เพิ่งรู้ว่าใกล้คอนโดเรานั้นมีภัตตาคารเก่าแก่จัดเสิร์ฟอาหารป่าโบราณตำรับจังหวัดกาญจนบุรีดั้งเดิมเน้นรสชาติเข้มข้นจัดจ้านบรรยากาศเหมือนกำลังนั่งอยู่บ้านสวนต่างจังหวัดล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่สุดร่มรื่นนั่นก็คือร้าน "ครัวกาญจน์" ปัจจุบันเขาเปิดให้บริการยาวนานถึง 13 ปีเลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบพื้นบ้านส่งตรงโดยเหล่าเกษตรกรประจำท้องถิ่นเพื่อช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนซึ่งบางวันอาจมีของหารับประทานยากก็จะโพสต์เชิญชวนให้ผู้สนใจให้แวะลิ้มลองบนเพจหลัก โดยได้รับคำวิจารณ์,บทความรีวิวจากลูกค้าทุกเว็บไซต์จำนวนเกือบ 500 ท่านยอดคะแนนเฉลี่ยสูงถึง 4.3 เต็ม 5 ดาวจึงบ่งบอกถึงความอร่อยเด็ดไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน วิธีการเดินทางถ้าหากเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวกดปักหมุดขับค่อยตามระบบแผนที่บนสมาร์ตโฟนของคุณจะพบกับลานปูนคอนกรีตขนาดกว้างขวางใหญ่โตด้านหน้าสามารถรองรับได้เยอะกว่า 30 คัน สำหรับผู้โดยสารบริการขนส่งสาธารณะแนะนำรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายปลายทางหลักสองลง ณ สถานีบางแคบันไดออก 4 ฝั่งตลาดสดค่อยโบกมือเรียกแท็กซี่,ซ้อนท้ายพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างใกล้เคียงกันริมถนนเพชรเกษมเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นบางแคอีกประมาณ 450 เมตร จุดสังเกตขวามือมองเห็นศาลาเรือนไทยหลังคาสามเหลี่ยมทรงจั่วสีเขียวโดดเด่นชัดเจนตั้งแต่ระยะไกลแบบนี้แสดงว่าถึงแล้วครับผม

บรรยากาศและการตกแต่งภายในร้าน "ครัวกาญจน์" แม้จะตั้งอยู่บางแคซึ่งเป็นพื้นที่ค่อนข้างวุ่นวายเนื่องจากมีประชากรอาศัยหนาแน่นอันดับ 3 จากจำนวนทั้งหมด 50 เขตทั่วกรุงเทพฯแต่ให้ความรู้สึกเหมือนย้ายร่างกายตัวเองมาอยู่บ้านสวนต่างจังหวัดแสนเงียบสงบล้อมรอบด้วยแมกไม้สูงใหญ่สุดร่มรื่น น้องพนักงานเตรียมตัวต้อนรับลูกค้าบริเวณศาลาสีเขียวไร้หน้าต่างเปิดโล่งรอบทิศทางพร้อมติดพัดลมผนังช่วยระบายอากาศปลอดโปร่งโล่งสบายแต่ถ้าเพื่อนสมาชิกร่วมโต๊ะอยากหนีฤดูร้อนอบอ้าวเขามีห้องปาร์ตี้ส่วนตัวไซส์เล็กประมาณ 10 ท่านแนะนำโทรสำรองล่วงหน้าก่อนเข้าใช้บริการกับโถงแอร์ขนาดใหญ่เย็นชุ่มฉ่ำปอดใช้งานฟรีเฉพาะ 120 