[ความเดิม] ก่อนภาพยนตร์ Star Wars ภาค Rogue One สี่ปี
แคสเซี่ยน เอนดอร์ ขโมยยานไท (TIE) รุ่นทดลอง, จากศูนย์ทดสอบ ของอิมพีเรียล
แล้วเกิดติดขัด เดินทางกลับไปสมทบ, กับพรรคพวก บนดาวมีนา-เราว์ล่าช้า
ดรอยด์ประจำบ้าน (บี หรือ B2EMO) หลังที่แคสเซียนเคยอยู่, จึงถูกเพื่อน ๆ ของเขา ฝากชาวบ้านแถวนั้นรับเลี้ยงดูแลต่อ
เพราะต้องรีบเผ่น จากพวกทหารจักรวรรดิ ซึ่งโผล่มาเพ่นพ่าน
กว่าแคสเซี่ยน จะเจอพวกพ้องอีก, ก็เหลือเพียงแฟนเก่า (บิ๊กซ์) กับสหายนายหนึ่ง (วิล)
ขณะที่สว.หญิง มอน มอธม่า, สปอนเซอร์ฝ่ายกบฏ
จัดพิธีแต่งงาน ให้แก่ลูกสาว สำเร็จราบรื่น, แม้เจอเหตุชวนพรั่นใจ จากเพื่อนเก่าชื่อเทย์บ้าง
ด้านดีดร้า เข้าร่วมประชุมลับ, อันท่านผู้อำนวยการ (เครนนิค) จัด
เพื่อระดมสมอง, ว่าจะไล่ที่ ชาวดาวกอร์แมน (อันโด่งดังคับกาแล็กซี่ ด้านผ้าทอ จากใยแมงมุม) เยี่ยงไรดี
เนื่องจากสถานที่ดังกล่าว มีแหล่งแร่ ซึ่งทางอิมพีเรียลต้องการ (สำหรับสร้างเดธสตาร์ ?)
ก่อนจะนำเสนอ ไอเดียฟังเข้าท่า, จนเครนนิคร้องขอ ความร่วมมือจากหล่อน
[สปอยล์] 1 ปีต่อมา (๓ ปีก่อนยุทธการยาวิน ที่ทำลายเดธสตาร์)
ซีริล คาร์น (คนรักของดีดร้า) ถูกย้ายจาก ดาวราชธานี (โครัสซอง), ไปประจำการ บนกอร์แมน
เขารับตำแหน่ง, หัวหน้าสำนักงานภาคสนาม สังกัดสำนักงานมาตรฐาน
แม้สามารถมองว่า เขาได้รับการอวยยศ จากทางอิมพีเรียลได้
แต่มารดาของซีริล กลับชอบโทรทางไกล ไปปรามาสกับลูกจ๋า, เวลาทำงาน
ว่าทำไมแกโดน จักรวรรดิเตะโด่ง พ้นจากมหานคร
จน "กองกำลังกอร์แมน" ซึ่งคอยดักฟังการสื่อสาร ในออฟฟิศของสนง.มาตรฐาน
สงสัยว่าชายคนนี้ กำลังตกอับ และเคืองจักรวรรดิ
คนของกองกำลัง จึงชวนซีริล ร่วมงานนัดพบ ประชุมสภาเมือง (แบบแอบ ๆ จัด), ของคนดาวกอร์แมน
ที่ช่วงนี้ ถูกอิมพีเรียล กดดันหนัก, และไม่พอใจอย่างแรง
ที่ทหารรัฐกำลังก่อสร้าง ตึกสนง.หลังใหม่, ณ ใจกลางเมืองพัลโม ใกล้อนุสาวรีย์ไว้อาลัย
อนึ่ง อนุสาวรีย์นั้น มีเพื่อย้ำเตือนว่า, เคยเกิดเหตุสังหารหมู่ 500 คน กลางจัตุรัสนคร
โดยแกรนด์มอฟฟ์ทาร์กิ้น (ตัวละครหนัง A New Hope), เมื่อ 16 ปีก่อน
โดยการจอดยานอวกาศ ทับบรรดาไพร่ฟ้าผู้รักสงบ, ซึ่งรวมตัวกันอย่างสันติ
ความสัมพันธ์ทางไกล
ซีริลลอบติดต่อดีดร้า ด้วยช่องทางอันปลอดภัย, และไม่ใช่ว่า เขาแค่มีรักทางไกลอยู่
