิชิอิเลยทีเดียว มีกระแสข่าวลือเยอะ ว่าเขาอาจโดนเด้งทันที ถ้าทีมแพ้เกมนี้ แม้ผลงานที่ผ่านมาจะโอเคก็ตามที
ความน่าสนใจในการเลือกตัว 23 นักเตะ ชุดลุยเติร์กเมนิสถาน มี 3 ข้อ
ข้อ 1 คือ เติร์กเมนิสถานเป็นประเทศเกือบจะปิด เข้า-ออกยากมาก อินเตอร์เน็ตมีก็จริง แต่บล็อกทุกอย่าง ทั้งกูเกิ้ล เฟซบุ๊ก ยูทูบ ฯลฯ ต้องมุด VPN อย่างเดียว แต่ VPN ก็ผิดกฎหมายที่เติร์กเมนิสถานอีก
เมื่อไม่มีโซเชียลมีเดีย แปลง่ายๆ ว่า นักเตะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เสียเป็นส่วนใหญ่ ต้องสร้างความบันเทิงกันเอง ดังนั้นนักเตะกลุ่มที่ถูกเลือกไป ควรเป็นพวกที่สร้างบรรยากาศดีๆ ให้เกิดขึ้นในแคมป์ คนที่ส่อแวว ว่าจะเป็น Toxic หรือคนใหม่ ที่ไม่รู้นิสัยใจคอเป็นยังไง จะยังไม่โดนเรียกตัวในรอบนี้
ข้อ 2 เติร์กเมนิสถาน ใช้สนามหญ้าเทียม จังหวะเด้ง กระดอนต่างๆ มันจะต่างจากสนามหญ้าจริง ดังนั้น นักเตะที่ถูกเลือก ต้องมีสกิลทักษะดี จับบอลชัวร์มาก ส่งบอลสั้นได้ดี
ข้อ 3 แมตช์กับเติร์กเมนิสถาน แข่งวันที่ 10 มิถุนายน แต่ไทยลีก ปิดฉากไปแล้วตั้งแต่ 30 เมษายน แปลง่ายๆ ว่า นักเตะบางคน จะไม่มีเกมลงแข่งถึงเดือนกว่าๆ ดังนั้นการเลือกตัวของอิชิอิ จำเป็นต้องเอานักเตะจากทีม ที่ยังอยู่ในเส้นทางของบอลถ้วย เพราะการันตีได้ว่า สภาพความฟิตยังมีอยู่
ทีมที่ยังอยู่ในเส้นทางบอลถ้วยก็อย่างเช่น
ลีกคัพ : ราชบุรี, ลำพูน, หนองบัว พิชญ, บุรีรัมย์
เอฟเอคัพ : ราชบุรี, เมืองทอง, บีจี, บุรีรัมย์
หรือในลีกต่างแดน ที่ยังไม่ปิดลีก ทั้งเจลีก และ ลีกอินโดนีเซีย ก็จะถูกดึงมาใช้แน่นอน เพราะพวกเขาจะมีโปรแกรมเตะตามปกติ จนถึงฟีฟ่าเดย์โน่นเลย
การประกาศ 23 คนของอิชิอิ เกิดขึ้นในช่วงบ่ายสองของวันนี้ ผมก็ดู Live ในเพจช้างศึกพร้อมทุกคน ข้อสังเกต เมื่อเห็นตัวผู้เล่นครบแล้ว ก็คือ
- ไทย ไม่มีศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, นิโคลัส มิคเคลสัน, โจนาธาร เข็มดี, ปาตริก กุสตาฟส์สัน และ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ บางคนบาดเจ็บ บางคนมีปัญหาส่วนตัวที่จำเป็นจริงๆ ต้องจัดการ ซึ่งก็น่าเสียดายมาก เพราะทั้ง 5 คนคือคีย์แมนของทีมชาติในยุคอิชิอิ
- ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ไม่ได้มีปัญหาบาดเจ็บ แต่ติดปัญหาเรื่องเอกสาร เขาต้องบินกลับฝรั่งเศสช่วงต้นเดือนมิถุนายน เพื่อไปทำเอกสารที่สำคัญมากๆ ต่อการใช้ชีวิตในไทย เป็นไฟต์บังคับเลี่ยงไม่ได้ เคสนี้ไม่ใช่อิชิอิไม่อยากได้ แต่ธนวัฒน์มีความจำเป็นจริงๆ
- เอราวัณ กานิเยร์ เพิ่งลงตัวจริงให้ลียง ได้รองแชมป์ในรายการพรีเมียร์ลีก อินเตอร์เนชั่นแนลคัพ (แพ้น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์) ร่างกายเขาหายดีแล้ว จริงๆ ผมอยากให้อิชิอิวัดไปเลย เอาเอราวัณ ติดทีมชุดใหญ่ นักเตะที่ได้ซ้อมร่วมกับทีมลียงชุดใหญ่ ไม่ดีพอจะติดทีมชาติไทยอีกหรือ?
