JJNY : 5in1 พิธายก 4 เหตุผล│นิติพลแนะเร่งสืบหาต้นทาง│ลอบวางระเบิด ตร.นราธิวาส│จับตาเฟดคงดอกเบี้ย│ญี่ปุ่นเผย ฮ.จีนรุกล้ำ

กระทู้ข่าว

พรรคประชาชน การเมืองท้องถิ่น ข่าวอาชญากรรม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวต่างประเทศ

พิธา ยก 4 เหตุผล เลือก ปชน.นั่งนายกเล็กนครขอนแก่น ลั่นอีก 9 ปี กลับมาเป็นนายกฯที่ดีที่สุด
https://www.matichon.co.th/politics/news_5167819
.

‘พิธา’ บุกขอนแก่น ให้คำมั่นจะเดินทางหาความรู้อีก 9 ปี แล้วจะกลับมาเป็น ‘นายกรัฐมนตรี’ ที่ดีที่สุดของประเทศ ลั่นเขาแบนผม ไม่รู้เศรษฐกิจจะตกต่ำไปอันดับไหยถ้ากลับมา ยก 4 เหตุผลเลือก ปชน. ผู้สมัครเป็นวิศวกรหญิง ขรก.หลอกไม่ได้ เหตุอ่านแบบเป็น ขายของ เลือกพรรคส้มได้พรรคอันดับหนึ่งของประเทศมาช่วยทำงาน

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ สถานีขนส่งจังหวัดขอนแก่นแห่งเก่า จ.ขอนแก่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ลงพื้นที่ปราศรัยช่วย น.ส.เบญจมาภรณ์ ศรีละบุตร ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น

นายพิธากล่าวว่า คิดฮอตหลายๆ ตื่นเต้นเหลือเกินที่ได้มาเยี่ยมพ่อแม่พี่น้องชาวขอนแก่น วันนี้มาแบบรวดเดียวจบ 4 เหตุผล ว่าทำไมพี่น้องชาวขอนแก่นต้องเลือกผู้สมัครจากพรรคประชาชน ได้แก่ เหตุผลแรก เป็นเพราะตัวผู้สมัครที่เป็นวิศวกร เป็นนายก อดีต ส.จ.อย่างนู้นอย่างนี้กันมานาน ถึงเวลาที่คนขอนแก่นจะได้บอกว่านายกเป็นวิศวกร ไม่ธรรมดา

นายพิธากล่าวว่า พอได้คุยกับผู้สมัคร ทำให้รู้เลยว่าดีเอ็นเอเป็นคนทำงาน ลงพื้นที่ตลอด 2 ปี เพราะฉะนั้น ขยันถึกทนแน่นอน พิธาฟันธง ย้ำว่ามีข้อดีที่เทศบาลนครขอนแก่นจะได้นายกที่มีความรู้ด้านวิศวกรรม เพราะงบประมาณที่เทศบาลได้มากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ข้าราชการเอามาหลอกให้เซ็นง่ายๆ ไม่ได้ เพราะอ่านแบบเป็น ถือเป็นข้อดีที่เรามีผู้นำเป็นวิศวกร

นายพิธากล่าวต่อว่า เหตุผลข้อสอง ประทับใจนโยบายที่ชัดเจน อยากบอกว่าปัญหาของคนขอนแก่นสามารถแก้ด้วยคนขอนแก่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องซ่อมถนน บริหารขยะ บำบัดน้ำ การสร้างมันสมองของคนให้เข้ามา เรื่องพวกนี้สามารถทำได้แน่นอน

นายพิธาระบุว่า เหตุผลที่สาม เป็นเหตุผลที่พรรคอื่นไม่มี คือถ้าเลือกพรรคประชาชนจะได้ ส.ส.อีก 3 คน มาช่วยทำงานด้วย คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เพราะทำงานกันอย่างไร้รอยต่อ ระหว่างนายกเทศบาลกับ ส.ส.

“ปัญหาของประเทศไทยตอนนี้มี 2 แบบ แบบที่อยู่บนโต๊ะและใต้โต๊ะ ปัญหาที่อยู่บนโต๊ะตอนนี้ทั่วโลกตีกันหมด เราต้องไปเจรจากับเขาบนโต๊ะเจรจาว่าเศรษฐกิจของเราจะเป็นอย่างไร อ้าว กลายเป็นว่าเศรษฐกิจของเราตอนนี้โตช้ากว่าลาว เวียดนาม พม่าแล้วนะ ไม่รู้ว่าเขาแบนผมไป 10 ปี กลับมาประเทศไทยจะอยู่อันดับเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นคุณต้องการรัฐบาลที่แก้ไขปัญหาบนโต๊ะเจรจา และแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นใต้โต๊ะ