แต่ความจริงคือ ดีดร้าคุมการโจมตี (ทางการเมือง) ต่อกอร์แมน, ผ่านคุณแฟน
แลเมื่อกองกำลังกอร์แมน เข้าหาซีริลแล้ว, จึงถึงเพลา ดำเนินแผนขั้นถัดไป
ซีริลถูกจัดฉาก ให้โดนสำนักงานใหญ่ บุกค้นออฟฟิศ
แล้วโดนตำหนิ ที่ปล่อยปละละเลย, ให้มีการติดเครื่องดักฟัง
กองกำลังจึงปักใจเชื่อ ว่าควรใช้ซีริล เป็นแหล่งข้อมูล
วางแผนจี้ ยานขนส่งไร้คนขับ (รถไร้ล้อ), อันขนสิ่งต้องสงสัย ว่าคือ 'อาวุธ' เข้าออกตึกสนง.ใหม่ ในพัลโม
ซึ่งทำแล้ว มีประโยชน์ 2 ต่อ, คือพิสูจน์ว่า ตึกสนง.จริง ๆ เป็นคลังแสง (โรงเก็บอาวุธ) กลางเมือง
อีกทั้งยังได้ขโมย ปืนผาหน้าไม้ ไปใช้สำหรับต่อสู้ กับจักรวรรดิ, ในภายภาคหน้า
คนที่รีบเร่ง มักตายเร็ว
ณ โครัสซอง, แคสเซี่ยนกลับมาคบ กับแฟนเก่า ผู้กำลังเปราะบาง
หลังเธอเคยผ่าน การถูกทรมานโดย ไอ้หมอโกรส (ด็อกเตอร์สักคน ของอิมพีเรียล) ในซีซั่น 1
เขาพยายาม ประคับประคองบิ๊กซ์อยู่, ก่อนลูเทน เรียกหาแคสเซี่ยน
มอบหมายภารกิจ, ให้ดิ่งไป ติดต่อกองกำลัง เช็คสถานการณ์บนกอร์แมน
แคสเซี่ยนปลอมเป็น นักออกแบบแฟชั่น, และหยั่งเชิงกองกำลัง จนตระหนักว่า คนพวกนี้ไม่มีหวัง
แคสเซี่ยนอยู่เพียงไม่นาน ก็กลับไปเจอลูเทน, บอกว่าอย่าร่วมมือ กับพวกนั้นดีกว่า
เพราะคน (กบฏ) ที่รีบเร่ง (ดำเนินการ) มักตายเร็ว
อย่างไรซะ ความเห็นของลูเทน คือช่างเรื่องนั้นปะไร
หากได้แนวรบใหม่ ต่อให้กอร์แมน จะพินาศสิ้น, เราก็ยังได้ประโยชน์
แคสเซี่ยนโกรธ ที่ลูเทนทำเหมือน เราชาวกบฏ ควรไร้หัวใจดั่งหุ่นยนต์, และพร้อมสละเลือดเสมอ
กอปรกับบิ๊กซ์ สุขภาพจิต ย่ำแย่ไม่หาย, ถึงขั้นหาเสพยา
จึงช่วยเธอ ให้ได้ล้างแค้น หมอโกรส, แล้วระเบิดตึกอิมพีเรียล ที่หมอนั่นอยู่ข้างใน
แม้การก่อการร้าย อย่างโจ่งแจ้ง ล่อเป้า
อาจส่งผลร้าย ต่อการเคลื่อนไหวของเขา (หรือลูเทน) ภายหลัง
มอน กับเคลย่า
สว.มอน มอธม่า, พยายามผลักดัน ให้พวกนักการเมือง ยอมลงมติต่อต้าน การกดดันกอร์แมน
แต่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากไม่มีใคร กล้าแหยมกับ องค์จักรพรรดิ
ขณะเดียวกัน เคลย่า (ผู้ช่วยนารี ของลูเทน) ที่เปิดร้านขายวัตถุโบราณ ด้วยกัน, ดักฟังสคัลดัน (นายธนาคาร ที่ลูกชายแต่งกับลูกมอน)
ได้ความว่าตานั่น เจอของปลอม ในคอลเล็กชั่นตัวเองเข้า, เลยจะตรวจสอบ ของสะสมทั้งหมด เร็ว ๆ นี้