นาทีแรกนั่งเพลินเกินเวลาที่กำหนดเอาไว้ขออนุญาตคิดเงินชั่วโมงละ 50 บาทต่อบิลเพราะฉะนั้นต้องพาเพื่อนฝูงครอบครัวแวะฉลองกันจำนวนเยอะยิ่งคุ้มกว่า เหล่าเฟอร์นิเจอร์ต่างๆเน้นวัสดุทำจากไม้แท้ทาน้ำยาเคลือบเงาแวววาวสวยงามอาจเสริมโครงเหล็กบางส่วนเพื่อสร้างความแข็งแรงสามารถทนทานแสงแดดสายฝนกระหน่ำรุนแรงของประเทศไทยเน้นดีไซน์วิถีพื้นบ้านธรรมดาทั่วไปช่วยสะท้อนตัวตนดั้งเดิมฉบับภัตตาคารอาหารป่าตัวจริง บางวันเขาก็จ้างนักร้อง,ศิลปินชื่อเสียงโด่งดังมาสลับเปลี่ยนมาขึ้นเวทีแสดงดนตรีสดให้ได้ชมกันตรงมุม Outdoor ช่วงเวลาค่ำต้องคอยชมโพสต์ประกาศบนเพจครับผม

เล่มเมนูอาหารของทางร้าน "ครัวกาญจน์" เป็นแผ่นกระดาษเคลือบพลาสติกแข็งพิมพ์ด้านหน้า-หลังฉบับสีสันสดใสแต่ปรับเปลี่ยนทุกปีพร้อมประกาศวันหยุดของแต่ละเดือนเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อย โดยจัดแยกอาหารออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆให้เราสามารถออเดอร์ตรงกับน้องพนักงานได้ทันทีทั้ง "แกงป่า" 150-330 / "ผัดเผ็ด" 150-220 / "ฉู่ฉี่" 160-330 / "ผัดฉ่า" 160-330 / "ต้มยำน้ำใส,ข้น" (ถ้วย-หม้อไฟ) 150-350 / "แกงจืด" 80 / "พล่าปลาช่อน" 400 / "ไข่เจียวใส่หมู-กุ้งสับ" 70-85 / "ปลารากกล้วยทอด" 130 / "หมู-เนื้อทอดแดดเดียว" 150-170 / "ทอดมันปลากราย" 160 / "ปีกกลางไก่ทอดน้ำปลา" 160 / "ตัวกบทอดกระเทียม" 200 / "เก้งทอดแดดเดียว" 220 / "ยำวุ้นเส้น,ไข่ดาว,ทะเล,กบ" 100-200 / "หมูมะนาว,กุ้งแช่น้ำปลา" 150-160 / "ทับทิม,คัง,เนื้ออ่อน,กะพง,ปูนิ่มทอดกระเทียม,ราดซอสน้ำปลา,สามรส" 300-350 / "ลูกชิ้นปลากราย,ปลาคัง,ปลาบึกลวกจิ้ม" 180-300 / "ปลาทับทิม,กะพงนึ่งซีอิ๊วหรือมะนาว" 330-400 / "ผัดเปรี้ยวหวาน" 150-160 / "ผักรวม,บล็อกโคลี่,คะน้า,แขนง,ผักบุ้ง,มะเขือยาว,กะหล่ำปลีน้ำปลา 100-140 / "ผัดพริกเผา,พริกไทยดำ 150-350 / อาหารตามสั่ง 60-70 บาท นอกจากนั้นก็คือเครื่องดื่ม,ขนมหวาน,ไอศครีมไปจนถึงแอลกอฮอล์แช่เย็นสดชื่นถึงใจครับผม

