หยุดทำให้ “ชายข้ามเพศ” Transman กลายเป็นตัวตลกในสายตาสังคม — เพราะมันเจ็บปวดเกินกว่าจะปล่อยผ่าน

มนุษย์เราทุกคนล้วน stereotype ก็คือการเหมารวมมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว

ผมเป็นชายข้ามเพศ คนหนึ่งที่ไม่เคยอายเลยว่าเคยเกิดมาเป็นเพศหญิง
แต่ผมเลือกแล้ว — ผมเลือกจะ “เป็นผู้ชาย” และใช้ชีวิตในฐานะผู้ชายอย่างเต็มที่ ………ผมไม่เคยลืมเพศกำเนิด

แต่ผมก็ไม่เคย “เอามาอ้าง” หรือ “แอบใช้มันเป็นข้ออ่อนแอ” เวลาที่ผมรับมือชีวิตในแบบผู้ชาย

แต่สิ่งที่ผมเจอบ่อยมาก และเจอมาจนทนไม่ไหวคือ…
ชายข้ามเพศหลายคนในประเทศไทย กำลังทำลายภาพลักษณ์ของพวกเราเอง
โดยไม่รู้ตัว หรือแย่กว่านั้น… บางคนรู้แต่ไม่แคร์



แล้วเรื่อง “ชายข้ามเพศ” ที่พูดว่า “ยังไงฉันก็เป็นผู้หญิง”

มัน ย้อนแย้งแบบหน้าหงาย…. และ ทำให้ตัวเองดูไร้จุดยืน

คุณไม่บังคับให้ใครต้องเหมือนคุณ แต่สิ่งที่คุณพูดคือ “ถ้าคุณเลือกทางแล้ว ก็อย่ากลับไปทำลายทางที่คุณเดินอยู่เอง”

เพราะมันไม่ได้แค่ดูสับสน — แต่มันทำลายภาพรวมของผู้ชายข้ามเพศที่สู้ด้วยความชัดเจน


แต่ถ้าคุณ เดินในสถาบันเพศชาย แล้วพูดว่า….
‘ฉันเป็นผู้หญิง’ ซ้ำๆ
ในความเป็นจริงผู้ชายทุกคนไม่ได้มองทอมหรือชายข้ามเพศ เป็นผู้หญิง บางคนเค้ามองพวกเราเป็นผู้ชายด้วยซ้ำ
หรือไม่ก็เค้ามองเราเป็นทอมก็คือทอม
เค้ามองเราเป็น ทรานส์แมนก็คือ ทรานส์แมน


ผมเชื่อว่ามนุษย์เราทุกคนล้วนมีปัญหากันทั้งนั้น
แม้แต่เราจะเป็นคนดีแค่ไหนธรรมะแค่ไหน
ถ้าเราเกิดมีปัญหาเรื่องทะเลาะวิวาทกัน
อย่างเช่น ผู้ชายแท้กับทอมทะเลาะกัน  
เราควรมองเป็นบุคคลให้ได้มากที่สุด  
เราอย่าใช้คำว่า ..“ ฉันเป็นผู้หญิงนะ” ห้ามใช้คำนี้เด็ดขาด
เพราะมันจะทำให้พวกเราดูตัวตลก  และผู้ชายก็จะจะยิ่งมองเพศเราไม่ดี เพราะผู้ชายก็สับสนกับเพศเราว่าตกลงจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
ถ้าเราเลือกจะเป็นทอมหรือผู้ชายข้ามเพศ  เราต้องรู้เส้นทางของตัวเองอย่าอ้างตัวเองว่าเป็นผู้หญิง

เข้าใจอยู่ว่าเพศกำเนิดเป็นผู้หญิง  แต่เอามาอ้างใช้ในบริบทพวกนี้ไม่ได้เวลามีปัญหากัน