เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม ที่ลานกิจกรรมหลังพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี ริมหนองประจักษ์ศิลปาคม เทศบาลนครอุดรธานี มีการจัดเวทีปราศรัยหาเสียงของ นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี หมายเลข 3 ในนามพรรคประชาชน (ปชน.) โดยมีผู้บริหารและ ส.ส.พรรคประชาชน เดินทางมาร่วมปราศรัยบนเวที สร้างสีสันให้กับแฟนคลับที่มารอรับฟังการปราศรัยจำนวนมาก

.

ซึ่งสีสันของเวทีเริ่มเกิดขึ้นขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เริ่มขึ้นเวที มีแฟนคลับตามให้กำลังใจและมอบดอกดาวเรืองให้บนเวที ต่อจากนั้นเวลา 18.30 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ได้ขึ้นเวทีปราศรัยข้างกับนายคณิศร สร้างเสียงฮืฮาให้กับแฟนคลับระหว่างปราศรัย มีประชาชนที่มาวิ่งออกกำลังกายหยุดถ่ายรูปบนเวทีเป็นระยะ โดยใช้เวลาปราศรัยประมาณ 20 นาที ก่อนเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินนานาชาติอุดรธานีกลับ กทม.

.

นายพิธาให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเวทีว่า การปราศรัยที่ จ.ขอนแก่น แค่อยากจะบอกว่าจะกลับไปพัฒนาตัวเองให้เยอะ เพื่ออีก 9 ปี จะได้มีความรู้มากกว่าเดิม ทันโลกมากกว่าเดิม เพราะปีนี้อายุก็ 45 ปีแล้ว กลับมาอีกทีก็ปาเข้าไป 55 ปีแล้ว โลกคงเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร และเดินทางไปหาความรู้ในหลายๆ ที่ แต่ก็จะประจำอยู่ที่บอสตันเหมือนเดิม เหมือนปีที่แล้ว ก็ยังจะเซ็นสัญญาขยายเพิ่มอีก 1 ปี อย่างตอนนี้มีสงครามการค้า ตนก็อยู่กับคนที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ จะนำกลับมาให้เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนคนไทยเพิ่มขึ้น ให้คนไทยได้มีความรู้ ความเก่งอยู่เสมอ

.

“ผมจะกลับมาช่วยอยู่เรื่อยๆ ทั้งพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ขอนแก่น เรามีความมั่นใจพอสมควร จากผลการเลือกตั้ง อบจ.ที่ผ่านมา หากคนมาใช้สิทธิมากๆ เราก็มีโอกาสชนะ แต่ก็ประมาทไม่ได้ อย่างเช่นเรื่องเจอสมุดในวัดที่เชียงใหม่ก็ดี หรือคนที่ไม่รู้ว่าจะมีการใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 11 พ.ค.ที่จะถึงนี้ ก็ย้ำประชาสัมพันธ์ ให้ออกมาใช้สิทธิกันเยอะๆ เราก็มีสิทธิที่จะชนะ

ส่วนที่อุดรธานีก็มีประสบการณ์ลงสมัครเลือกตั้งนายก อบจ. ได้คะแนน 2.8 แสนคะแนน ในพื้นที่ ทน.อุดรธานี 46 ตร.กม. ได้คะแนน 2.1 หมื่นคะแนน ก็เหมือนเดิม หากพี่น้องชาวอุดรธานีที่เคยเลือกตั้งแต่ยังเป็นก้าวไกลออกมาใช้สิทธิเหมือนกับที่เลือกพรรคประชาชนก็มีสิทธิจะชนะได้” นายพิธากล่าว

.

นายพิธากล่าวอีกว่า ที่สำคัญคือจุดแข็งของเขา คือความคิด ความอ่าน และวิสัยทัศน์ สั้นๆ เลยก็คือต้องการให้เมืองอุดรธานีเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกๆคน รวมถึงแรงงานที่จากไปทำงานอยู่ต่างประเทศจำนวนมาก เช่น เกาหลีใต้ อิสราเอล ไต้หวัน ได้กลับมาทำงานที่บ้านเกิด ตนมาอุดรธานีทีไรก็จะนึกถึงเพลงซาอุดรของวงคาราบาว เมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ซาอุดร จนถึงผีน้อย ก็คงยังเป็นเรื่องแบบนั้นอยู่ หวังว่านายกเล็กคนใหม่ ให้เมืองอุดร 46 ตร.กม. เป็นเมืองที่น่าอยู่ทุกด้านสำหรับทุกคน

.

.