รายการแรกขอเริ่มต้นกันด้วยเมนูทานเล่นช่วยเรียกน้ำย่อยตัวแทนแห่งแม่น้ำแควส่งตรงจากชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดกาญจนบุรีสดใหม่ทุกวันได้แก่ "ปลาคังลวกจิ้ม" ราคา 300 บาท ปลากดคังธรรมชาติคัดเฉพาะไซส์ใหญ่เบิ้มแล่เอาแต่เนื้อล้วนสีขาวสะอาดสัมผัสเนียนละเอียดจุดเด่นอยู่ตรงหนังไร้เกล็ดอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งส่งผลดีต่อระบบประสาทและสมอง ตั้งน้ำเดือดจัดๆค่อยนำลงไปลวกพร้อมเกลือ,สมุนไพรเพื่อดับกลิ่นคาววางเรียงบนผักขึ้นฉ่ายสีเขียวสวยงามโรยกระเทียมไทยกลีบเล็กจิ๋วเจียวเหลืองกรอบให้ปริมาณเยอะเกินคุ้มรับประทานคู่น้ำจิ้มซีฟู้ดพริกขี้หนูเผ็ดร้อนเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดหอมกลิ่นมะนาวแท้เพื่อตัดเลี่ยนชวนฟินได้อีกไม่รู้สึกเบื่อ / "ทอดมันปลากราย" ราคา 160 บาท เนื้อปลากรายขูดละเอียดคลุกเคล้าเครื่องพริกแกงเผ็ดทำเองสืบทอดสูตรกันภายในตระกูลของทางร้าน "ครัวกาญจน์" เพิ่มไข่ไก่กับใบมะกรูดซอยไร้ถั่วฝักยาวสวมถุงมือนวดบนภาชนะสแตนเลสหล่อน้ำแข็งเวลานานจนเหนียวหนึบตั้งยอดบรรจงทาน้ำมันปั้นก้อนรูปทรงกลมแบนความหนาประมาณ 0.5 เซนติเมตรทอดลงน้ำมันท่วมควบคุมไฟอุณหภูมิปานกลางประมาณ 180 องศาเซลเซียส กินคู่ซอสลักษณะคล้ายอาจาดเวียดนามเปรี้ยวอมหวานผสมพริกแห้งลอยแตงกวาหั่นชิ้นลูกเต๋า,ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ,ผักชีซอยผิวนอกเกรียมสุกชุ่มฉ่ำเด้งสู้ฟันต้องลองครับ

นอกจากวัตถุดิบพื้นฐานทั่วไปแล้วทางร้าน "ครัวกาญจน์" บางแคแห่งนี้ยังเพิ่มของเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเฉพาะหารับประทานยากบ่งบอกถึงการเป็นภัตตาคารอาหารป่าสูตรโบราณดั้งเดิมเช่นไก่บ้าน,กบ,เก้งไปจนถึงหมูป่าโดยวันนี้เราตั้งใจออเดอร์มาลองชิมนั่นก็คือ "ผัดเผ็ดหมูป่า" ราคา 180 บาท ส่งตรงจากเหล่าเกษตรกรลงทะเบียนก่อนเปิดฟาร์มเพาะเลี้ยงควบคุมตามกฎเกณฑ์ของกรมปศุสัตว์มีจุดเด่นอยู่ตรงเนื้อแน่นหนังหนาพิเศษสีน้ำตาลเข้มสัมผัสเด้งกรุบกรอบสู้ฟันคลุกเคล้าพริกแกงฉบับโฮมเมดตำเองสดใหม่ทุกวันพร้อมเหล่าสมุนไพรไทยกลิ่นรุนแรงเพื่อกลบสาบคาวเฉพาะตัวทั้งพวงพริกไทยอ่อน,กระชายซอย,ใบมะกรูดฉีก,ยอดกะเพราแบบขลุกขลิกเหมาะสำหรับราดข้าวสวยโรยน้ำปลาพริกเล็กน้อยรับรองว่าอร่อยเผ็ดร้อนแซ่บถึงใจแน่นอน / "เก้งผัดพริกไทยดำ" ราคา 280 บาท สัตว์ชนิดหนึ่งลักษณะภายนอกคล้ายกวางแต่ตัวเล็กเขาสั้นกว่าแถมมีเขี้ยวแหลมคมตรงมุมปากเอาไว้ใช้ป้องกันตัวอนุญาตให้เพาะพันธุ์เพื่อจำหน่ายปกติตามซูเปอร์มาร์เก็ตธรรมดา (ยกเว้นเก้งหม้อเท่านั้น) กล้ามเนื้อแข็งแรงแลดูคล้ายก้อนสันในวัวปริมาณโปรตีนสูงไร้ไขมันหลับตาเคี้ยวนุ่มประดุจสันนอกหมูหั่นชิ้นใหญ่ผัดซอสพริกไทยดำใส่หอมหัวใหญ่,พริกหยวกระฆังสามสีและต้นหอมเค็มหวานกลมกล่อมวางเสิร์ฟบนกระทะเหล็กเผาไฟร้อนฉ่าชวนยั่วน้ำลายมากครับผม

