'นิด้าโพล' เผย คนใต้มองเหตุไฟใต้แย่ ชี้รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ42%
https://www.bangkokbiznews.com/politics/1178825
.
.
"นิด้าโพล" เผยผลสำรวจ คน3จังหวัดใต้ มองเหตุความรุนแรงในพื้นที่แย่เหมือนเดิม 33.45% พร้อมมองรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญแก้ไข 42.36%
.
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้าโพล) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “2 ทศวรรษ แก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้” สำรวจระหว่างวันที่ 28-30 เม.ย. 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,100 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับสถานการณ์ความปลอดภัยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
.
นิด้าโพล ถามถึงสถานการณ์ความปลอดภัยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พบว่า 33.45% ระบุว่า สถานการณ์แย่เหมือนเดิม
.
รองลงมา 20.36% ระบุว่า สถานการณ์ดีเหมือนเดิม 18.55% ระบุว่า สถานการณ์ค่อนข้างดีขึ้น 14.64% ระบุว่า สถานการณ์ค่อนข้างแย่ลง 10% ระบุว่า สถานการณ์แย่ลงมาก ขณะที่ 3% ระบุว่า สถานการณ์ดีขึ้นมาก
.
ด้านการพัฒนาความเจริญในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พบว่า 42.18% ระบุว่า การพัฒนาค่อนข้างดีขึ้น
รองลงมา 37.45% ระบุว่า ไม่ค่อยมีการพัฒนาเท่าไร 14.55% ระบุว่า ไม่มีการพัฒนาเลย และ5.82% ระบุว่า การพัฒนาดีขึ้นมาก
.
ด้านความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พบว่า 33.55% ระบุว่า ความสัมพันธ์ดีเหมือนเดิม
.
รองลงมา 30.64% ระบุว่า ความสัมพันธ์ค่อนข้างดีขึ้น 19.91% ระบุว่า ความสัมพันธ์แย่เหมือนเดิม 7.09% ระบุว่า ความสัมพันธ์ค่อนข้างแย่ลง 5.64% ระบุว่า ความสัมพันธ์ดีขึ้นมาก 3% ระบุว่า ความสัมพันธ์แย่ลงมาก
.
สำหรับการให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล พบว่า 42.36% ระบุว่า ไม่ค่อยให้ความสำคัญ
.
รองลงมา 31.82% ระบุว่า ไม่ให้ความสำคัญเลย 18.82% ระบุว่า ค่อนข้างให้ความสำคัญ 5.91% ระบุว่า ให้ความสำคัญมาก
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการให้ความสำคัญกับนโยบายการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้กับการตัดสินใจลงคะแนนเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไป พบว่า 47.55% ระบุว่า ให้ความสำคัญมาก
.
รองลงมา 27.36% ระบุว่า ค่อนข้างให้ความสำคัญ 15.55% ระบุว่า ไม่ค่อยให้ความสำคัญ 9.18% ระบุว่า ไม่ให้ความสำคัญเลย
.
.
อ.พวงทอง เปิดภาพศาลาแก้ว สภาหมื่นล้าน เผยตั้งแต่เปิดไม่เคยใช้ แต่ของบ 113 ล้านปรับปรุง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5167368
.
อ.พวงทอง เปิดภาพศาลาแก้ว สภาหมื่นล้าน เผยตั้งแต่เปิดไม่เคยใช้ แต่ของบ 113 ล้านปรับปรุง
.
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก
Puangthong Pawakapan เป็นภาพของศาลาแก้ว ซึ่งตั้งอยู่หน้าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมข้อความที่ระบุว่า นับตั้งแต่เปิดสภามา ศาลาแก้วแห่งนี้ ก็ยังไม่เคยไดใช้งานจริง เนื่องจากร้อนมาก แต่กระนั้นก็กำลังมีการขอเงินอีก 113 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงศาลาแก้วแห่งนี้
.
โดยมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บางคนก็บอกว่า เป็นงานอาร์ตเอาไว้โชว์ไม่ได้เอาไว้ใช้ บางคนก็บอกว่า เป็นการผลาญงบประมาณ บ้างก็แซซว่า เอาไว้ปลูกผักเมืองร้อน เหมาะกับการตากกล้วย ปลาเค็ม.
.
.
อสังหากทม. ปริมณฑล หดตัวต่อเนื่อง สต๊อกท่วมตลาด คาดปี 2568 เปิดใหม่ 5 แสนล้าน
https://www.matichon.co.th/economy/news_5167277
.
อสังหากทม. ปริมณฑล หดตัวต่อเนื่อง สต๊อกท่วมตลาด คาดปี 2568 เปิดใหม่ 5 แสนล้าน
.
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) รายงานสถานการณ์ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ปี 2567 มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ 62,771 หน่วย ลดลงร้อยละ34.9 และด้านมูลค่าโครงการรวม 500,957 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.2 เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีจำนวน 96,457 หน่วย และมีมูลค่า 597,478 ล้านบาท
.