.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรชาวสวนมังคุด จ.จันทบุรี ว่า ขณะนี้ราคามังคุด ได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเริ่มต้นฤดูกาล ราคาอยู่ที่เฉลี่ยกิโลกรัม (กก.) ละ 200 บาท (วันที่ 2 เม.ย.2568) โดยราคายืนอยู่ได้ไม่กี่วัน จากนั้นได้ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ครั้งละ 5 บาท 10 บาท จนถึงช่วงกลางเดือน ราคาตกลงมาอยู่ที่ กก.ละ 100-115 บาท

.

พอเข้าสู่ช่วงปลายเดือน เม.ย.2568 ราคาปรับลงแรงมาก ทีละ 10 บาทหรือมากกว่า จนล่าสุด ราคา ณ วันที่ 2 พ.ค.2568 อยู่ที่เฉลี่ย กก.ละ 50 บาท โดยลงไปต่ำสุดถึง กก.ละ 45 บาท

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบไปยังพ่อค้าที่เข้ามารับซื้อ และล้งที่รับซื้อมังคุด แจ้งว่า ตลาดปลายทาง คือ จีน ราคาปรับลดลง จึงต้องมารับซื้อมังคุดในราคาที่ลดลง แต่จากการที่เกษตรกร ติดตามราคาในตลาดจีน ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง แต่พ่อค้าใช้เป็นสาเหตุมากดราคาซื้อจากเกษตรกร

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ ก็ไม่เข้ามาช่วยเหลือ ไม่เหมือนปีที่แล้ว ที่เข้ามากำกับดูแล ตั้งแต่ช่วงต้นฤดู และช่วยผลักดันให้ราคาทรงตัวสูงไปจนจบฤดูกาล

โดยผลผลิตมังคุด ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และใกล้เคียง คาดว่า จะออกสู่ตลาดมากตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์นี้เป็นต้นไป เกษตรกรเป็นห่วงว่า ราคาจะยืนอยู่ในระดับนี้ไหวหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา แค่เดือนเดียว ราคาลงจาก 200 บาท มาอยู่ที่ระดับ 50-60 บาท

.

สำหรับผลผลิตมังคุด ปี 2568 เดิมมีการประเมินว่า จะมีประมาณ 2.79 แสนตัน เพิ่ม 2% แต่ล่าสุดสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดว่า จะมีผลผลิตสูงถึง 407,634 ตัน เพิ่มขึ้น 35.14%

.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการดูแลผลไม้ในปี 2568 กระทรวงพาณิชย์ได้เคาะ 7 มาตรการ 25 แผนงาน ได้แก่ มาตรการสร้างความเชื่อมั่นผลผลิต มาตรการส่งเสริมตลาดในประเทศ มาตรการส่งเสริมการแปรรูปและปรับพื้นที่เกษตรให้เหมาะสม มาตรการส่งเสริมตลาดต่างประเทศ มาตรการยกระดับสินค้าผลไม้ไทย มาตรการแก้ไขอุปสรรคและอำนวยความสะดวกทางการค้า และมาตรการกฎหมาย โดยในแผนนี้ มีเป้าช่วยระบายผลผลิต 9.5 แสนตัน ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

.

.

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์แพลตฟอร์มทรูธโซเชียล เมื่อวันอาทิตย์ (4 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ตนได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทการค้า “เริ่มกระบวนการกำหนดภาษีภาพยนตร์ต่างประเทศทันที”

.

“เราต้องการทำให้ภาพยนตร์ผลิตในอเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง!” ทรัมป์ระบุ 

.

ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าภาษีจะเก็บอย่างไร หรือจะประเมินผลงานเพื่อเก็บภาษีอย่างไร ภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่องใช้การผลิตทั่วโลก เช่น ถ่ายทำในต่างแดน งานโพสต์โปรดัคชันสามารถกระทำที่ใดก็ได้ในโลก

.

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเดือนก่อนจีนลดจำนวนภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ได้รับอนุญาตให้ฉายในประเทศลง เพื่อตอบโต้มาตรการภาษีโหดของทรัมป์

.

สำนักงานภาพยนตร์จีนกล่าวในเดือน เม.ย.ว่า ข้อกำหนดดังกล่าวจะ“ลดความนิยมของผู้ชมในประเทศต่อภาพยนตร์อเมริกันลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

.

ทั้งนี้ แม้อุตสาหกรรมภาพยนตร์สหรัฐจะมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก แต่หลายปีหลังภาพยนตร์ต่างประเทศกำลังได้รับความนิมมากขึ้นถึงขนาดได้รับรางวัลใหญ่ เช่น Parasite ได้ออสการ์สี่ตัว รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปี 2020