เมื่อนึกถึงจังหวัดกาญจนบุรีนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำแควชื่อเสียงโด่งดังแล้วยังมีอีกหนึ่งเมนูซึ่งทุกคนต้องออเดอร์เรียกหาก่อนอันดับแรกนั่นก็คือ "แกงป่าลูกชิ้นปลากราย" ราคา 160 บาท เริ่มต้นด้วยเครื่องพริกแกงทำเองสดใหม่ทุกวันเผ็ดแสบร้อนควันแทบออกหูประกอบไปด้วยข่า,ตะไคร้,ผิวมะกรูด,พริกแห้ง,พริกขี้หนูสวน,พริกไทยขาว,กระเทียม,กะปิอย่างดีเกลือสมุทรเล็กน้อยตามอัตราส่วนลับเฉพาะโขลกละลายน้ำสต๊อกกระดูกหมูกรองใสสะอาด ปั้นเนื้อปลากรายขูดบดละเอียดก้อนรูปทรงกลมกดแบนลักษณะคล้ายลูกชิ้นขนาดใหญ่เต็มคำสัมผัสเหนียวหนึบเคี้ยวสู้ฟันเพิ่มมะเขือพวง,มะเขือเปราะ,ยอดกะเพรา,ใบมะกรูดฉีกปรุงรสชาติเค็มนำไม่ติดหวานกลมกล่อมของแท้ต้นฉบับมาเองแน่นอน / "ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน" ราคา 330 บาท เมื่อวันก่อนเราเห็นทางร้านลงโพสต์บนเพจไซส์ใหญ่เกือบเท่าแขนแต่จะให้เหมาะสมกับรายการนี้ต้องลดขนาดลงหน่อยโดยตัดหัวควักลำไส้ทิ้งชุบแป้งสาลีอเนกประสงค์เบาบางก่อนทอดช่วยรักษารูปทรง ตั้งกระทะผัดพริกแกงเผ็ดกับกะทิจนแตกมันปรุงน้ำปลา-น้ำตาลปีบหวานนำเค็มโรยใบมะกรูดซอย,โหระพาส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจเข้มข้นฟินคลุกข้าวสวยเปลืองหน่อย ส่วนเนื้อถือว่าแน่นกระชับแม้ก้างเยอะค่อนข้างถี่หน่อยแต่เลาะรวดเดียวรับประทานง่ายกว่าไซส์เล็กเหมือนที่จัดเสิร์ฟตามภัตตาคารแห่งอื่นๆครับ

สัตว์ชนิดหนึ่งตัวแทนแห่งแม่น้ำโขงรสชาติอร่อยจนได้รับความนิยมมากแทบสูญพันธุ์แต่ก็ได้รับการอนุรักษ์เพาะเลี้ยงจนกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจก่อนนำมาทำเป็นเมนูอาหารป่าอย่าง "ผัดฉ่าปลาบึก" ราคา 200 บาท รูปที่พวกเราเคยเห็นผู้คนแชร์กันตามอินเทอร์เน็ตนั้นจับจากธรรมชาติอายุยาวนานจึงใหญ่พิเศษประมาณ 100 กิโลกรัมขึ้นไปแต่ทางร้าน "ครัวกาญจน์" เลือกใช้เกรดเลี้ยงบ่อดิบขนาดรองลงมาหน่อยข้อดีนั่นก็คือเนื้อสัมผัสแน่นกระชับปริมาณไขมันแทรกกำลังพอดีไม่เลี่ยนเหม็นกลิ่นโคลน