1. บริบททางเศรษฐกิจ: วิกฤตต้มยำกุ้ง 2540
ความเสียหายโดยตรง:
การลดค่าเงินบาทในเดือนกรกฎาคม 2540 ส่งผลให้ทุนสำรองระหว่างประเทศหายไปกว่า 700,000 ล้านบาท เพื่อปกป้องค่าเงิน
ผลกระทบเชิงโครงสร้าง:
หนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้น
GDP ติดลบ -10.5% (ปี 2541)
คนว่างงานเกิน 2 ล้านคน
รัฐต้องเข้าช่วยเหลือสถาบันการเงินจำนวนมาก
รวมความเสียหาย:
900,000 ล้านบาท (รวมความเสียหายตรง + การกู้ IMF + ค่าเงินสำรองที่หายไป)
2. แนวทางทางเลือก: โครงการคลอง 200,000 กิโลเมตร
งบประมาณโดยประมาณ: 200,000 กม. × 1 ล้านบาท = 200,000 ล้านบาท
ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ:
สร้างงาน > 1 ล้านตำแหน่ง
เพิ่มระบบโลจิสติกส์ทางน้ำทั่วประเทศ ลดต้นทุนขนส่ง
แก้ปัญหาน้ำท่วม/น้ำแล้ง ด้วยระบบควบคุมน้ำที่เชื่อมโยง
เพิ่มผลผลิตเกษตรและอุตสาหกรรมท้องถิ่น
4. Sukavichinomics: หลักคิดจากโครงสร้างสู่ความยั่งยืน
Sukavichinomics เสนอว่า “ทุกวิกฤต ควรตอบด้วยโครงสร้าง”
ถ้านำเงิน 9 แสนล้านที่เสียไป มาลงทุนในคลอง:
ประเทศจะมีกระดูกสันหลังใหม่ทางเศรษฐกิจ
โครงสร้างน้ำ ระบบขนส่ง และท้องถิ่นจะเข้มแข็งขึ้น
รายได้กระจายสู่ภูมิภาค ลดความเหลื่อมล้ำอย่างแท้จริง
5. ข้อเสนอเชิงนโยบาย
ทบทวนแนวทางตอบสนองวิกฤตในอนาคต:
เลิก “พึ่งการเงิน” → หันสู่ “การลงทุนจริง”
จัดตั้ง “กองทุนโครงสร้างน้ำแห่งชาติ” รองรับภัยแล้ง/น้ำท่วมในระยะยาว
บูรณาการคลองกับรางและถนน เป็นระบบโลจิสติกส์ 3 มิติ
บทสรุป
หากประเทศไทยเลือกลงทุนในโครงสร้างน้ำระดับชาติแทนการลดค่าเงินบาทในปี 2540 ไม่เพียงแต่จะหลีกเลี่ยงความเสียหาย 900,000 ล้านบาท แต่ยังสามารถสร้างระบบเศรษฐกิจแบบมีรากฐานที่ยั่งยืน กระจายรายได้ และพึ่งตนเองได้ในระยะยาว
3. วิเคราะห์เชิงเศรษฐมิติ (Econometric Impact)
4. Sukavichinomics: หลักคิดจากโครงสร้างสู่ความยั่งยืน
Sukavichinomics เสนอว่า “ทุกวิกฤต ควรตอบด้วยโครงสร้าง”
ถ้านำเงิน 9 แสนล้านที่เสียไป มาลงทุนในคลอง:
ประเทศจะมีกระดูกสันหลังใหม่ทางเศรษฐกิจ
โครงสร้างน้ำ ระบบขนส่ง และท้องถิ่นจะเข้มแข็งขึ้น
รายได้กระจายสู่ภูมิภาค ลดความเหลื่อมล้ำอย่างแท้จริง
5. ข้อเสนอเชิงนโยบาย
ทบทวนแนวทางตอบสนองวิกฤตในอนาคต:
เลิก “พึ่งการเงิน” → หันสู่ “การลงทุนจริง”
จัดตั้ง “กองทุนโครงสร้างน้ำแห่งชาติ” รองรับภัยแล้ง/น้ำท่วมในระยะยาว
บูรณาการคลองกับรางและถนน เป็นระบบโลจิสติกส์ 3 มิติ
บทสรุป
หากประเทศไทยเลือกลงทุนในโครงสร้างน้ำระดับชาติแทนการลดค่าเงินบาทในปี 2540 ไม่เพียงแต่จะหลีกเลี่ยงความเสียหาย 900,000 ล้านบาท แต่ยังสามารถสร้างระบบเศรษฐกิจแบบมีรากฐานที่ยั่งยืน กระจายรายได้ และพึ่งตนเองได้ในระยะยาว
“9 แสนล้านที่หายไป: วิกฤตต้มยำกุ้ง vs. คลอง 200,000 กิโลเมตร – ทางเลือกแห่งโอกาสที่สูญหาย” ?
