
เปิดวาระลับ ครม. เคาะขึ้นภาษีดีเซล - เบนซิน เพิ่มรายได้รับวิกฤติเศรษฐกิจ
.
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมวาระลับ เรื่องการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ทั้งน้ำมันเบนซิน และดีเซล ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยภายหลังจากที่ ครม.เห็นชอบได้มีการประกาศกฎกระทรวงการคลังเรื่อง การกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 42) พ.ศ.2568 ในราชกิจจานุเบกษา และมีผลทันทีในวันนี้ (7 พ.ค.)
.
ทั้งนี้กระทรวงการคลังได้ให้เหตุผลในการปรับขึ้นภาษีน้ำมันในครั้งนี้ว่าปัจจุบันราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง สมควรเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ประเกทน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล เพื่อให้รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น อันเป็นการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศและเสถียรภาพทางการคลังของรัฐ โดยเฉพาะในช่วงที่มีความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นจากภาวะสงครามการค้า
.
ทั้งนี้กรมสรรพสามิตรายงานว่าจากการปรับขึ้นอัตราภาษีครั้งนี้จะทำให้รัฐบาลได้รายได้เพิ่มประมาณเดือนละ 2,900 ล้านบาท หรือประมาณ 34,800 ล้านบาทต่อปี
.
อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตและภาษีท้องถิ่นครั้งนี้จะไม่กระทบกับราคาขายปลีกน้ำมันเนื่องจากจะให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดการเก็บเงินส่งกองทุนน้ำมันลงเพื่อชดเชยกับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่รัฐบาลจัดเก็บเพิ่มเติม โดยจะรักษาระดับราคานี้ให้ได้จนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2568 จากนั้นจะมีการทบทวนแนวทางการดำเนินการอีกครั้ง
.
อ่าน:
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1179229?anm=
แพงเพราะภาษีครับ ที่ถามกันทำไมราคาไม่ลง
อธิบายเพิ่มสำหรับคนไม่เข้าใจ คือน้ำมันแพงเพราะภาษีถ้าไม่มีภาษี ราคามันจะถูกกว่านี้ ดูโครงสร้างราคาน้ำมันได้ครับ ส่วนกองทุนน้ำมันไว้แค่ทำให้น้ำมันราคานิ่งขึ้น คือยุบกองทุนไปก็เท่านั้นถ้าเก็บภาษีอยู่ราคามันก็ต้องแพงกว่า ราคาทุนอยู่แล้ว
เปิดวาระลับ ครม. เคาะขึ้นภาษีดีเซล - เบนซิน เพิ่มรายได้รับวิกฤติเศรษฐกิจ
เปิดวาระลับ ครม. เคาะขึ้นภาษีดีเซล - เบนซิน เพิ่มรายได้รับวิกฤติเศรษฐกิจ
.
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมวาระลับ เรื่องการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ทั้งน้ำมันเบนซิน และดีเซล ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยภายหลังจากที่ ครม.เห็นชอบได้มีการประกาศกฎกระทรวงการคลังเรื่อง การกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 42) พ.ศ.2568 ในราชกิจจานุเบกษา และมีผลทันทีในวันนี้ (7 พ.ค.)
.
ทั้งนี้กระทรวงการคลังได้ให้เหตุผลในการปรับขึ้นภาษีน้ำมันในครั้งนี้ว่าปัจจุบันราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง สมควรเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ประเกทน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล เพื่อให้รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น อันเป็นการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศและเสถียรภาพทางการคลังของรัฐ โดยเฉพาะในช่วงที่มีความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นจากภาวะสงครามการค้า
.
ทั้งนี้กรมสรรพสามิตรายงานว่าจากการปรับขึ้นอัตราภาษีครั้งนี้จะทำให้รัฐบาลได้รายได้เพิ่มประมาณเดือนละ 2,900 ล้านบาท หรือประมาณ 34,800 ล้านบาทต่อปี
.
อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตและภาษีท้องถิ่นครั้งนี้จะไม่กระทบกับราคาขายปลีกน้ำมันเนื่องจากจะให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดการเก็บเงินส่งกองทุนน้ำมันลงเพื่อชดเชยกับอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่รัฐบาลจัดเก็บเพิ่มเติม โดยจะรักษาระดับราคานี้ให้ได้จนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2568 จากนั้นจะมีการทบทวนแนวทางการดำเนินการอีกครั้ง
.
อ่าน: https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1179229?anm=
แพงเพราะภาษีครับ ที่ถามกันทำไมราคาไม่ลง
อธิบายเพิ่มสำหรับคนไม่เข้าใจ คือน้ำมันแพงเพราะภาษีถ้าไม่มีภาษี ราคามันจะถูกกว่านี้ ดูโครงสร้างราคาน้ำมันได้ครับ ส่วนกองทุนน้ำมันไว้แค่ทำให้น้ำมันราคานิ่งขึ้น คือยุบกองทุนไปก็เท่านั้นถ้าเก็บภาษีอยู่ราคามันก็ต้องแพงกว่า ราคาทุนอยู่แล้ว