บรรจงแล่แบบไร้กังวลเรื่องก้างลวกเพื่อล้างสาบคาวผัดเครื่องสมุนไพรเน้นรวดเร็วเบามือทั้งกระชายซอยเส้น,ใบโหระพา,ยอดกะเพรา,ใบมะกรูดฉีก,พริกขี้หนูและพวกพริกไทยอ่อนน้ำซอสขลุกขลิกเค็มปนหวานกลมกล่อมเผ็ดร้อนคลุกข้าวสวยเปลืองแทบเหมาหมดหม้อสะใจ / "ยำทะเลแซ่บเวอร์" ราคา 160 บาท คัดวัตถุดิบฝั่งอ่าวไทยคุณภาพระดับพรีเมียมได้แก่กุ้งขาวดึงหัวแกะเปลือกกลางลำตัวเหลือปลายหางจับถือรับประทานสะดวกดึงเส้นสีดำกลางหลังทิ้งกับหมึกกล้วยล้างสะอาดดึงแกนกลางคล้ายพลาสติกออกหั่นชิ้นยักษ์ใหญ่โตชวนเคี้ยวแน่นเต็มคำ ลวกพอสุกก่อนเคล้าน้ำยำสูตรโบราณสีสันแลดูจืดชืดแต่ลองชิมแล้วเปรี้ยวมะนาวครบถ้วนสามรสเพิ่มหัวหอมใหญ่,มะเขือเทศ,ขึ้นฉ่ายเหมาะสำหรับฟินแนวกับแกล้มคู่แอลกอฮอล์จี๊ดจ๊าดเกินคาดครับผม
******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
[CR] รีวิว "ร้านครัวกาญจน์" (บางแค) ต้นตำรับแกงป่าและอาหารไทยใช้เฉพาะวัตถุดิบชั้นดีรสชาติจัดจ้านถึงใจราคาเริ่มต้นเพียง 60 บาท
บรรยากาศและการตกแต่งภายในร้าน "ครัวกาญจน์" แม้จะตั้งอยู่บางแคซึ่งเป็นพื้นที่ค่อนข้างวุ่นวายเนื่องจากมีประชากรอาศัยหนาแน่นอันดับ 3 จากจำนวนทั้งหมด 50 เขตทั่วกรุงเทพฯแต่ให้ความรู้สึกเหมือนย้ายร่างกายตัวเองมาอยู่บ้านสวนต่างจังหวัดแสนเงียบสงบล้อมรอบด้วยแมกไม้สูงใหญ่สุดร่มรื่น น้องพนักงานเตรียมตัวต้อนรับลูกค้าบริเวณศาลาสีเขียวไร้หน้าต่างเปิดโล่งรอบทิศทางพร้อมติดพัดลมผนังช่วยระบายอากาศปลอดโปร่งโล่งสบายแต่ถ้าเพื่อนสมาชิกร่วมโต๊ะอยากหนีฤดูร้อนอบอ้าวเขามีห้องปาร์ตี้ส่วนตัวไซส์เล็กประมาณ 10 ท่านแนะนำโทรสำรองล่วงหน้าก่อนเข้าใช้บริการกับโถงแอร์ขนาดใหญ่เย็นชุ่มฉ่ำปอดใช้งานฟรีเฉพาะ 120 นาทีแรกนั่งเพลินเกินเวลาที่กำหนดเอาไว้ขออนุญาตคิดเงินชั่วโมงละ 50 บาทต่อบิลเพราะฉะนั้นต้องพาเพื่อนฝูงครอบครัวแวะฉลองกันจำนวนเยอะยิ่งคุ้มกว่า เหล่าเฟอร์นิเจอร์ต่างๆเน้นวัสดุทำจากไม้แท้ทาน้ำยาเคลือบเงาแวววาวสวยงามอาจเสริมโครงเหล็กบางส่วนเพื่อสร้างความแข็งแรงสามารถทนทานแสงแดดสายฝนกระหน่ำรุนแรงของประเทศไทยเน้นดีไซน์วิถีพื้นบ้านธรรมดาทั่วไปช่วยสะท้อนตัวตนดั้งเดิมฉบับภัตตาคารอาหารป่าตัวจริง บางวันเขาก็จ้างนักร้อง,ศิลปินชื่อเสียงโด่งดังมาสลับเปลี่ยนมาขึ้นเวทีแสดงดนตรีสดให้ได้ชมกันตรงมุม Outdoor ช่วงเวลาค่ำต้องคอยชมโพสต์ประกาศบนเพจครับผม