ดูตึกถล่มที่ กทม. คนญี่ปุ่นบอกว่าแผ่นดินไหวไม่ตกใจ ตกใจที่คอร์รัปชั่นของบ้านเรานี่แหละ มันแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยจะไปต่อไม่ได้แล้ว ถ้าประชาชนไม่ออกมาร่วมมือ” นายพิธากล่าว

นายพิธากล่าวว่า ส่วนเหตุผลสุดท้ายคือ หากเลือกพรรคประชาชนจะได้พรรตอันดับหนึ่งของประเทศไทยในตอนนี้ แม้จะถูกตัดสิทธิ พรรคประชาชนก็ยังมี ส.ส.เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยอยู่ดี จะได้คนเก่งๆ จากทั่วประเทศไทยมาจัดการ เชื่อว่าคนขอนแก่นมีศักดิ์ศรี ซื้อไม่ได้ แล้วกลับมาฉลองกัน ตนเดินทางหาความรู้ทั่วประเทศ อีก 9 ปี กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดของประเทศไทย

นิติพล แนะรัฐบาลเร่งสืบหาต้นทางโรคแอนแทรกซ์ หวั่นซ้ำรอยอหิวาต์แอฟริกา
https://www.matichon.co.th/politics/news_5167995
.

นิติพล แนะรัฐบาลเร่งสืบหาต้นทางโรคแอนแทรกซ์ หวั่นซ้ำรอยอหิวาต์แอฟริกา

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบพบโรคแอนแทรกซ์ใน จ.มุกดาหาร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย มีผู้ป่วยยืนยันแล้ว 3 ราย เข้าข่ายอีก 3 ราย และมีกลุ่มเสี่ยงรวม 638 รายว่า เป็นสถานการณ์ที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ เพราะหากมีการระบาดเป็นวงกว้างจะส่งผลกระทบในหลายด้าน ทั้งความปลอดภัยต่อสุขภาพประชาชน ความเสี่ยงต่อสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสัตว์เท้ากีบที่อาจตาย หรือเป็นพาหะ ซึ่งหากควบคุมการระบาดไม่ได้จะส่งกระทบต่อเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้านด้วย

นายนิติพล กล่าวต่อว่า ในแง่การควบคุมโรคภายใต้การดูแลของสาธารณสุข จ.มุกดาหาร และกรมควบคุมโรค ไม่ค่อยน่ากังวล เพราะมีดำเนินการอย่างรวดเร็ว มีการตรวจคัดกรองและให้ยาป้องกันกลุ่มเฝ้าระวัง รวมถึงได้ประกาศให้ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร เป็นพื้นที่ควบคุมโรคและประสานจังหวัดใกล้เคียงให้เฝ้าระวังโรคเพิ่มเติมคือ จ.อำนาจเจริญ และจ.กาฬสินธุ์

“สิ่งที่อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญคือ การสืบสวนโรคเพื่อหาต้นทางการระบาดให้ได้โดยเร็ว เพราะข้อมูลจากการสืบสวนโรคเบื้องต้นพบว่า วัวตัวที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อแอนแทรกซ์ในคน ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเลี้ยงในพื้นที่ แต่ไม่ทราบว่านำวัวมาจากไหนก่อนหน้านั้น ต้องสืบทราบให้ได้ว่าเป็นวัวข้ามแดนมาหรือไม่

นายนิติพล กล่าวว่า ตนอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสอบสวนโรค เพื่อหาสาเหตุโดยเร็ว เพราะไม่อยากให้ซ้ำรอยกรณี ASF หรืออหิวาต์แอฟริการะบาดในหมู ที่ปล่อยให้มีการลักลอบขนย้ายเนื้อหมูข้ามพื้นที่จนเกิดการระบาดครั้งใหญ่ สร้างความเสียหายให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูอย่างร้ายแรง ซึ่งหลายรายยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้จนถึงปัจจุบัน ดังนั้น รัฐบาลต้องไม่มองการพบเชื้อแอนแทรกซ์เป็นเรื่องเล็ก เพราะอาจเป็นร่องรอยก่อนเกิดการระบาดวงกว้างได้