ความเสียหายโดยตรง:
การลดค่าเงินบาทในเดือนกรกฎาคม 2540 ส่งผลให้ทุนสำรองระหว่างประเทศหายไปกว่า 700,000 ล้านบาท เพื่อปกป้องค่าเงิน
ผลกระทบเชิงโครงสร้าง:
หนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้น
GDP ติดลบ -10.5% (ปี 2541)
คนว่างงานเกิน 2 ล้านคน
รัฐต้องเข้าช่วยเหลือสถาบันการเงินจำนวนมาก
รวมความเสียหาย:
900,000 ล้านบาท (รวมความเสียหายตรง + การกู้ IMF + ค่าเงินสำรองที่หายไป)
2. แนวทางทางเลือก: โครงการคลอง 200,000 กิโลเมตร
งบประมาณโดยประมาณ: 200,000 กม. × 1 ล้านบาท = 200,000 ล้านบาท
ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ:
สร้างงาน > 1 ล้านตำแหน่ง
เพิ่มระบบโลจิสติกส์ทางน้ำทั่วประเทศ ลดต้นทุนขนส่ง
แก้ปัญหาน้ำท่วม/น้ำแล้ง ด้วยระบบควบคุมน้ำที่เชื่อมโยง
เพิ่มผลผลิตเกษตรและอุตสาหกรรมท้องถิ่น
4. Sukavichinomics: หลักคิดจากโครงสร้างสู่ความยั่งยืน
Sukavichinomics เสนอว่า “ทุกวิกฤต ควรตอบด้วยโครงสร้าง”
ถ้านำเงิน 9 แสนล้านที่เสียไป มาลงทุนในคลอง:
ประเทศจะมีกระดูกสันหลังใหม่ทางเศรษฐกิจ
โครงสร้างน้ำ ระบบขนส่ง และท้องถิ่นจะเข้มแข็งขึ้น
รายได้กระจายสู่ภูมิภาค ลดความเหลื่อมล้ำอย่างแท้จริง
5. ข้อเสนอเชิงนโยบาย
ทบทวนแนวทางตอบสนองวิกฤตในอนาคต:
เลิก “พึ่งการเงิน” → หันสู่ “การลงทุนจริง”
จัดตั้ง “กองทุนโครงสร้างน้ำแห่งชาติ” รองรับภัยแล้ง/น้ำท่วมในระยะยาว
บูรณาการคลองกับรางและถนน เป็นระบบโลจิสติกส์ 3 มิติ
บทสรุป
หากประเทศไทยเลือกลงทุนในโครงสร้างน้ำระดับชาติแทนการลดค่าเงินบาทในปี 2540 ไม่เพียงแต่จะหลีกเลี่ยงความเสียหาย 900,000 ล้านบาท แต่ยังสามารถสร้างระบบเศรษฐกิจแบบมีรากฐานที่ยั่งยืน กระจายรายได้ และพึ่งตนเองได้ในระยะยาว
3. วิเคราะห์เชิงเศรษฐมิติ (Econometric Impact)
4. Sukavichinomics: หลักคิดจากโครงสร้างสู่ความยั่งยืน
Sukavichinomics เสนอว่า “ทุกวิกฤต ควรตอบด้วยโครงสร้าง”
ถ้านำเงิน 9 แสนล้านที่เสียไป มาลงทุนในคลอง:
ประเทศจะมีกระดูกสันหลังใหม่ทางเศรษฐกิจ
โครงสร้างน้ำ ระบบขนส่ง และท้องถิ่นจะเข้มแข็งขึ้น
รายได้กระจายสู่ภูมิภาค ลดความเหลื่อมล้ำอย่างแท้จริง
5. ข้อเสนอเชิงนโยบาย
ทบทวนแนวทางตอบสนองวิกฤตในอนาคต:
เลิก “พึ่งการเงิน” → หันสู่ “การลงทุนจริง”
จัดตั้ง “กองทุนโครงสร้างน้ำแห่งชาติ” รองรับภัยแล้ง/น้ำท่วมในระยะยาว
บูรณาการคลองกับรางและถนน เป็นระบบโลจิสติกส์ 3 มิติ
บทสรุป
หากประเทศไทยเลือกลงทุนในโครงสร้างน้ำระดับชาติแทนการลดค่าเงินบาทในปี 2540 ไม่เพียงแต่จะหลีกเลี่ยงความเสียหาย 900,000 ล้านบาท แต่ยังสามารถสร้างระบบเศรษฐกิจแบบมีรากฐานที่ยั่งยืน กระจายรายได้ และพึ่งตนเองได้ในระยะยาว