เล่มเมนูอาหารของทางร้าน "ครัวกาญจน์" เป็นแผ่นกระดาษเคลือบพลาสติกแข็งพิมพ์ด้านหน้า-หลังฉบับสีสันสดใสแต่ปรับเปลี่ยนทุกปีพร้อมประกาศวันหยุดของแต่ละเดือนเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อย โดยจัดแยกอาหารออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆให้เราสามารถออเดอร์ตรงกับน้องพนักงานได้ทันทีทั้ง "แกงป่า" 150-330 / "ผัดเผ็ด" 150-220 / "ฉู่ฉี่" 160-330 / "ผัดฉ่า" 160-330 / "ต้มยำน้ำใส,ข้น" (ถ้วย-หม้อไฟ) 150-350 / "แกงจืด" 80 / "พล่าปลาช่อน" 400 / "ไข่เจียวใส่หมู-กุ้งสับ" 70-85 / "ปลารากกล้วยทอด" 130 / "หมู-เนื้อทอดแดดเดียว" 150-170 / "ทอดมันปลากราย" 160 / "ปีกกลางไก่ทอดน้ำปลา" 160 / "ตัวกบทอดกระเทียม" 200 / "เก้งทอดแดดเดียว" 220 / "ยำวุ้นเส้น,ไข่ดาว,ทะเล,กบ" 100-200 / "หมูมะนาว,กุ้งแช่น้ำปลา" 150-160 / "ทับทิม,คัง,เนื้ออ่อน,กะพง,ปูนิ่มทอดกระเทียม,ราดซอสน้ำปลา,สามรส" 300-350 / "ลูกชิ้นปลากราย,ปลาคัง,ปลาบึกลวกจิ้ม" 180-300 / "ปลาทับทิม,กะพงนึ่งซีอิ๊วหรือมะนาว" 330-400 / "ผัดเปรี้ยวหวาน" 150-160 / "ผักรวม,บล็อกโคลี่,คะน้า,แขนง,ผักบุ้ง,มะเขือยาว,กะหล่ำปลีน้ำปลา 100-140 / "ผัดพริกเผา,พริกไทยดำ 150-350 / อาหารตามสั่ง 60-70 บาท นอกจากนั้นก็คือเครื่องดื่ม,ขนมหวาน,ไอศครีมไปจนถึงแอลกอฮอล์แช่เย็นสดชื่นถึงใจครับผม
รายการแรกขอเริ่มต้นกันด้วยเมนูทานเล่นช่วยเรียกน้ำย่อยตัวแทนแห่งแม่น้ำแควส่งตรงจากชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดกาญจนบุรีสดใหม่ทุกวันได้แก่ "ปลาคังลวกจิ้ม" ราคา 300 บาท ปลากดคังธรรมชาติคัดเฉพาะไซส์ใหญ่เบิ้มแล่เอาแต่เนื้อล้วนสีขาวสะอาดสัมผัสเนียนละเอียดจุดเด่นอยู่ตรงหนังไร้เกล็ดอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งส่งผลดีต่อระบบประสาทและสมอง ตั้งน้ำเดือดจัดๆค่อยนำลงไปลวกพร้อมเกลือ,สมุนไพรเพื่อดับกลิ่นคาววางเรียงบนผักขึ้นฉ่ายสีเขียวสวยงามโรยกระเทียมไทยกลีบเล็กจิ๋วเจียวเหลืองกรอบให้ปริมาณเยอะเกินคุ้มรับประทานคู่น้ำจิ้มซีฟู้ดพริกขี้หนูเผ็ดร้อนเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดหอมกลิ่นมะนาวแท้เพื่อตัดเลี่ยนชวนฟินได้อีกไม่รู้สึกเบื่อ / "ทอดมันปลากราย" ราคา 160 บาท เนื้อปลากรายขูดละเอียดคลุกเคล้าเครื่องพริกแกงเผ็ดทำเองสืบทอดสูตรกันภายในตระกูลของทางร้าน "ครัวกาญจน์" เพิ่มไข่ไก่กับใบมะกรูดซอยไร้ถั่วฝักยาวสวมถุงมือนวดบนภาชนะสแตนเลสหล่อน้ำแข็งเวลานานจนเหนียวหนึบตั้งยอดบรรจงทาน้ำมันปั้นก้อนรูปทรงกลมแบนความหนาประมาณ 0.5 เซนติเมตรทอดลงน้ำมันท่วมควบคุมไฟอุณหภูมิปานกลางประมาณ 180 องศาเซลเซียส กินคู่ซอสลักษณะคล้ายอาจาดเวียดนามเปรี้ยวอมหวานผสมพริกแห้งลอยแตงกวาหั่นชิ้นลูกเต๋า,ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ,ผักชีซอยผิวนอกเกรียมสุกชุ่มฉ่ำเด้งสู้ฟันต้องลองครับ
นอกจากวัตถุดิบพื้นฐานทั่วไปแล้วทางร้าน "ครัวกาญจน์" บางแคแห่งนี้ยังเพิ่มของเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเฉพาะหารับประทานยากบ่งบอกถึงการเป็นภัตตาคารอาหารป่าสูตรโบราณดั้งเดิมเช่นไก่บ้าน,กบ,เก้งไปจนถึงหมูป่าโดยวันนี้เราตั้งใจออเดอร์มาลองชิมนั่นก็คือ "ผัดเผ็ดหมูป่า" ราคา 180 บาท ส่งตรงจากเหล่าเกษตรกรลงทะเบียนก่อนเปิดฟาร์มเพาะเลี้ยงควบคุมตามกฎเกณฑ์ของกรมปศุสัตว์มีจุดเด่นอยู่ตรงเนื้อแน่นหนังหนาพิเศษสีน้ำตาลเข้มสัมผัสเด้งกรุบกรอบสู้ฟันคลุกเคล้าพริกแกงฉบับโฮมเมดตำเองสดใหม่ทุกวันพร้อมเหล่าสมุนไพรไทยกลิ่นรุนแรงเพื่อกลบสาบคาวเฉพาะตัวทั้งพวงพริกไทยอ่อน,กระชายซอย,ใบมะกรูดฉีก,ยอดกะเพราแบบขลุกขลิกเหมาะสำหรับราดข้าวสวยโรยน้ำปลาพริกเล็กน้อยรับรองว่าอร่อยเผ็ดร้อนแซ่บถึงใจแน่นอน / "เก้งผัดพริกไทยดำ" ราคา 280 บาท สัตว์ชนิดหนึ่งลักษณะภายนอกคล้ายกวางแต่ตัวเล็กเขาสั้นกว่าแถมมีเขี้ยวแหลมคมตรงมุมปากเอาไว้ใช้ป้องกันตัวอนุญาตให้เพาะพันธุ์เพื่อจำหน่ายปกติตามซูเปอร์มาร์เก็ตธรรมดา (ยกเว้นเก้งหม้อเท่านั้น) กล้ามเนื้อแข็งแรงแลดูคล้ายก้อนสันในวัวปริมาณโปรตีนสูงไร้ไขมันหลับตาเคี้ยวนุ่มประดุจสันนอกหมูหั่นชิ้นใหญ่ผัดซอสพริกไทยดำใส่หอมหัวใหญ่,พริกหยวกระฆังสามสีและต้นหอมเค็มหวานกลมกล่อมวางเสิร์ฟบนกระทะเหล็กเผาไฟร้อนฉ่าชวนยั่วน้ำลายมากครับผม
เมื่อนึกถึงจังหวัดกาญจนบุรีนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำแควชื่อเสียงโด่งดังแล้วยังมีอีกหนึ่งเมนูซึ่งทุกคนต้องออเดอร์เรียกหาก่อนอันดับแรกนั่นก็คือ "แกงป่าลูกชิ้นปลากราย" ราคา 160 บาท เริ่มต้นด้วยเครื่องพริกแกงทำเองสดใหม่ทุกวันเผ็ดแสบร้อนควันแทบออกหูประกอบไปด้วยข่า,ตะไคร้,ผิวมะกรูด,พริกแห้ง,พริกขี้หนูสวน,พริกไทยขาว,กระเทียม,กะปิอย่างดีเกลือสมุทรเล็กน้อยตามอัตราส่วนลับเฉพาะโขลกละลายน้ำสต๊อกกระดูกหมูกรองใสสะอาด