เดือดอีก คนร้ายลอบวางระเบิด ตร.นราธิวาส อาการสาหัส 1 ใน 3 ราย เสียชีวิตแล้ว

https://www.thairath.co.th/news/local/south/2856430

คนร้ายซุกระเบิดกล้องวงจรปิดในพื้นที่ อ.จะแนะ ทำตำรวจชุดสืบสวนคดีความมั่นคง กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ล่าสุดเสียชีวิต 1 ศพ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 พ.ค.68 พ.ต.อ.วีระศักดิ์ เพอแสละ ผกก.สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่กล่องป้องกันกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้า บริเวณสามแยกริมถนนในหมู่บ้านไอร์ลาฆอ ซึ่งเป็นบ้านย่อยของบ้านไอร์โซ ม.5 ต.ช้างเผือก ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคดีความมั่นคง กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จึงพร้อมด้วยนายมนชัย จิตกมลกานต์ ปลัดอาวุโส อ.จะแนะ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าวมีบันไดอลูมิเนียมวางพาดอยู่ ส่วนตัวกล่องที่ป้องกันกล้องวงจรปิดอยู่สูงจากพื้นประมาณ 3 เมตร ถูกอนุภาพของระเบิดแตกกระจาย พร้อมกองเลือดจำนวนหนึ่ง รวมทั้งเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง ที่ไม่ทราบภาชนะบรรจุและตัวจุดชนวนตกกระจายเกลื่อน เจ้าหน้าที่จึงได้กันพื้นที่ไว้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากทัศนวิสัยไม่เอื้ออำนวยมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อนตำรวจได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลจะแนะไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อ คือ 1. ส.ต.ท.ภคพงศ์ สุวรรณชะนะ ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณใบหน้าและข้อมือซ้าย อาการสาหัส 2. ด.ต.สาธิต คำแหง ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ และ 3. ส.ต.ท.ธีปกร ชูสิงห์ ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาขวา เมื่อแพทย์ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ได้ส่งต่อรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 8 นาย เดินทางไปยังพื้นที่ อ.จะแนะ เพื่อไปเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในคดีคนร้ายใช้อาวุธปืน ขนาด 9 ม.ม.ตามประกอบยิงนางสง่า แสงย้อย อายุ 76 ปี ซึ่งเป็นหญิงชราตาบอดเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายทัศไนย์ ตั้งคง ซึ่งเป็นบุตรชายได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านไอร์บือแต ม.4 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 2 พ.ค.68 ที่ผ่านมา

โดย ส.ต.ท.ภคพงศ์ ได้เป็นคนปีนขึ้นไปบนเสา เพื่อไปเอาเมมโมรี่การ์ด ที่เนื่องจากศูนย์ CCTV เกิดขัดข้องไม่สามารถเปิดใช้งานได้ และระหว่างที่ ส.ต.ท.ภคพงศ์ กำลังเอื้อมมือไปเปิดกล่องป้องกันกล้องวงจรปิด ก็ได้เกิดระเบิดขึ้นทันที ทำให้ตัวกล่องป้องกันกล้องวงจรปิดแตกกระจาย ส่วนเสาไฟฟ้ามีรอยร้าว และทำให้ ส.ต.ท.ภคพงศ์, ด.ต.สาธิต และ ส.ต.ท.ธีปกร ยืนถือบันไดอยู่ด้านล่างได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ละแวกใกล้กันสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ เพื่อขยายผลไปสู่ผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป

ล่าสุด มีรายงานความคืบหน้า ส.ต.ท.ภคพงศ์ สุวรรณชะนะ ซึ่งปีนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าเพื่อไปเอาเมมโมรี่การ์ด เนื่องจากศูนย์ CCTV เกิดขัดข้องไม่สามารถเปิดใช้งานได้ ถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณใบหน้าและข้อมือซ้าย อาการสาหัส ได้ถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลจะแนะ ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ได้เสียชีวิตลงแล้วอย่างสงบ.

.
จับตาเฟดคงดอกเบี้ย 6-7 พ.ค. มีแนวโน้มลดลง หลังเศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอ
https://www.dailynews.co.th/news/4673824/
.
จับตาประชุม FED คาดคงดอกเบี้ย ในรอบนี้ 6-7 พ.ค. แต่มีแนวโน้มปรับลด 3 ครั้งจากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว
.
“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ประเมินในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) วันที่ 6-7 พ.ค. ซึ่งเป็นรอบที่ 3 จากทั้งหมด 8 รอบในปีนี้ คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ระดับ 4.25-4.50% เพื่อรอดูผลกระทบจากมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง
.
นอกจากนี้ คาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ จากเศรษฐกิจสหรัฐ มีแนวโน้มชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญจากผลกระทบที่ชัดเจนขึ้นของการปรับขึ้นภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ (Reciprocal tariffs) หลังการชะลอการปรับขึ้นภาษีฯ สิ้นสุดลง
.
ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ในไตรมาส 1/2568 ที่ออกมาเบื้องต้นหดตัวที่ -0.3% (Annualized %QoQ, s.a.) สะท้อนความเปราะบางของเศรษฐกิจสหรัฐ ที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค (Technical recession) ในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้ามีความรุนแรง ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ตลาดแรงงานมีความเสี่ยงที่จะชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญในระยะข้างหน้า