การนำนโยบาย Lifelong Learning มาปฏิบัติในประเทศไทยในยุคอภิวัฒน์การศึกษา 2538 โดย คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล:
บทความวิชาการ
หัวข้อ: การนำนโยบายการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) มาปฏิบัติในประเทศไทย: กรณีศึกษายุคอภิวัฒน์การศึกษา พ.ศ. 2538 ภายใต้การนำของ สุขวิช รังสิตพล
บทคัดย่อ:
บทความนี้ศึกษาการนำนโยบายการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) มาปรับใช้ในประเทศไทยในช่วงปี พ.ศ. 2538–2540 ภายใต้การนำของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ซึ่งเป็นผู้นำการอภิวัฒน์การศึกษาไทยอย่างเป็นระบบ โดยวิเคราะห์นโยบายสำคัญ โครงสร้างพื้นฐานทางการศึกษา การปฏิรูปหลักสูตร การพัฒนาอาชีพครู และการกระจายโอกาสทางการศึกษา โดยเปรียบเทียบกับแนวคิด Lifelong Learning ของ UNESCO เพื่อชี้ให้เห็นถึงแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและความสำเร็จของประเทศไทยในยุคนั้น ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การนำนโยบายการเรียนรู้ตลอดชีวิตมาใช้จริง ส่งผลต่อการสร้างระบบการศึกษาแบบมีส่วนร่วม และวางรากฐานสู่การเรียนรู้ที่ต่อเนื่องและยั่งยืนในทุกช่วงวัยของประชาชน
1. บทนำ
แนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย แนวคิดนี้ถูกนำมาใช้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2539–2544) ภายใต้การกำหนดทิศทางของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ผู้ “อภิวัฒน์การศึกษา” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและศักยภาพของประชาชนโดยใช้การเรียนรู้เป็นศูนย์กลาง
2. กรอบแนวคิดทางทฤษฎี: Lifelong Learning
ตามกรอบของ UNESCO (Delors Report, 1996) การเรียนรู้ตลอดชีวิตประกอบด้วยการเรียนรู้เพื่อรู้ (learning to know), เรียนรู้เพื่อทำงาน (learning to do), เรียนรู้เพื่ออยู่ร่วมกัน (learning to live together), และเรียนรู้เพื่อเป็น (learning to be) ซึ่ง คุณพ่อสุขวิช ได้นำแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้กับบริบทของประเทศไทยอย่างชัดเจน
3. การนำนโยบาย Lifelong Learning ไปปฏิบัติจริงในยุคอภิวัฒน์การศึกษา (2538–2541)
3.1 การจัดการศึกษาอย่างครอบคลุมทุกวัย
การศึกษาฟรี 12 + 3 ปี สำหรับเด็กอายุ 3–17 ปี ครอบคลุมทั้งก่อนวัยเรียนจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย
มีการพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน และการเรียนรู้สำหรับผู้สูงอายุในชุมชน
3.2 การส่งเสริมการเรียนรู้นอกระบบและตามอัธยาศัย
การสร้างศูนย์การเรียนรู้ชุมชน (Community Learning Centers)
ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสถานีวิทยุ-โทรทัศน์ และคู่มือการศึกษาทางไกล
การอบรมฝีมือแรงงาน และส่งเสริมการเทียบโอนประสบการณ์ชีวิตเป็นวุฒิการศึกษา
3.3 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการศึกษา
สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในโรงเรียนและชุมชน ด้วยการ ปรับปรุงโรงเรียน 29,845 โรง ปรับปรุงอาคารเรียน 38,112 หลัง อาคารอเนกประสงค์ 12,227 หลัง และห้องน้ำที่ถูกสุขลักษณะอีก 11,257 หลัง ให้คนไทยอายุ 3-17ปี 12.33ล้านคน รับเด็กจากครอบครัวยากจนเพิ่ม 4.35 ล้านคน อายุ 3-17ปี