เมื่อพิจารณาแยกตามประเภท พบว่า บ้านจัดสรรเปิดตัวใหม่ มีจำนวนรวม 32,961 หน่วย ลดลงร้อยละ 32.5 มูลค่ารวม 337,218 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.0 เมื่อเทียบกับปี 2566 ส่วนโครงการอาคารชุด มีจำนวนรวม 29,810 หน่วย ลดลงร้อยละ 37.4 มูลค่ารวม 163,739 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.4 เมื่อเทียบกับปี 2566
.
5 ทำเลบ้าน-คอนโดฯเปิดตัวมากสุดปี 2567
.
ทำเลทีมีโครงการบ้านจัดสรรเปิดตัวใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก
1.เมืองปทุมธานี ลาดหลุมแก้ว สามโคก จำนวน 4,261 หน่วย มูลค่า 23,286 ล้านบาท ราคา 3-5 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว
2.บางใหญ่ บางบัวทอง บางกรวย ไทรน้อย จำนวน 4,192 หน่วย มูลค่า 30,635 ล้านบาท ราคา 5-7.50 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว
3.ลำลูกกา ธัญบุรี จำนวน 3,090 หน่วย มูลค่า 21,905 ล้านบาท ราคา 3-5 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว
4.บางพลี บางบ่อ บางเสาธง จำนว 2,714 หน่วย มูลค่า 39,183 ล้านบาท ราคา 5-7.50 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว
5.เมืองนนทบุรี ปากเกร็ด จำนวน 2,604 หน่วย มูลค่า 41,113 ล้านบาท ราคา 5-7.50 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว
.
ทำเลที่มีโครงการอาคารชุดเปิดตัวใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก
.
1.ห้วยขวาง จตุจักร ดินแดง จำนวน 5,893 หน่วย มูลค่า 28,699 ล้านบาท ราคา 3-5 ล้านบาท ขนาด 1 ห้องนอน
2.คลองหลวง จำนวน 3,461 หน่วย มูลค่า 7,723 ล้านบาท ราคา 2-3 ล้านบาท ขนาด 1 ห้องนอน
3.ธนบุรี คลองหลวง บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ บางพลัด จำนวน 2,323 หน่วย มูลค่า 9,382 ล้านบาท ราคา 3-5 ล้านบาท ขนาด 1 ห้องนอน
4.คลองสามวา มีนบุรี ลาดกระบัง จำนวน 1,879 หน่วย มูลค่า 3,282 ล้านบาท ราคา 1-1.5 ล้านบาท ขนาด 1 ห้องนอน
5.บางซื่อ ดุสิต จำนวน 1,823 หน่วย มูลค่า 9,355 ล้านบาท ราคา 2-3 ล้านบาท ขนาด 1 ห้องนอน
แนวโน้มปี 2568 คาดว่า จะมีจำนวน 73,291 หน่วย โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 62,298 ถึง 76,956 หน่วย หรือมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างร้อยละ -0.8 ถึง ร้อยละ 22.6 เมื่อเทียบกับปี 2567 และคาดว่ามีมูลค่า 519,692 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 441,738 ถึง 574,260 หน่วย หรือมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างร้อยละ –11.8 ถึง ร้อยละ 14.6 เมื่อเทียบกับปี 2567
.
สร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ร่วงทุกจังหวัด
.
สำหรับภาพรวมปี 2567 มีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่จำนวน 96,587 หน่วยลดลงร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งมีจำนวน 99,370 หน่วย เป็นผลมาจากการลดลงของบ้านจัดสรรและบ้านที่ประชาชนสร้างเองร้อยละ22.4 ขณะที่อาคารชุดเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.9
.
และพบว่าที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ลดลงเกือบทุกจังหวัด โดยนนทบุรีเป็นจังหวัดที่ลดลงมากที่สุดร้อยละ 23.1 รองลงมาสมุทรปราการ และนครปฐม ลดลงร้อยละ 12.2 และร้อยละ 8.9 ตามลำดับ ขณะที่จังหวัดที่มีที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนเพิ่มขึ้นมีเพียงปทุมธานีและกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.2 และร้อยละ 2.5 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับ 2566
.
แนวโน้มในปี 2568 คาดว่าจะมีจำนวน 98,224 หน่วย โดยเป็นบ้านจัดสรร 47,148 หน่วย หรือมีสัดส่วนร้อยละ 48.0 และเป็นอาคารชุด 51,077 หน่วย สัดส่วนร้อยละ 52.0 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 88,402 ถึง 108,047 หน่วย หรือจะมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างร้อยละ –8.5 ถึงร้อยละ 11.9 เมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งมีจำนวน 96,587 หน่วย
.
ยอดโอนคอนโด-บ้านราคาแพงลดลง
.
ส่วนภาพรวมหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลในปี 2567 รวมทั้งสิ้น 171,093 หน่วย ลดลงร้อยละ 3.8 โดยอาคารชุดมีจำนวน 85,770 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 ซึ่งการเพิ่มขึ้นนี้มาจากการโอนอาคารชุดที่มีราคาไม่เกิน 7.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 จากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์
.