แต่ก็อย่างที่บอกไป เกมกับเติร์กเมนิสถานเสี่ยงเกินไปที่จะทดลองผู้เล่นใหม่ถอดด้าม อิชิอิเป็นพวกเพลย์เซฟอยู่แล้ว และยิ่งไม่มีธนวัฒน์ที่พูดฝรั่งเศสได้ เอราวัณก็น่าจะใช้ชีวิตได้ยากมาก เพราะเขาพูดได้แต่ฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษก็พูดได้ไม่แข็ง
- นักเตะที่ถูกเลือกมา เกือบทั้งหมด เป็นกลุ่มผู้เล่นที่มีโปรแกรมบอลถ้วย หรือเป็นตัวลีกต่างชาติ เพราะสภาพร่างกายยังฟิตอยู่ คนจากทีมอื่นๆ ที่สอดแทรกเข้ามาได้ ต้องเป็นคนที่อิชิอิชอบจริงๆ ซึ่งมีด้วยกัน 4 คน คือ ศุภนันท์ บุรีรัตน์, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ จากท่าเรือ และ เบน เดวิส จากอุทัยธานี ซึ่งทั้ง 4 คนนี้ จะไม่ได้เล่นเกมทางการ 1 เดือนเต็ม ดังนั้น ต้องรักษาความฟิตด้วยตัวเอง หวังว่าพวกเขาจะมีวินัยต่อเนื่องจนถึงฟีฟ่าเดย์
สำหรับการประกาศ 23 ขุนพลรอบนี้ ความรู้สึกของผมก็มีชอบ และไม่ชอบปนๆ กัน
-----------------
สิ่งที่ชอบในการประกาศตัว
1) การรีเทิร์นของคคนะ คำยก นี่เป็นนักเตะที่ผมชอบมากๆ ในวัย 20 ปี เขาคือผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดใน Squad ชุดนี้
ฟอร์มกับเมืองทอง คคนะ พัฒนาขึ้นมาก เขาเป็นกองกลางที่สอดมายิงได้ยอดเยี่ยมสุดๆ ในไทยลีกปีนี้ คคนะคือกองกลางคนไทย ที่ยิงได้เยอะสุดในไทยลีกด้วยจำนวน 8 ประตู เขาไม่ติดไม่ได้จริงๆ
คคนะได้ลงทีมชาติแค่นัดเดียวเท่านั้น ในเกมคิงส์คัพ ที่เจอฟิลิปปินส์ ซึ่งน้ำท่วมสนาม วันนั้น เขายังไม่ได้ปล่อยของให้คนไทยเห็นด้วยซ้ำ มาคราวนี้แหละ เขาจะได้โชว์ศักยภาพแน่ๆ
2) การกลับมาของพิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ในเมื่อเราไม่มีวีระเทพ ป้อมพันธุ์ ก็จำเป็นต้องหา DMC ที่เล่นกลางรับได้ดี มาเป็นแกนหลักแทน พิธิวัตต์ ประสบความสำเร็จมากๆ กับบุรีรัมย์ เขาสมควรจะติดทีมแล้ว ไม่มีข้อสงสัยอะไร
3) สามนายทวารรอบนี้ ปฏิวัติ คำไหม, สรานนท์ อนุอินทร์ และ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล เป็นสามคนที่ดีที่สุด ในไทยลีก ดูตามตารางคะแนนเลย
บุรีรัมย์ อันดับ 1 ใช้นีล เอเธอริดจ์ (ฟิลิปปินส์) แต่อันดับ 2 แบงค็อก คือ ปฏิวัติ, อันดับ 3 บีจี คือ สรานนท์ และ อันดับ 4 ราชบุรี คือ กัมพล เกมสำคัญแบบนี้ เอานายทวารไทยจากทีมท็อปมาติดพร้อมกัน ถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว
4) ชอบที่เอาตัวลีกต่างชาติกลับมาหมดเลย จริงอยู่ว่า เจริญศักดิ์ก่อนจะเจ็บ เขาลงในเกมลูวานคัพ และยิง 1 แอสซิสต์ 1 ถ้าได้เล่นจริงๆ ฟอร์มก็พอได้อยู่ ส่วนเอกนิษฐ์ เริ่มได้ลงตัวจริงให้เอฮิเมะ เอฟซีแล้ว
ในสถานการณ์ที่ศุภณัฏฐ์ เจ็บ เราไม่มีตัวที่ไว้ใจให้ยืนปีกขวาได้ ดังนั้น ไม่เจริญศักดิ์ ก็ต้องเป็นเอกนิษฐ์นี่แหละ เป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลแล้ว
เจริญศักดิ์เจ็บ 1 เดือนใช่ ถ้าฟีฟ่าเดย์เตะวีกหน้า โค้ชคงไม่เรียก แต่อันนี้อีก 1 เดือนกว่าจะเตะ ยังมีเวลามากเกินพอที่จะพักฟื้นให้หายดี
ส่วนเคสของสุภโชค กับ เอเลียส ทั้งคู่เป็นคนสำคัญของอิชิอิ ยังไงก็ต้องเรียกเสมออยู่แล้ว ไม่มีประเด็นอะไร
-----------------
สิ่งที่ไม่ชอบในการประกาศตัว
1) มาร์โค บัลลินี่ มายังไง?