ผู้ปกครองคนเหล่านี้ช่วยรณรงค์จนกระทั่งคนไทยได้รัฐธรรมนูญ 2540 พร้อมมาตรา 43 และ มาตรา 80 12+3 และ ได้รับสิทธิเรียนฟรีจริง เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย รวมถึงอาหารกลางวัน รถโรงเรียนหรือค่าเดินทาง และอุปกรณ์ครบครัน
3.4 การปฏิรูปหลักสูตรและบทบาทของครู
หลักสูตรถูกปรับให้ยืดหยุ่น เน้นทักษะชีวิต และการเรียนรู้แบบบูรณาการ
ครูได้รับการอบรมใหม่เพื่อเป็น “ผู้อำนวยการเรียนรู้” มากกว่า “ผู้ถ่ายทอดความรู้”
4. ผลกระทบเชิงนโยบาย
การเข้าถึงการศึกษาของประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ระบบการศึกษาเริ่มเชื่อมโยงกับชีวิตจริงและสังคมมากขึ้น
ประชาชนมีความตระหนักรู้ในความสำคัญของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
5. สรุปและข้อเสนอแนะ
การนำแนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตมาใช้ในยุคอภิวัฒน์การศึกษา พ.ศ. 2538 ภายใต้การนำของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล เป็นตัวอย่างของการแปลงนโยบายสากลให้เป็นรูปธรรมในระดับประเทศ การเชื่อมโยงนโยบายกับการปฏิบัติจริงและการให้ความสำคัญกับความเสมอภาคทางการศึกษานับเป็นจุดแข็งที่ควรได้รับการศึกษาและต่อยอดต่อไปในอนาคต
เอกสารอ้างอิง
UNESCO (1996). Learning: The Treasure Within (Delors Report)
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2540). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8
สุขวิช รังสิตพล. (2539). รายงานอภิวัฒน์การศึกษาเพื่อพัฒนาอนาคตประเทศไทย
IBE UNESCO. (2006). Thailand Education System Overview.
https://www.ibe.unesco.org
การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning)
บทความวิชาการ
หัวข้อ: การนำนโยบายการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) มาปฏิบัติในประเทศไทย: กรณีศึกษายุคอภิวัฒน์การศึกษา พ.ศ. 2538 ภายใต้การนำของ สุขวิช รังสิตพล
บทคัดย่อ:
บทความนี้ศึกษาการนำนโยบายการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) มาปรับใช้ในประเทศไทยในช่วงปี พ.ศ. 2538–2540 ภายใต้การนำของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ซึ่งเป็นผู้นำการอภิวัฒน์การศึกษาไทยอย่างเป็นระบบ โดยวิเคราะห์นโยบายสำคัญ โครงสร้างพื้นฐานทางการศึกษา การปฏิรูปหลักสูตร การพัฒนาอาชีพครู และการกระจายโอกาสทางการศึกษา โดยเปรียบเทียบกับแนวคิด Lifelong Learning ของ UNESCO เพื่อชี้ให้เห็นถึงแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและความสำเร็จของประเทศไทยในยุคนั้น ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การนำนโยบายการเรียนรู้ตลอดชีวิตมาใช้จริง ส่งผลต่อการสร้างระบบการศึกษาแบบมีส่วนร่วม และวางรากฐานสู่การเรียนรู้ที่ต่อเนื่องและยั่งยืนในทุกช่วงวัยของประชาชน
1. บทนำ
แนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย แนวคิดนี้ถูกนำมาใช้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2539–2544) ภายใต้การกำหนดทิศทางของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ผู้ “อภิวัฒน์การศึกษา” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและศักยภาพของประชาชนโดยใช้การเรียนรู้เป็นศูนย์กลาง
