ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าความมั่นใจของคนที่ยังอ่านจับใจความไม่ได้ แต่รีบแสดงความเห็นก่อนใคร
เชิญท่านผู้รอบรู้ประจำแป้นพิมพ์
ในโลกยุคดิจิทัลนี้ ช่างเป็นโชคดีของแผ่นดิน ที่เรามีบุคคลผู้เปี่ยมด้วยภูมิปัญญารอบทิศ
รู้ทุกศาสตร์ตั้งแต่น้ำเต้าหู้ยันนิวเคลียร์ จากวิชาคำนวณจนถึงคำครูบาอาจารย์
ท่านเหล่านี้มักออกมาแสดงธรรมเทศนา ณ ช่องแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ดาษดื่น
บางท่านแม้จะใช้ภาษาสะกดผิดเพี้ยนดั่งเด็กอนุบาลลองเขียนเรียงความ
แต่ความมั่นใจในตัวอักษรนั้นยิ่งใหญ่ดุจท้าวเวสสุวรรณจำแลง
ท่านไม่เพียงแต่แสดงความคิดเห็น หากแต่แสดง ความเหนือกว่า อย่างแนบเนียน
พร้อมสอดแทรกความเข้าใจผิดในภาษาไทยจนผู้พบเห็นถึงกับสะอึก ด้วยความกลัวว่าสติปัญญาจะสูญสิ้นตามความเห็นนั้นไปด้วย
บางครา ข้อความของท่านเต็มไปด้วยสาระแน จับฉ่ายปนมั่ว โดยไม่จำเป็นต้องมีใครเชื้อเชิญ
ท่านก็ยินดีพิมพ์คำอวดรู้ลงไปด้วยความภาคภูมิว่า ข้าพเจ้าคือกูรู ตัวพ่อ ของปวงชน
ทั้งที่เนื้อหาโดยแท้กลับบ่งบอกชัดว่า ยังอ่านจับใจความไม่แตก และยังไม่ทันเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดด้วยซ้ำ
กระนั้นก็ดี ขอแสดงความชื่นชมในความกล้าหาญของท่าน ที่พร้อมแบกอีโก้ใหญ่โตเดินเข้าสมรภูมิความคิดเห็น
โดยปราศจากเกราะแห่งเหตุผล ท่านช่างเป็นนักรบแห่งโลกไซเบอร์ ผู้ถือดาบคือคีย์บอร์ด และโล่คือความเข้าใจผิดของตนเอง
ขอท่านได้โปรดเข้าใจว่า โลกนี้มีพื้นที่ให้ทุกคนเรียนรู้ได้เสมอ แต่มีไม่กี่คนหรอกครับ ที่กล้ายอมรับว่า ตนเองยังไม่รู้
หากท่านใดรู้สึกแปล๊บๆ ระคายเคือง เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ก็อย่าเพิ่งโกรธเคืองเลยนะขอรับ
อาการเจ็บนั้น อาจเป็นเพียงผลสะท้อนของความจริงที่มาแตะปลายใจเบาๆ เท่านั้นเอง
ว่ากันว่า...คนที่คิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่าง มักเป็นคนสุดท้ายที่รู้ว่าคนอื่นกำลังพูดถึงเขาอยู่
ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าความมั่นใจของคนที่ยังอ่านจับใจความไม่ได้ แต่รีบแสดงความเห็นก่อนใคร
โลกใบนี้ยังไม่เคยหมุนเร็วขึ้นเพราะคำคอมเมนต์ของท่านเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ส่วนท่านผู้เปี่ยมด้วยดวงตาแห่งความหวังดี และโลกสวย ที่ยังมองไม่เห็นสาระในบทความนี้
ท้ายที่สุดนี้ หากท่านใดรู้สึกกระวนกระวาย อยากจะทักท้วงทุกประโยค ก็คงไม่แปลก เพราะบางท่านมิได้อ่านเพื่อเข้าใจ หากแต่อ่านเพื่อรอคัดค้าน