บัลลินี่ สูง 200 ซม. เขาคือนักเตะที่สูงที่สุดของนักเตะที่ถูกเรียกมา แต่ฟอร์มกับบีจี คือไม่ได้ดีเลย เกมที่ลงตัวจริงนัดล่าสุด โดนสุโขทัยยิง 4 ลูก
เหตุผลหลักที่ติด คือเขาอยู่บีจี จึงมีความฟิตมากพอ เพราะยังซ้อมอยู่ และนักเตะส่วนใหญ่ของทีมชาติมาจากบีจี (5 คน) ดังนั้นไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัว
แต่เอาจริงๆ ผมไม่คิดว่าเป็นชอยส์ที่ดีนัก ฤดูกาลนี้บัลลินี่ ลงตัวจริงในไทยลีก 14 นัด ไม่ถึงครึ่งของเกมทั้งหมดด้วยซ้ำ บางทีอิชิอิอาจเอามาเป็นตัวหลอก ส่งลงในเกมเจออินเดีย แล้วในเกมเจอเติร์กเมนิสถาน ก็ใช้คู่อื่นแทน
2) ธีราทร บุญมาทัน น่าจะได้รับโอกาส
ธีราทรหายเจ็บกลับมาแล้ว สองเกมหลังสุด เขาลงตัวจริง (ไทยลีก ชนะหนองบัว 7-0 และ ช็อปปี้คัพ เสมอบีจี 0-0) ในเกมสำคัญแบบนี้ ประสบการณ์ และเซนส์ของธีราทร น่าจะช่วยทีมได้เยอะมากๆ
แบ็กซ้ายของไทยมีสองคน คือ ศศลักษณ์ ซึ่งเล่นเกมรับไม่ดี กับ อิรฟาน ซึ่งก็ไม่ใช่แบ็กซ้ายธรรมชาติ ไม่เข้าใจว่าอิชิอิจะจับเอาอิรฟานเป็นตัวหลักไปเลยหรือยังไงในตำแหน่งนี้
เข้าใจว่าอิชิอิอยากสร้างทีมใหม่ และธีราทรก็ 35 ปีแล้ว แต่ในเกมสำคัญขนาดนี้ แบบที่แพ้ไม่ได้ ผมว่าก็ไม่แย่ถ้าจะเรียกอุ้มกลับมาช่วยก่อน ซึ่งเขาก็คงพร้อมรับใช้ชาติอยู่แล้ว
เคยได้ยินสำนวน ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็แก่พอไหมครับ แต่ในทางตรงข้าม ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็เด็กพอ ได้เหมือนกัน
การสร้างทีมใหม่ ไม่จำเป็นต้องมองข้ามตัวเก๋าทุกคน อย่างสารัช ธีรศิลป์ อันนี้ผมคิดว่าไม่เรียกก็เข้าใจได้ แต่เคสธีราทร ผมว่าไม่เหมือนกัน
คิดถึงอนาคตมันก็ดี แต่ก็ไม่น่าจะมองข้ามปัจจุบันนะ
3) อิชิอิ หวาดกลัวเกินไป
อิชิอิ ไม่กล้าใช้ผู้เล่นตัวใหม่ๆ แม้นักเตะคนนั้นจะเล่นดีแค่ไหนก็ตาม ถ้าใครจำกันได้ โจนาธาร เข็มดี ได้นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของไทยลีก เป็นกองหลังที่ฟอร์มดีสุด ณ เวลานั้น แต่อิชิอิ ก็ไม่เอาตัวไปบอลโลกรอบคัดเลือกด้วย แล้วเขาก็มาเสียใจทีหลัง ว่าน่าจะเรียกมานานแล้ว
