JJNY : ดัชนีการเมืองไทย เชื่อมั่นดิ่ง│เพจดังแฉคลิป "บ.จีน"│ร้านเครียดหนัก สต๊อกชุดลูกเสือ│รัสเซียลั่นยูเครนยังไม่ตอบ

สวนดุสิตโพล เปิดผลสำรวจ ดัชนีการเมืองไทย เม.ย. ความเชื่อมั่นดิ่งทุกด้าน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5161269
.
.
สวนดุสิตโพล เปิดผลสำรวจ ดัชนีการเมืองไทย เม.ย. ความเชื่อมั่นดิ่งทุกด้าน
.
เมื่อวันที่ 30 เมษายน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนเมษายน 2568” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,208 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 25-29 เมษายน 2568 โดยมีตัวชี้วัด 25 ประเด็นที่บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นต่อการเมืองไทยในด้านต่าง ๆ ซึ่งแต่ละตัวชี้วัดจะมีคะแนนเต็ม 10 คะแนน สรุปผลเรียงลำดับจาก ค่าคะแนนสูงสุดไปถึงต่ำสุด ได้ดังนี้
.
1. “ดัชนีการเมืองไทย” เดือนเมษายน 2568 ภาพรวมคะแนนเต็ม 10 ได้ 4.82 คะแนน (เดือนมีนาคม 2568 ได้ 4.95 คะแนน)
.
2. ประชาชนให้คะแนน 25 ตัวชี้วัด “ดัชนีการเมืองไทย” โดยคะแนนเต็ม 10 เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ซึ่งทั้งหมดลดลงจากเดือนมีนาคม ดังนี้
1. ผลงานของฝ่ายค้าน     5.34
2. สิทธิและเสรีภาพของประชาชน 5.18
3. การมีส่วนร่วมของประชาชน 5.08
4. การพัฒนาด้านการศึกษาสำหรับประชาชน 5.04
5. การพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า 4.99
6. การแก้ปัญหาต่างๆ ในภาพรวม 4.99
7. ความมั่นคงของประเทศ 4.96
8. เสถียรภาพทางการเมือง 4.95
9. การดำเนินงานของพรรคการเมืองโดยภาพรวม 4.93
10. ผลงานของนายกรัฐมนตรี 4.91
11. สภาพสังคมโดยรวม  4.90
12. การปฏิบัติตนและพฤติกรรมของนักการเมือง 4.88
13. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 4.88
14. การบริหารประเทศตามนโยบายที่ประกาศไว้ 4.87
15. ผลงานของรัฐบาล 4.85
16. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของภาครัฐ 4.85
17. ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน 4.62
18. กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม  4.61
19. การแก้ปัญหายาเสพติดและผู้มีอิทธิพล 4.60
20. ค่าครองชีพ เงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ  4.56
21. การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ความโปร่งใส 4.54
22. สภาพเศรษฐกิจโดยภาพรวม  4.49
23. ราคาสินค้า 4.49
24. การแก้ปัญหาการว่างงาน 4.48
25. การแก้ปัญหาความยากจน 4.40
 
3.นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนคิดว่ามีบทบาทโดดเด่นในเดือนเมษายน 68
นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลประกอบด้วย
.
1. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร 42.09% 2. นายอนุทิน ชาญวีรกูล 31.39% และ 3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค 26.52%
.
นักการเมืองฝ่ายค้าน 1.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 51.44% 2.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร 26.75% และ 3.น.ศ.รักชนก ศรีนอก 21.81%
.
4. ผลงานของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนชื่นชอบในเดือนเมษายน 68
.
ผลงานฝ่ายรัฐบาล 1.จัดงานมหาสงกรานต์ 2568 49.75% 2.พัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติ 25.82% และ 3.ตรึงราคาน้ำมัน ลดค่าไฟ 3.99 บาท 24.43%
.