ปั้นเนื้อปลากรายขูดบดละเอียดก้อนรูปทรงกลมกดแบนลักษณะคล้ายลูกชิ้นขนาดใหญ่เต็มคำสัมผัสเหนียวหนึบเคี้ยวสู้ฟันเพิ่มมะเขือพวง,มะเขือเปราะ,ยอดกะเพรา,ใบมะกรูดฉีกปรุงรสชาติเค็มนำไม่ติดหวานกลมกล่อมของแท้ต้นฉบับมาเองแน่นอน / "ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน" ราคา 330 บาท เมื่อวันก่อนเราเห็นทางร้านลงโพสต์บนเพจไซส์ใหญ่เกือบเท่าแขนแต่จะให้เหมาะสมกับรายการนี้ต้องลดขนาดลงหน่อยโดยตัดหัวควักลำไส้ทิ้งชุบแป้งสาลีอเนกประสงค์เบาบางก่อนทอดช่วยรักษารูปทรง ตั้งกระทะผัดพริกแกงเผ็ดกับกะทิจนแตกมันปรุงน้ำปลา-น้ำตาลปีบหวานนำเค็มโรยใบมะกรูดซอย,โหระพาส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจเข้มข้นฟินคลุกข้าวสวยเปลืองหน่อย ส่วนเนื้อถือว่าแน่นกระชับแม้ก้างเยอะค่อนข้างถี่หน่อยแต่เลาะรวดเดียวรับประทานง่ายกว่าไซส์เล็กเหมือนที่จัดเสิร์ฟตามภัตตาคารแห่งอื่นๆครับ
สัตว์ชนิดหนึ่งตัวแทนแห่งแม่น้ำโขงรสชาติอร่อยจนได้รับความนิยมมากแทบสูญพันธุ์แต่ก็ได้รับการอนุรักษ์เพาะเลี้ยงจนกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจก่อนนำมาทำเป็นเมนูอาหารป่าอย่าง "ผัดฉ่าปลาบึก" ราคา 200 บาท รูปที่พวกเราเคยเห็นผู้คนแชร์กันตามอินเทอร์เน็ตนั้นจับจากธรรมชาติอายุยาวนานจึงใหญ่พิเศษประมาณ 100 กิโลกรัมขึ้นไปแต่ทางร้าน "ครัวกาญจน์" เลือกใช้เกรดเลี้ยงบ่อดิบขนาดรองลงมาหน่อยข้อดีนั่นก็คือเนื้อสัมผัสแน่นกระชับปริมาณไขมันแทรกกำลังพอดีไม่เลี่ยนเหม็นกลิ่นโคลน บรรจงแล่แบบไร้กังวลเรื่องก้างลวกเพื่อล้างสาบคาวผัดเครื่องสมุนไพรเน้นรวดเร็วเบามือทั้งกระชายซอยเส้น,ใบโหระพา,ยอดกะเพรา,ใบมะกรูดฉีก,พริกขี้หนูและพวกพริกไทยอ่อนน้ำซอสขลุกขลิกเค็มปนหวานกลมกล่อมเผ็ดร้อนคลุกข้าวสวยเปลืองแทบเหมาหมดหม้อสะใจ / "ยำทะเลแซ่บเวอร์" ราคา 160 บาท คัดวัตถุดิบฝั่งอ่าวไทยคุณภาพระดับพรีเมียมได้แก่กุ้งขาวดึงหัวแกะเปลือกกลางลำตัวเหลือปลายหางจับถือรับประทานสะดวกดึงเส้นสีดำกลางหลังทิ้งกับหมึกกล้วยล้างสะอาดดึงแกนกลางคล้ายพลาสติกออกหั่นชิ้นยักษ์ใหญ่โตชวนเคี้ยวแน่นเต็มคำ ลวกพอสุกก่อนเคล้าน้ำยำสูตรโบราณสีสันแลดูจืดชืดแต่ลองชิมแล้วเปรี้ยวมะนาวครบถ้วนสามรสเพิ่มหัวหอมใหญ่,มะเขือเทศ,ขึ้นฉ่ายเหมาะสำหรับฟินแนวกับแกล้มคู่แอลกอฮอล์จี๊ดจ๊าดเกินคาดครับผม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น