distrokid เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายเพลงไปยัง app streaming ต่างๆ
คำถามที่พบบ่อย
1.หากหยุดจ่ายค่าบริการเพลงจะถูกลบออกไหม
-ตอบ.ใช่เพลงของคุณจะถูกลบออกทุก streaming หากคุณหยุดจ่ายค่าบริการรายปีหรือบัตรเครดิต,เดบิต,และมาสเตอร์การ์ดปฏิเสธเพลงที่ถูกส่งออกไปจะเริ่มถูกถอนออกทั้งหมด
1.1 แล้วมีวิธีแก้ปัญหาเพื่อให้เพลงอยู่ถาวรไหมแม้ว่าเราจะหยุดจ่ายค่าบริการไปแล้ว
-ตอบ ไช่ มีวิธีแก้ปัญหาแน่นอนวิธีแก้ปัญหาคือซื้อฟีเจอร์ Leave a Legacy ฟีเจอร์นี้เราจะต้องซื้อต่อเพลงเท่านั้นหากคุณไม่ได้ซื้อฟีเจอร์นี้ทุกๆเพลง เพลงจะอยู่บน app streaming เฉพาะเพลงที่คุณจ่ายฟีเจอร์นี้เท่านั้นซึ่งเมื่อคุณซื้อฟีเจอร์นี้เพลงของคุณก็จะอยู่บนแอป streaming ทุกแอปแบบถาวร(จ่ายครั้งเดียว) เเต่คุณจะต้องซื้อแยกอีกทีในเพลง มันไม่ได้รวมมากับค่าบริการรายปีซึ่งถ้าอยากให้เพลงของคุณอยู่แบบถาวรคุณจะต้องกดซื้อฟีเจอร์นี้ทีละเพลงเพลงละกี่บาทก็ว่ากันไปแล้วแต่ณปัจจุบัน
2. เเล้วฟีเจอร์Leave a Legacyคืออะไร
-ตอบ Leave a Legacy จะช่วยให้เพลงของคุณยังคงอยู่บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง (เช่น Spotify, Apple Music) แม้คุณจะหยุดชำระค่าบริการรายปีให้กับ DistroKid ฟีเจอร์ "Leave a Legacy" ของ DistroKid จะต้องจ่ายแยก $29.99 ต่อเพลง เพื่อให้เพลงนั้นอยู่บนแอปสตรีมมิ่งถาวร แม้จะหยุดจ่ายค่าบริการรายปีแล้ว
3.distrokid แตกต่างจากผู้จัดจำหน่ายอื่นยังไง
-ตอบ: แน่นอนสิแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดมีเครื่องมือสำหรับศิลปินแบบมืออาชีพให้เลือกหลากหลายมากขึ้นและสามารถขอเครื่องหมายศิลปินบน tiktok instagram และ facebook แล้วสิ่งที่น่าทึ่งคุณสามารถอัพโหลด music video ผ่าน VEVO ได้ด้วยซึ่งคุณเสีย99 เหรียญต่อปี
และการส่งเพลงทำเรื่องให้เราก็จะรวดเร็วมากขึ้น หากใครอยากเป็นมืออาชีพแล้วต้องการทำอะไรเยอะๆแนะนำให้ใช้distrokid
มีประสบการณ์ใช้ distrokid เเละ Tune core
หาข้อมูลผิดพลาดต้องขออภัยมาณที่นี้
หากมีข้อมูลที่จะสอบถามเพิ่มเติมเราจะตอบกลับ
distrokid ดียังไง ควรใช้รึป่าว แล้วถ้าเราไม่จ่ายรายปีเพลงจะถูกลบออกหรือไม่
คำถามที่พบบ่อย
1.หากหยุดจ่ายค่าบริการเพลงจะถูกลบออกไหม
-ตอบ.ใช่เพลงของคุณจะถูกลบออกทุก streaming หากคุณหยุดจ่ายค่าบริการรายปีหรือบัตรเครดิต,เดบิต,และมาสเตอร์การ์ดปฏิเสธเพลงที่ถูกส่งออกไปจะเริ่มถูกถอนออกทั้งหมด
1.1 แล้วมีวิธีแก้ปัญหาเพื่อให้เพลงอยู่ถาวรไหมแม้ว่าเราจะหยุดจ่ายค่าบริการไปแล้ว
-ตอบ ไช่ มีวิธีแก้ปัญหาแน่นอนวิธีแก้ปัญหาคือซื้อฟีเจอร์ Leave a Legacy ฟีเจอร์นี้เราจะต้องซื้อต่อเพลงเท่านั้นหากคุณไม่ได้ซื้อฟีเจอร์นี้ทุกๆเพลง เพลงจะอยู่บน app streaming เฉพาะเพลงที่คุณจ่ายฟีเจอร์นี้เท่านั้นซึ่งเมื่อคุณซื้อฟีเจอร์นี้เพลงของคุณก็จะอยู่บนแอป streaming ทุกแอปแบบถาวร(จ่ายครั้งเดียว) เเต่คุณจะต้องซื้อแยกอีกทีในเพลง มันไม่ได้รวมมากับค่าบริการรายปีซึ่งถ้าอยากให้เพลงของคุณอยู่แบบถาวรคุณจะต้องกดซื้อฟีเจอร์นี้ทีละเพลงเพลงละกี่บาทก็ว่ากันไปแล้วแต่ณปัจจุบัน
2. เเล้วฟีเจอร์Leave a Legacyคืออะไร
-ตอบ Leave a Legacy จะช่วยให้เพลงของคุณยังคงอยู่บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง (เช่น Spotify, Apple Music) แม้คุณจะหยุดชำระค่าบริการรายปีให้กับ DistroKid ฟีเจอร์ "Leave a Legacy" ของ DistroKid จะต้องจ่ายแยก $29.99 ต่อเพลง เพื่อให้เพลงนั้นอยู่บนแอปสตรีมมิ่งถาวร แม้จะหยุดจ่ายค่าบริการรายปีแล้ว
3.distrokid แตกต่างจากผู้จัดจำหน่ายอื่นยังไง
-ตอบ: แน่นอนสิแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดมีเครื่องมือสำหรับศิลปินแบบมืออาชีพให้เลือกหลากหลายมากขึ้นและสามารถขอเครื่องหมายศิลปินบน tiktok instagram และ facebook แล้วสิ่งที่น่าทึ่งคุณสามารถอัพโหลด music video ผ่าน VEVO ได้ด้วยซึ่งคุณเสีย99 เหรียญต่อปี
และการส่งเพลงทำเรื่องให้เราก็จะรวดเร็วมากขึ้น หากใครอยากเป็นมืออาชีพแล้วต้องการทำอะไรเยอะๆแนะนำให้ใช้distrokid
มีประสบการณ์ใช้ distrokid เเละ Tune core
หาข้อมูลผิดพลาดต้องขออภัยมาณที่นี้
หากมีข้อมูลที่จะสอบถามเพิ่มเติมเราจะตอบกลับ