2. กรอบแนวคิดทางทฤษฎี: Lifelong Learning
ตามกรอบของ UNESCO (Delors Report, 1996) การเรียนรู้ตลอดชีวิตประกอบด้วยการเรียนรู้เพื่อรู้ (learning to know), เรียนรู้เพื่อทำงาน (learning to do), เรียนรู้เพื่ออยู่ร่วมกัน (learning to live together), และเรียนรู้เพื่อเป็น (learning to be) ซึ่ง คุณพ่อสุขวิช ได้นำแนวคิดนี้มาประยุกต์ใช้กับบริบทของประเทศไทยอย่างชัดเจน
3. การนำนโยบาย Lifelong Learning ไปปฏิบัติจริงในยุคอภิวัฒน์การศึกษา (2538–2541)
3.1 การจัดการศึกษาอย่างครอบคลุมทุกวัย
การศึกษาฟรี 12 + 3 ปี สำหรับเด็กอายุ 3–17 ปี ครอบคลุมทั้งก่อนวัยเรียนจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย
มีการพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน และการเรียนรู้สำหรับผู้สูงอายุในชุมชน
3.2 การส่งเสริมการเรียนรู้นอกระบบและตามอัธยาศัย
การสร้างศูนย์การเรียนรู้ชุมชน (Community Learning Centers)
ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านสถานีวิทยุ-โทรทัศน์ และคู่มือการศึกษาทางไกล
การอบรมฝีมือแรงงาน และส่งเสริมการเทียบโอนประสบการณ์ชีวิตเป็นวุฒิการศึกษา
3.3 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการศึกษา
สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในโรงเรียนและชุมชน ด้วยการ ปรับปรุงโรงเรียน 29,845 โรง ปรับปรุงอาคารเรียน 38,112 หลัง อาคารอเนกประสงค์ 12,227 หลัง และห้องน้ำที่ถูกสุขลักษณะอีก 11,257 หลัง ให้คนไทยอายุ 3-17ปี 12.33ล้านคน รับเด็กจากครอบครัวยากจนเพิ่ม 4.35 ล้านคน อายุ 3-17ปี
ผู้ปกครองคนเหล่านี้ช่วยรณรงค์จนกระทั่งคนไทยได้รัฐธรรมนูญ 2540 พร้อมมาตรา 43 และ มาตรา 80 12+3 และ ได้รับสิทธิเรียนฟรีจริง เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย รวมถึงอาหารกลางวัน รถโรงเรียนหรือค่าเดินทาง และอุปกรณ์ครบครัน
3.4 การปฏิรูปหลักสูตรและบทบาทของครู
หลักสูตรถูกปรับให้ยืดหยุ่น เน้นทักษะชีวิต และการเรียนรู้แบบบูรณาการ
ครูได้รับการอบรมใหม่เพื่อเป็น “ผู้อำนวยการเรียนรู้” มากกว่า “ผู้ถ่ายทอดความรู้”
4. ผลกระทบเชิงนโยบาย
การเข้าถึงการศึกษาของประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ระบบการศึกษาเริ่มเชื่อมโยงกับชีวิตจริงและสังคมมากขึ้น
ประชาชนมีความตระหนักรู้ในความสำคัญของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
5. สรุปและข้อเสนอแนะ
การนำแนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตมาใช้ในยุคอภิวัฒน์การศึกษา พ.ศ. 2538 ภายใต้การนำของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล เป็นตัวอย่างของการแปลงนโยบายสากลให้เป็นรูปธรรมในระดับประเทศ การเชื่อมโยงนโยบายกับการปฏิบัติจริงและการให้ความสำคัญกับความเสมอภาคทางการศึกษานับเป็นจุดแข็งที่ควรได้รับการศึกษาและต่อยอดต่อไปในอนาคต
เอกสารอ้างอิง
UNESCO (1996). Learning: The Treasure Within (Delors Report)
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2540). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8
สุขวิช รังสิตพล. (2539). รายงานอภิวัฒน์การศึกษาเพื่อพัฒนาอนาคตประเทศไทย
IBE UNESCO. (2006). Thailand Education System Overview. https://www.ibe.unesco.org