หนึ่งในประเด็นร้อนแรงที่ถูกหยิบยกมาพูดอีกครั้งบนโลกออนไลน์ไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คงไม่พ้นสถานการณ์ของประเทศไทยในเวลานี้ ว่าด้วยประเด็น “คนทำผิด ไม่ต้องรับผิด” ที่สะท้อนความหมายกว้างขวางกว่าแค่ประโยคนี้ประโยคเดียว
‘พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย’ นักเศรษฐศาสตร์จากเกียรตินาคินภัทรเป็นหนึ่งในผู้แสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ โดยหยิบยกเอาหนังสือ ‘Why Nations Fail’ ที่อธิบายถึงเหตุผลว่า “ทำไมบางประเทศถึงร่ำรวย ขณะที่บางประเทศกลับยากจน?” มาเป็นหลักในการเล่าเรื่องราว
.
พิพัฒน์ อธิบายว่า สิ่งที่กำหนดอนาคตของแต่ละประเทศ คือ ‘สถาบันการเมืองและเศรษฐกิจ’
.
กล่าวคือ ถ้าประเทศมี สถาบันแบบ Inclusive (ครอบคลุม-เปิดโอกาส) มีการบังคับใช้กฎหมายเข้มแข็ง คุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินของประชาชน มีประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมจริง ประเทศจะสร้างโอกาสอย่างทั่วถึงและพัฒนาได้อย่างยั่งยืนได้
.
ขณะเดียวกัน ถ้าประเทศติดกับ สถาบันแบบ Extractive (เอาเปรียบ-กอบโกย) หรือกลุ่มอำนาจบิดเบือนกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ขัดขวางการแข่งขันและนวัตกรรม และมีระบบการเมืองคอร์รัปชันและไร้ความโปร่งใส สุดท้ายประเทศก็จะติดกับดักความยากจนและเหลื่อมล้ำแบบไม่มีทางออก
.
หรือเรียกง่ายๆ คือ ประเทศจะมีเศรษฐกิจรุ่งเรือง ประชาชนได้รับโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากร การศึกษา หรือการพัฒนาตนเองหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ‘สถาบันการเมืองและเศรษฐกิจ’ ว่าทำงานเพื่อประชาชนส่วนใหญ่หรือไม่ หรือทำเพื่อชนชั้นนำกลุ่มเล็กๆ
.
โดยสุดท้าย ประเทศที่ไม่กล้าปฏิรูปสถาบัน แม้จะดูแข็งแรงในบางช่วงเวลา สุดท้ายจะเจอกับจุดตันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
.
จุดสำคัญ คือ ‘พิพัฒน์’ บอกว่า เมื่อมองกลับมาที่ประเทศไทย เรากำลังเห็น ‘สัญญาณอันตราย’ หลายอย่างที่หนังสือเล่มนี้เตือน ไม่ว่าจะเป็นระบบการเลือกตั้งที่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่สำคัญ การแทรกแซงอำนาจตุลาการจนความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมสั่นคลอน รวมถึงวัฒนธรรมที่ “คนทำผิดไม่ต้องรับผิด” และการใช้กฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์พวกพ้อง
.
พร้อมยกตัวอย่างสถิติล่าสุดที่ตอกย้ำสถานการณ์ของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น
.
– Rule of Law Index 2024 (World Justice Project): ไทยอยู่อันดับ 78 จาก 142 ประเทศ ต่ำกว่าหลายประเทศในภูมิภาค เช่น มาเลเซียและสิงคโปร์
.
– Corruption Perceptions Index 2024 (Transparency International): ไทยได้คะแนน 36/100 อยู่อันดับ 107 จาก 180 ประเทศ สะท้อนปัญหาคอร์รัปชันเรื้อรัง
.
– Democracy Index 2024 (The Economist Intelligence Unit): ไทยถูกจัดเป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีข้อบกพร่อง (Flawed Democracy) อยู่อันดับ 63 จาก 167 ประเทศ
.
โดยนักเศรษฐศาสตร์ท่านนี้บอกว่า “ทุกตัวชี้วัดเลวร้ายลงเรื่อยๆ” และ “นี่คือสัญญาณชัดเจนว่า หากไทยไม่เร่งปฏิรูปสถาบันหลัก ๆ โดยเฉพาะ rule of law, คอร์รัปชั่น และประชาธิปไตย เราอาจไม่ได้เป็นเพียงผู้สังเกต แต่จะกลายเป็น “กรณีศึกษา” ที่ถูกเขียนไว้ในหนังสือ Why Nations Fail ในอนาคต ช่วยกันก่อนทุกอย่างจะสายเกินไปเถอะครับ”
.
ทั้งนี้ Brand Inside พบว่า หลายคนอาจสับสนความหมายของคำว่า Nations Fail กับ Failed State โดยหนังสือ Why Nations Fail ไม่ได้พูดถึงความล้มเหลวในรูปแบบของ Failed State หรือ รัฐล้มเหลวแบบสิ้นเชิง เช่น ไม่มีรัฐบาลควบคุม หรือเกิดสงครามกลางเมือง
.
แต่พูดถึง Nation Fail ในความหมายว่า ประเทศที่ไม่สามารถสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนได้ มีระบบการเมืองและเศรษฐกิจแบบกดขี่ ประชาชนส่วนใหญ่ขาดโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากร การศึกษา หรือการพัฒนาตนเอง โดยความล้มเหลวเหล่านั้นเกิดจากระบบหรือสถาบันที่ออกแบบมาเพื่อประโยชน์ของคนส่วนน้อยมากกว่าคนส่วนใหญ่นั่นเอง
ที่มา : Brand Inside
“คนทำผิด ไม่ต้องรับผิด” ไทยอาจกลายเป็นบทหนึ่งใน ‘Why Nations Fail’