มีนักเตะหลายคนที่ฟอร์มดีมาก แต่เขาไม่เคยใช้งาน และไม่อยู่ในเรดาร์ของเขา เขาก็พร้อมมองข้ามทันที เช่น กฤษณนน ศรีสุวรรณ หรือ จักรพันธ์ แก้วพรหม ที่ทำผลงานร่วมกับธนวัฒน์ ได้สุดยอดมากๆ ในครึ่งซีซั่นหลังของไทยลีก จนพาราชบุรี เข้ารอบรองสองถ้วย บวกกับอันดับ 4 ไทยลีก แถมยังโค่นบุรีรัมย์ลงได้ แต่ก็ไม่ถูกพิจารณา
ผมเข้าใจว่า อิชิอินั้น เป็นพวกเพลย์เซฟมากๆ ใช้แต่ตัวที่คุ้นชิน แต่บางที ก็น่าจะดูฟอร์มกันบ้าง คนไหนเล่นดีมากๆ ในไทยลีก ก็น่าจะเรียกมา ไม่ใช่หรือ จะได้เอาผลงานดีๆ ในลีก มาระเบิดฟอร์มกับทีมชาติด้วย
-----------------
ท้ายที่สุดแล้ว ในเรื่องการเรียกตัวนั้น เฮดโค้ช คือคนที่ถืออำนาจสิทธิ์ขาด ไม่มีใครไปก้าวก่ายได้ ถ้าเขาคิดว่า 23 คนนี้ดีที่สุด ก็ต้องตามนั้น
แฟนบอลไทย ได้แต่ต้องลุ้น ว่าพวกเขาจะเล่นดี และพาทีมไทยชนะได้ ในเกมที่สำคัญสุดๆ กับเติร์กเมนิสถาน วันที่ 10 มิถุนายนนี้
ตัวอิชิอินั้น ในการคุมทีมชาติมาปีกว่าๆ มีเกมที่ผลการแข่งขันไม่เป็นใจบ้าง แต่แฟนบอลก็ซัพพอร์ทเขาเสมอ
ตกรอบฟุตบอลโลก - แฟนบอลไทยไม่ว่า เพราะเขาต้องมาแก้ปัญหาที่มาโน่สร้างไว้
อุ่นเครื่องเสมอลาว - แฟนบอลไทยไม่ว่า เพราะต้องให้โอกาสเขาทดลองนักเตะหน้าใหม่บ้าง
พลาดแชมป์ AFF - แฟนบอลไทยไม่ว่า เพราะมันไม่ใช่เกมฟีฟ่าเดย์ แถมโปรแกรมของ AFF ก็เยอะผิดมนุษย์มนา
ชนะศรีลังกา 1-0 - แฟนบอลไทยอาจตั้งคำถาม แต่สุดท้ายก็ปล่อยผ่าน เพราะชนะก็คือชนะ ในกฎ Head to Head พอจะกล้อมแกล่มได้ว่า ไม่ต้องยิงเยอะขนาดนั้น
ที่ผ่านมา ผมว่าแฟนบอลไทยยังปกป้องเขาเยอะมาก แต่กับเติร์กเมนิสถานนัดนี้ ไม่ได้เลย ถ้าหากแพ้ อิชิอิจะไม่ได้รับการปกป้องอะไรอีกแล้ว
ถ้าเลือกตัวแบบนี้ แล้วทำทีมชนะ อิชิอิจะได้รับดอกไม้แน่นอน คุณอ่านขาด เลือกตัวแม่นยำ ขัดใจบางคน แต่ยังชนะได้
แต่ถ้าแพ้ จะเจอความกดดันจะถาโถมอย่างรุนแรงมากที่สุด ที่เขาเคยโดนเลยทีเดียว
ท้ายที่สุด เราคนดูบอลก็ไม่ใช่โค้ช คนที่อยู่หน้างาน และสัมผัสนักเตะด้วยตัวเอง อาจจะมองเห็นอะไรบางอย่าง และมีเหตุผลรองรับอยู่แล้ว
ดังนั้นแฟนบอลได้แต่ต้องเชื่อมั่นและศรัทธาครับ ยังไงพวกเราทุกคนก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือเชียร์ไทยให้คว้าสามแต้มให้ได้
หวังว่า 23 ขุนพลช้างศึก จะปิดจ๊อบเติร์กเมนิสถานได้สำเร็จนะครับ เจอทีมอันดับ 142 ของโลก อย่าพลาดเลยนะ ขอร้อง