โลกจะเงียบสงบเพียงใด หากผู้รู้ระดับจักรวาล...ยอมพักนิ้วสักวัน
เชิญท่านผู้รอบรู้ประจำแป้นพิมพ์
ในโลกยุคดิจิทัลนี้ ช่างเป็นโชคดีของแผ่นดิน ที่เรามีบุคคลผู้เปี่ยมด้วยภูมิปัญญารอบทิศ
รู้ทุกศาสตร์ตั้งแต่น้ำเต้าหู้ยันนิวเคลียร์ จากวิชาคำนวณจนถึงคำครูบาอาจารย์
ท่านเหล่านี้มักออกมาแสดงธรรมเทศนา ณ ช่องแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์ดาษดื่น
บางท่านแม้จะใช้ภาษาสะกดผิดเพี้ยนดั่งเด็กอนุบาลลองเขียนเรียงความ
แต่ความมั่นใจในตัวอักษรนั้นยิ่งใหญ่ดุจท้าวเวสสุวรรณจำแลง
ท่านไม่เพียงแต่แสดงความคิดเห็น หากแต่แสดง ความเหนือกว่า อย่างแนบเนียน
พร้อมสอดแทรกความเข้าใจผิดในภาษาไทยจนผู้พบเห็นถึงกับสะอึก ด้วยความกลัวว่าสติปัญญาจะสูญสิ้นตามความเห็นนั้นไปด้วย
บางครา ข้อความของท่านเต็มไปด้วยสาระแน จับฉ่ายปนมั่ว โดยไม่จำเป็นต้องมีใครเชื้อเชิญ
ท่านก็ยินดีพิมพ์คำอวดรู้ลงไปด้วยความภาคภูมิว่า ข้าพเจ้าคือกูรู ตัวพ่อ ของปวงชน
ทั้งที่เนื้อหาโดยแท้กลับบ่งบอกชัดว่า ยังอ่านจับใจความไม่แตก และยังไม่ทันเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดด้วยซ้ำ
กระนั้นก็ดี ขอแสดงความชื่นชมในความกล้าหาญของท่าน ที่พร้อมแบกอีโก้ใหญ่โตเดินเข้าสมรภูมิความคิดเห็น
โดยปราศจากเกราะแห่งเหตุผล ท่านช่างเป็นนักรบแห่งโลกไซเบอร์ ผู้ถือดาบคือคีย์บอร์ด และโล่คือความเข้าใจผิดของตนเอง
ขอท่านได้โปรดเข้าใจว่า โลกนี้มีพื้นที่ให้ทุกคนเรียนรู้ได้เสมอ แต่มีไม่กี่คนหรอกครับ ที่กล้ายอมรับว่า ตนเองยังไม่รู้
หากท่านใดรู้สึกแปล๊บๆ ระคายเคือง เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ก็อย่าเพิ่งโกรธเคืองเลยนะขอรับ
อาการเจ็บนั้น อาจเป็นเพียงผลสะท้อนของความจริงที่มาแตะปลายใจเบาๆ เท่านั้นเอง
ว่ากันว่า...คนที่คิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่าง มักเป็นคนสุดท้ายที่รู้ว่าคนอื่นกำลังพูดถึงเขาอยู่
ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าความมั่นใจของคนที่ยังอ่านจับใจความไม่ได้ แต่รีบแสดงความเห็นก่อนใคร
โลกใบนี้ยังไม่เคยหมุนเร็วขึ้นเพราะคำคอมเมนต์ของท่านเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ส่วนท่านผู้เปี่ยมด้วยดวงตาแห่งความหวังดี และโลกสวย ที่ยังมองไม่เห็นสาระในบทความนี้
ท้ายที่สุดนี้ หากท่านใดรู้สึกกระวนกระวาย อยากจะทักท้วงทุกประโยค ก็คงไม่แปลก เพราะบางท่านมิได้อ่านเพื่อเข้าใจ หากแต่อ่านเพื่อรอคัดค้าน