[CR] รีวิวปลูกผมเทคนิค FUT กับคุณหมอหมิง ที่ Ultima Hair Center – ครบ 1 ปีแล้ว มาดูกันว่าผลลัพธ์เป็นยังไง

สวัสดีค่ะ วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ปลูกผมที่เราทำไว้เมื่อปีที่แล้วกับคุณหมอหมิง ที่ Ultima Hair Center ตอนนี้ครบ 1 ปีพอดี เลยอยากมาเล่าให้ฟังเผื่อใครที่กำลังหาข้อมูลหรือกำลังลังเลว่าจะทำดีไหม โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีปัญหาผมบางแบบเราค่ะ


--

ก่อนปลูก – สภาพผมและความรู้สึก

เราเป็นคนที่ผมบางบริเวณกลางศีรษะค่อนข้างชัด โดยเฉพาะเวลาเจอไฟแรงๆ หรือถ่ายรูปจากมุมสูง จะเห็นเลยว่าผมบางแหว่งเป็นวงๆ ตอนแรกก็ใช้วิธีทั่วไป เช่น เปลี่ยนแสก จัดทรง ใช้สเปรย์ปิดผมบาง แต่ก็รู้สึกไม่มั่นใจอยู่ดี

พยายามใช้พวกเซรั่ม แชมพู หรือวิตามินมาหลายตัว ก็ช่วยเรื่องลดผมร่วงได้บ้าง แต่ตรงที่บางก็ไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่ สุดท้ายเลยตัดสินใจลองหาข้อมูลเรื่องปลูกผมดู


---

ทำไมถึงเลือกปลูกกับหมอหมิง

หลังจากเปรียบเทียบหลายที่ เราเลือก Ultima Hair Center หลักๆ ก็หาข้อมูลจาก Pantip , Youtube แล้วก็ใน Internet ทั่วไป ก็เจอหลายคนที่เคยทำกับหมอหมิง แล้วคุณหมอก็มีประสบการณ์เฉพาะทาง เราเลย search ประวัติหมอดูค่ะ พอมั่นใจก็แอดไลน์แล้วทักไปสอบถาม ทีมงานก็ตอบละเอียด ไม่เร่งขาย ให้เวลาคุยแบบไม่กดดันเลย (บางข้อความเราว่าคุณหมอตอบเองด้วยนะ)

อีกเหตุผลที่สำคัญคือ คลินิกอยู่ไม่ไกลจากบ้านเรา เดินทางสะดวกมาก ไม่ต้องขับรถนาน ซึ่งช่วยลดความกังวลตอนวันผ่าตัด และตอนมาตรวจติดตามด้วย

พอไปคุยคุณหมอก็อธิบายเทคนิค FUE กับ FUT แล้วให้เราเลือก จริงๆ ตอนเลือกไปจากบ้าน เลือก FUE นะ แต่พอฟังคุณหมอเราตัดสินใจใช้เทคนิค FUT ค่ะ เพราะคุณหมออธิบายว่าเหมาะกับเคสที่อยากได้ผมเยอะในจุดเดียว แบบเราจะได้กราฟที่สมบูรณ์ไม่เสียหายและเก็บพื้นที่ผมไว้ได้ถ้าเราจะปลูกเพิ่มอีกในอนาคตส่วนแผลก็เป็นผ่าตัดเล็ก แทบไม่เห็นเลยเพราะผมบังหมด


---

วันปลูกผม

มาถึงตอนเช้า มีการพูดคุย วางแนว และฉีดยาชา จากนั้นคุณหมอผ่าตัดเก็บรากผมจากด้านหลังศีรษะ แล้วนำมาแยกรากและปลูกใหม่ ใช้เวลาหลายชั่วโมง (เกือบทั้งวัน) ระหว่างนั้นก็พักได้ตามช่วง ทีมดูแลโอเค มีข้าวกลางวันให้ มีห้องให้นั่งรอสบายๆ ส่วนตัวไม่มีปัญหาอะไร มีแค่มันเมื่อยหน่อยเวลาต้องนอนก้มหน้านานๆ

หลังทำก็รู้สึกตึงๆ เล็กน้อย แต่ไม่ได้เจ็บมากอย่างที่เคยกลัว


---

ช่วงพักฟื้น

สัปดาห์แรก ต้องระวังเยอะนิดนึง ห้ามนอนทับศีรษะ ห้ามสระผมแรงๆ

ผมที่ปลูกจะร่วงในช่วงเดือนแรก ซึ่งหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติ เดือนแรกคือความทรมานของเราค่ะ เพราะมันคัน! คือแบบ โอ๊ยอยากเกา แต่เกาไม่ได้ หมอจะให้สเปยร์น้ำเกลือมา(น่าจะผสมยาชารึเปล่า ไม่แน่ใจ) ถ้าคันก็ฉีดตรงนั้น มันก็พอบรรเทาได้บ้าง

เดือนที่ 3 เริ่มเห็นไรผมขึ้นบางๆ

เดือนที่ 6 เริ่มดูมีวอลลุ่มมากขึ้น

จนตอนนี้ครบ 1 ปี ผมที่กลางหัวดูหนาขึ้น ชัดเจนกว่าก่อนปลูก



---

หลังครบ 1 ปี – ความเปลี่ยนแปลง

ตอนนี้ผมดูหนาขึ้นในบริเวณที่เคยบาง รู้สึกว่าแต่งผมง่ายขึ้น และไม่ต้องคอยกังวลเรื่องแสงหรือมุมถ่ายรูปอีกต่อไป

ไม่ได้ถึงขั้นหนามากแบบแน่นเป๊ะเหมือนแต่สำหรับเรา ถือว่าดีขึ้นอย่างรู้สึกได้และเป็นธรรมชาติ ถ้าไม่บอกว่าเคยปลูก คนก็ไม่รู้ค่ะ

เมื่อก่อนเวลาไปร้านทำผมเกือบทุกครั้งช่างจะบอกว่า 'ผมบางนะคะ' พอปลูกมาแล้ว ไม่มีคนทักแล้วค่ะ เป็นคนปกติแล้ว เย้ ♡

แผลผ่าตัดด้านหลังศีรษะมีรอยจางๆ อยู่บ้างถ้าเปิดดู แต่โดยรวมก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร


---

สรุป

สำหรับเราการปลูกผมครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่าในแง่ของ การแก้ปัญหาผมบางเฉพาะจุด ที่ไม่ดีขึ้นด้วยวิธีอื่น ผลลัพธ์อาจไม่ได้เวอร์วังเหมือนรีวิวบางเคส แต่ก็ถือว่าดีขึ้นอย่างรู้สึกได้ และช่วยให้เรามั่นใจมากขึ้น

การตัดสินใจปลูกผมควรศึกษาข้อมูลให้ดี และเข้าใจว่าผลลัพธ์ของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน เราแค่อยากมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองให้เป็นข้อมูลอีกมุมหนึ่งสำหรับผู้หญิงที่กำลังเจอปัญหาแบบเดียวกันค่ะ ยิ้ม


ก่อนปลูก (จะล้านแล้วจ้า)


ปลูกแล้ว 1-2 วัน (ต้องพักฟื้นอยู่บ้าน)


ปลูกผม 1 ปี


ไม่ได้แน่น แต่ก็กลายเป็นผมแสก+ขวัญแบบคนปกติแล้ว ♡
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่