โอกาสเดียว ที่จะแงะเครื่องดักฟัง ซึ่งเคยแอบติด (ตอนขายให้), ออกจาก 1 ในคอลเล็กชั่น
คือเดินอาด ๆ เข้าประตูหน้า สถานที่จัดปาร์ตี้ ของสคัลดัน, ที่เค้าจะอวดรวย (จัดแสดงของสะสม)
ณ วันหยุดพิเศษ ของโครัสซอง (เนื่องในโอกาส มีพิธีแต่งตั้งวุฒิสภา)
แม้ว่าทั้ง 'เครนนิค' และทหารอิมพีเรียล, อยู่ใกล้ชนิด ห่างเพียงคนละมุมห้อง
แต่ลงท้าย เคลย่าก็ทำ ภารกิจสำเร็จ, ระหว่างเครนนิคมัวสนทนา กับมอนมอธม่า
วิล กับซอว์
ณ ดาวดีคาร์ (D'Qar) ซอว์ เกอร์เรรา ซ่องสุมกำลังผู้คน
เตรียมปฏิบัติการ ลอบสูบไรโดเนียม (แร่เชื้อเพลิง ติดไฟง่าย), จากสถานีพลังงานสักแห่ง
วิล (เพื่อนแคสเซี่ยน) ถูกเรียกไปสอนวิธี ใช้เครื่องเจาะวาล์ว
ซึ่งขั้นตอนการใช้งาน ถูกบรรยายว่า โคตรยุ่งยากซับซ้อน, หากไม่ต้องการ ให้ถูกใครจับได้ (ว่าเจาะขโมยแร่)
ซอว์กะว่า วิลสอนพลูตี (คนของเขา) เสร็จยามใด, จะฆ่าวิลทิ้งซะ (เพื่อป้องกันข้อมูล ของเขารั่วไหล)
อย่างไรก็ตาม ซอว์เกิดจับไต๋ได้ว่า พลูตีคือคนทรยศ, ภายหลัง
จึงสังหารพลูตี ใช้วิลขโมยแร่, และชวนให้วิล ร่วมกันยินดี กับความสำเร็จของภารกิจ
กระสุนลูกหลง ทำนักรบดับ
กองกำลังกอร์แมน ขาดแคลนประสบการณ์ จึงต้องการ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์, เพื่อทำภารกิจ จี้ยานขนส่ง
เนื่องจากพระเอก ไม่ยอมเอาด้วย, ลูเทนเลยส่ง "เวล กับซินต้า" ไปแทน
พวกกบฏหน้าใหม่ (กองกำลัง) ถูกทั้งสอง กำชับหนักหนา
ว่าจงทำตามคำสั่ง ทุกประการ, เพื่อให้แผนการ ลุล่วงด้วยดี
แผนคือวางฟิวส์ (ระเบิดไฟฟ้า) ดักรถไร้คนขับ, แล้วช่วยกันขน อาวุธบนรถ ผ่านอุโมงค์ท่อระบายน้ำ
ขณะที่แบ่งคน ไปปิดถนน, คุมเชิงรอบ ๆ พื้นที่ ในเมืองตอนกลางดึก
แม้คำสั่งคือ พวกที่ปิดถนน ไล่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่, ห้ามพกปืน
ทว่ามีไอ้หนุ่ม ตัวประกอบรายนึง ฝ่าฝืน, งัดปืนที่พกมา ไล่บุรุษท่าทางนักเลง ซึ่งบังเอิญผ่านมา
ตัวประกอบ เกิดทำปืนลั่น, กระสุนลูกหลง ทำซินตาดับ
เวลที่เพิ่ง คืนดีกับแฟน ก่อนนี้แป๊บ ๆ, ถึงประเคน สารพัดคำพูด
ที่จะทำไอ้หนุ่มนั่น รู้สึกผิดจนวันตายใส่, โทษฐานบังอาจทำ นักรบกบฏเจนศึก (ซินตา) สิ้นชีพ
[Spoil+Review] Andor S2 Ep.4-6 >>กระสุนลูกหลง ทำนักรบดับ