ขณะที่แนวราบมีจำนวน 85,323 หน่วย ลดลงร้อยละ 12.9 เป็นการลดทุกระดับราคา ด้านมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย รวมทั้งสิ้น 592,784 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.5 โดยมูลค่าการโอนอาคารชุดมีจำนวน 227,455 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.0 เป็นการลดลงจากการโอนอาคารชุดในราคามากกว่า 7.00 ล้านบาทขึ้นไป แต่สำหรับวงเงินไม่เกิน 7.00 ล้านบาท ตามมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ กลับมีมูลค่าการโอนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 แนวราบมีมูลค่าการโอน 365,329 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8.5 โดยลดลงเกือบทุกระดับราคา ยกเว้นกลุ่มระดับราคาที่มากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป มีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8
.
สมุทรปราการหน่วยโอนวูบ-นครปฐมมูลค่าพุ่ง
.
เมื่อพิจารณาเป็นรายจังหวัด พบว่า การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล มีจำนวนลดลงเกือบทุกจังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร ลดลงร้อยละ 14.3, นนทบุรี ลดลงร้อยละ 7.5, กรุงเทพฯลดลงร้อยละ 4.6 และสมุทรปราการ ลดลงร้อยละ 3.8 มีเพียง 2 จังหวัดที่มีจำนวนโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น ได้แก่ ปทุมธานี เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 และนครปฐม เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 ส่วนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ลดลงเกือบทุกจังหวัด ยกเว้น นครปฐมที่มีมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับปี 2566
.
‘บ้านมือสอง’โอนคึกคักกว่า’บ้านใหม่’
.
ทั้งนี้ยังพบการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ (หรือที่อยู่อาศัยที่โอนจากนิติบุคคล) มีจำนวน 81,580 หน่วย ลดลงร้อยละ 7.5และมีมูลค่า 377,351 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 0.1 ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสอง (ที่อยู่อาศัยที่โอนจากบุคคลธรรมดา) มีจำนวน 89,513 หน่วย ลดลงร้อยละ 9.1 และมีมูลค่า 215,433 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.4 ทำให้สัดส่วนจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ของที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ต่อที่อยู่อาศัยมือสอง ในปี 2567 เท่ากับ 48 : 52 ในขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ มีสัดส่วน 64 : 36
.
สำหรับแนวโน้มการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในปี 2568 คาดว่า จะมีจำนวน 173,453 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 มีช่วงคาดการณ์ที่ 164,780 ถึง 187,329 หน่วย โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างร้อยละ –3.7 ถึงร้อยละ 9.5 เมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งมีจำนวน 171,093 หน่วย และคาดว่าจะมีมูลค่า 599,888 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 569,894 ถึง 647,879 ล้านบาท โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างร้อยละ –3.9 ถึงร้อยละ 9.3 เมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งมีมูลค่า 592,784 ล้านบาท
JJNY : 'นิด้าโพล'เผย คนใต้มองเหตุไฟใต้แย่│อ.พวงทอง เปิดภาพศาลาแก้ว│อสังหากทม. ปริมณฑล หดตัวต่อเนื่อง│ไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง
.
.
อ.พวงทอง เปิดภาพศาลาแก้ว สภาหมื่นล้าน เผยตั้งแต่เปิดไม่เคยใช้ แต่ของบ 113 ล้านปรับปรุง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5167368
.
.
อสังหากทม. ปริมณฑล หดตัวต่อเนื่อง สต๊อกท่วมตลาด คาดปี 2568 เปิดใหม่ 5 แสนล้าน
https://www.matichon.co.th/economy/news_5167277
.
1.เมืองปทุมธานี ลาดหลุมแก้ว สามโคก จำนวน 4,261 หน่วย มูลค่า 23,286 ล้านบาท ราคา 3-5 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว
2.บางใหญ่ บางบัวทอง บางกรวย ไทรน้อย จำนวน 4,192 หน่วย มูลค่า 30,635 ล้านบาท ราคา 5-7.50 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว
3.ลำลูกกา ธัญบุรี จำนวน 3,090 หน่วย มูลค่า 21,905 ล้านบาท ราคา 3-5 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว
4.บางพลี บางบ่อ บางเสาธง จำนว 2,714 หน่วย มูลค่า 39,183 ล้านบาท ราคา 5-7.50 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว
5.เมืองนนทบุรี ปากเกร็ด จำนวน 2,604 หน่วย มูลค่า 41,113 ล้านบาท ราคา 5-7.50 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว
2.คลองหลวง จำนวน 3,461 หน่วย มูลค่า 7,723 ล้านบาท ราคา 2-3 ล้านบาท ขนาด 1 ห้องนอน
3.ธนบุรี คลองหลวง บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ บางพลัด จำนวน 2,323 หน่วย มูลค่า 9,382 ล้านบาท ราคา 3-5 ล้านบาท ขนาด 1 ห้องนอน
4.คลองสามวา มีนบุรี ลาดกระบัง จำนวน 1,879 หน่วย มูลค่า 3,282 ล้านบาท ราคา 1-1.5 ล้านบาท ขนาด 1 ห้องนอน
5.บางซื่อ ดุสิต จำนวน 1,823 หน่วย มูลค่า 9,355 ล้านบาท ราคา 2-3 ล้านบาท ขนาด 1 ห้องนอน