ผลงานฝ่ายค้าน 1.ตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการทำงาน 45.83% 2.ติดตามตรวจสอบตึก สตง.ถล่ม 28.18% และ 3.เร่งรัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เจรจาสหรัฐฯ 25.99%
.
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า สถานการณ์การเมืองไทยเดือนเมษายนแม้ภายนอกจะมีความ ชุ่มฉ่ำของเทศกาลสงกรานต์ แต่ในแวดวงการเมืองกลับร้อนระอุไม่แพ้แสงแดดของเดือนเมษา ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วม เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ที่ยังไม่แน่นอนจนมีเสียงว่าอาจมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงการที่รัฐบาลพยายามเร่งแก้ปัญหาเรื่องภัยพิบัติ แต่การตรวจสอบตึกถล่มกลับเป็นไปด้วยคำถามของทั้งฝ่ายค้านและประชาชน สะท้อนได้จากผลคะแนนของฝ่ายรัฐบาลที่ลงไป อยู่ อันดับ 15 จาก 25 ดัชนี นอกจากนี้คะแนนผลงานนายกรัฐมนตรีก็ลงไปอยู่อันดับ 10 ด้วยคะแนน 4.91 ไม่ผ่านครึ่งเป็น ครั้งแรกของนายกฯ แพทองธาร
.
ดร.มุทิตา มากวิจิตร์ อาจารย์ประจำหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชากฎหมายปกครองและการบริหารงาน ภาครัฐ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า จากผลสำรวจดัชนีการเมืองไทยประจำเดือนเมษายน 2568 พบว่า คะแนนภาพรวมลดน้อยลงจากเดือนก่อนหน้านี้ในทุกๆด้านอย่างชัดเจน สะท้อนถึงความกังวลของประชาชน ที่เพิ่มขึ้นต่อภาวะทางเศรษฐกิจและการเมืองในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาสภาพ เศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งถือว่ายังเป็นจุดอ่อนสำคัญของรัฐบาลที่ยังไม่สามารถดำเนินการตามความคาดหวังของประชาชน
.
รวมทั้งประเด็นสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจและคาดหวังให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน ก็คือการตรวจสอบความโปร่งใส ในการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ และติดตามตรวจสอบเรื่องอาคารของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่ม ซึ่งสะท้อนให้เห็น ถึงความต้องการของประชาชนในเรื่องการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง ควบคู่กับความต้องการให้รัฐบาล ส่งเสริมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชนโดยลดรายจ่าย เพิ่มรายได้อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อเสริมสร้างให้ ประชาชนมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพในยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง.
.

.
โผล่อีก! เพจดังแฉคลิป "บริษัทจีน" ดึง "นักการเมืองไทยคนดัง- สห." จัดงานยิ่งใหญ่ในไทย ใช้วิธีคล้าย "ดิไอคอน"
.
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.68 เพจเฟซบุ๊ก "CSI LA" โพสต์คลิป พร้อมระบุข้อความว่า "
.
จีนหลอกจีน ใช้วิธีเดียวกับดิไอคอน" จัดฉากสินค้าจีนบูมในไทย! ขนคนด้วยรสบัส 100 คัน ตำรวจเปิดทาง ผู้บัญชาการลงมาคุมเอง อดีตนายกฯ มาร่วมงาน สร้างภาพว่าสินค้าจีนครองไทย ทั้งหมดเพื่อหลอกคนจีนด้วยกันเองว่ากำลังยิ่งใหญ่ในอาเซียน! ดูเหมือนจัดงานที่เมืองทองธานี? – สถานที่ดูเหมือนจะเป็นศูนย์แสดงสินค้าระดับชาติ
.
  • ใครอนุญาตให้ใช้สถานที่?
  • เจ้าหน้าที่ไทยคนไหน “เปิดทาง”?
  • มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงหรือไม่?
.
ขอบคุณแอดมินเพจ: เรื่องของซับจีน ที่ช่วยแอดแปล และทำซับให้ทุกคนเข้าใจ  ฝากเพื่อนโปรดไปติดตามเพื่อให้กำลังใจเขาด้วย
.
