ร้านอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ควรจะซีเรียสไหมครับ ถ้าคนเช่าขายอาหารบางอย่างเหมือนกัน

ก่อนโควิด คนเช่าอยู่กันยาวครับ ไม่ค่อยย้ายออก

หลังโควิดมานี่ เป็นช่วงขาลงของการเช่าครับ ก็ไม่รู้ว่าสาเหตุจริงๆ มันเกิดจากอะไรกันแน่
คือ คนเช่าไม่ค่อยมีลูกค้าเข้า พอลูกค้าไม่เข้า เขาก็อยู่ได้ไม่นานครับ อยู่ได้แค่ สองสามเดือน ครึ่งปี ปีนึง แล้วก็ไป บางทีก็ว่าง (เพราะไม่มีคนเช่า)
และคนเช่ามากกว่า 50% มักก่อ/ทิ้งปัญหา มากน้อยแตกต่างกันไป (แล้วแต่ว่าผมจะซวยมากหรือน้อย)

ตอนนี้ ผมทำได้แค่ประคองสถานการณ์ให้มีคนเช่าอยู่ครับ ลดค่าเช่าก็แล้ว แกล้งไม่เห็นก็แล้ว (หมายถึง กฏระเบียบไม่เคร่งครัดเลย แต่ก็แลกกับความเละเทะบางอย่าง)

ตอนนี้ปัญหามันมาแบบนี้ครับ
คือ ตอนนี้มีคนเช่าอยู่ 2 ร้านครับ (อยู่ในพื้นที่เดียวกัน)

ร้าน A
คนเช่าร้าน A เกือบทุกราย จะขายอาหารแนวร้านข้าวต้มบ้านๆ (พวกเมนูกับข้าวตามสั่ง) เปิดช่วงเย็น ถึงประมาณเที่ยงคืน
ถ้าเทียบกับคนเช่าก่อนโควิด ถือว่าลูกค้าน้อยกว่าแต่ก่อนเยอะ
แต่เขาก็ยังมีลูกค้าเข้าเรื่อยๆ ให้พออยู่ได้
ภาพรวมจ่ายค่าเช่าผมค่อนข้างช้าเป็นอาทิตย์ (ผมทวงเบื่อมาก)
ผมยังคิดอยู่เลยว่าวันใดวันนึงเขาอยู่ไม่ได้ เขาจะไปวันไหน


ร้าน B
พท.เล็กกว่าร้าน A ค่าเช่าก็เลยถูกกว่าประมาณ 30% มาทีหลังร้าน A ประมาณ 3 เดือน
ตอนแรกเขาขายแนวอาหารอีสาน
แต่ตอนหลังเริ่มขายแนวร้าน A
ภาพรวมจ่ายค่าเช่าค่อนข้างตรงเวลา

ร้าน A โทรมาคุยกับผมบอกว่า ร้าน B นอกจากจะขายอาหารอีสานแล้ว ตอนนี้ขายอาหารเหมือนเขาด้วย
แล้วเขาก็โทษร้าน B ว่าแย่งลูกค้าร้านเขา ทำให้เขารายได้น้อยลง
ตอนแรกเขายังอยู่ได้ แต่ถ้านานไปเขาจะอยู่ไม่ได้

ผมก็เลยบอกให้ใจเย็นๆ เดี๋ยวผมลองคุยให้ แต่ไม่รับปากนะ เขาก็วางหูไป
แต่ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าผมจะคุยยังไง

ปล. ในสัญญาเช่า ไม่มีระบุ ห้ามประเภทอาหารครับ

รบกวนถามครับ
ร้านอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ควรจะซีเรียสไหมครับ ถ้าคนเช่าขายอาหารบางอย่างเหมือนกัน
ที่ถูกต้องควรบอกร้าน A กับ ร้าน B อย่างไรดีครับ ที่แฟร์กับทั้ง 3 ฝ่าย และฟังแล้วไม่รู้สึกแย่ทั้ง 3 ฝ่าย
( 3 ฝ่าย คือ ผม, คนเช่า A, คนเช่า B)

ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่