ทั้งนี้ ในคลิปดังกล่าว เป็นบริษัทจีนแห่งหนึ่ง ได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ขึ้นในประเทศไทย โดยในคลิปเป็นหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นประธานบริษัทเดินเข้ามาในงาน ท่ามกลางทหาร "สห." นับสิบนายเดินห้อมล้อมอารักขา และมีนักการเมืองคนดัง ขึ้นเวทีร่วมเปิดงานครั้งนี้ด้วย โดยมีการบรรยายเป็นภาษาจีน และแปลเป็นซับไทยโดยเพจ "เรื่องของซับจีน" ระบุว่า "เพื่อฉลองครบรอบ 2 ปี 8 เดือน และเปิดสาขาครบ 1 หมื่นแห่ง พร้อมเปิดตัวแผนกลยุทธ์การขายใหม่ ของวงการความงาม โดยมีอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เดินทางมาร่วมงาน"
.
รายงานข่าวระบุว่า บุคคลที่ถูกอ้างว่าเป็นอดีตนายกฯของไทยนั้น ปรากฎว่า บุคคลดังกล่าวไม่เคยเป็นนายกฯของไทย แต่เป็นนักการเมือง และอดีตรัฐมนตรีของไทยจริง
.
https://www.facebook.com/CSILA90210/videos/668028339492453/
.

.
ร้านเครียดหนัก สต๊อกชุดลูกเสือ-เนตรนารีกว่า 5 แสนบาท ด้านผปค.ชะลอซื้อ รอความชัดเจน
https://www.matichon.co.th/region/news_5161238
.
ร้านเครียดหนัก สต๊อกชุดลูกเสือ-เนตรนารีกว่า 5 แสนบาท หลังศธ.จ่อยกเลิกชุด ด้านผปค.ชะลอซื้อ รอความชัดเจน
.
วันที่ 30 เมษายน 2568 จากนโยบายที่กระทรวงศึกษาธิการเตรียมประกาศยกเลิกการบังคับสวมชุดลูกเสือ-เนตรนารี ก่อนเปิดเทอมใหม่ในเดือนนี้ ส่งผลให้เกิดเสียงสะท้อนหลากมุมมองจากผู้ปกครองและร้านขายเครื่องแบบนักเรียน โดยเฉพาะร้านค้าที่ได้รับผลกระทบหนักจากการสต๊อกสินค้าจำนวนมาก
.
นางพิมลพรรณ ทรัพย์แย้ง เจ้าของร้านขายชุดนักเรียนในเทศบาลเมืองชัยนาท เปิดเผยว่า ร้านของตนกำลังเผชิญความเครียดอย่างหนัก เนื่องจากสั่งสต๊อกชุดลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด รวมถึงอุปกรณ์เสริม เช่น เข็มขัด รองเท้า หมวก และผ้าพันคอ มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท ไปก่อนหน้านี้
.
โดยไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีนโยบายดังกล่าว เมื่อทราบข่าวก็สายเกินไป เพราะสินค้าถูกสั่งมาเต็มที่แล้ว ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางแก้ไขชัดเจน แม้สอบถามโรงงานผู้ผลิตก็ยังไม่ได้รับคำตอบ หากไม่มีทางออก ร้านอาจต้องขาดทุนหนักจากสต๊อกสินค้ามูลค่าสูง
.
ด้านผู้ปกครองรายหนึ่งแสดงความเห็นว่า นโยบายนี้เป็นเรื่องดี เพราะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย เนื่องจากชุดลูกเสือ-เนตรนารีมีราคาสูงกว่าเครื่องแบบนักเรียนทั่วไปมาก โดยตนเลือกซื้อเฉพาะชุดนักเรียนปกติให้ลูกก่อน และชะลอการซื้อชุดลูกเสือเพื่อรอดูความชัดเจนจากทางโรงเรียนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่