ธาตุรู้ความจริงแห่งธรรมชาติ ที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ (บทนำ)
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
“มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา”
ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจ
มโน หรือใจ ก็คือ ธาตุรู้ นั่นเอง
…
ใจไม่ดับ
ร่างกายจะดับ ก็ดับไป
แต่ใจ ยังคงเป็นอกาลิโก
เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
ใจ คือธาตุรู้ เป็นผู้รู้ แต่ขาดปัญญา
ไม่สามารถแยกแยะตนเอง ออกจากสิ่งที่คลุกเคล้าอยู่ด้วย
เมื่อไปคลุกเคล้าอยู่กับสิ่งที่มีการเกิดดับ
จึงเผลอคิด ว่าตนเองเกิดดับไปด้วย
ทุกข์ เกิดขึ้นเพราะใจหลง
ใจ ไม่ยอมรับความจริง
…
“เรา” คือใคร?
คำถามของศิษย์
เกิดจากคำสอนที่ว่า
“เมื่อรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ใช่ตัวเรา”
แล้ว “เรา” ที่แท้จริง คือใครกันแน่?
ศิษย์ถามว่า
“จริงๆ ‘เรา’ ที่แท้จริง คือ ‘ธาตุรู้’ ใช่ไหมครับ หลวงพ่อ?”
พระอาจารย์ตอบว่า
“คือผู้รู้ เราก็ใช้ชื่อเรียกหลายอย่าง
บางครั้งเรียกว่า จิตใจ
บางครั้งเรียกว่า ดวงวิญญาณ
หรือ กายทิพย์
ทั้งหมด ก็คือ ธาตุรู้ ทั้งนั้น”
…
สัพเพ ธัมมา อนัตตา
ธรรมะ หมายถึง
อสังขาร บวกกับ สังขาร
• อสังขาร ได้แก่ ธาตุสี่
คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
รวมทั้ง อากาศธาตุ และ ธาตุรู้
• ธาตุสี่นี้ รวมกัน แยกกัน ตามเหตุปัจจัย
แต่ไม่เสื่อมจากความเป็นธาตุ
จึงไม่เป็นอนิจจัง
แต่เป็นอนัตตา
• สังขาร คือ สิ่งที่เกิดจากการรวมตัวของธาตุสี่ และอากาศธาตุ
ถ้าสังขาร มี “ธาตุรู้” ไปครอบครอง
จึงกลายเป็นคน และสัตว์
สังขารนี้ ไม่เที่ยง (อนิจจัง)
ทำให้เกิดทุกข์ในธาตุรู้ (ทุกขัง)
และสุดท้าย แตกสลาย กลับกลายเป็นธาตุสี่ (อนัตตา)
เพราะฉะนั้น
ธรรมะทั้งปวง
จึงเป็น อนัตตา
…
ทุกข์ของ “ธาตุรู้”
เมื่อ “ธาตุรู้” ไปครอบครองสังขาร
ก็กลายเป็นคน และสัตว์
“ธาตุรู้” ที่มีอวิชชาครอบงำ
จึงมีความอยาก ให้สังขารนี้ เป็นนิจจัง สุขัง อัตตา
แต่ “ธาตุรู้” ที่ไม่มีอวิชชา คือมีปัญญา
จะไม่อยากให้เป็น นิจจัง สุขัง อัตตา
เพราะรู้ว่า เป็นไปไม่ได้
อยาก แล้วจึงทุกข์
บทความจากหนังสือธาตุรู้ความจริงแห่งธรรมชาติ ที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร
ธาตุรู้ความจริงแห่งธรรมชาติ ที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
“มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา”
ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจ
มโน หรือใจ ก็คือ ธาตุรู้ นั่นเอง
…
ใจไม่ดับ
ร่างกายจะดับ ก็ดับไป
แต่ใจ ยังคงเป็นอกาลิโก
เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
ใจ คือธาตุรู้ เป็นผู้รู้ แต่ขาดปัญญา
ไม่สามารถแยกแยะตนเอง ออกจากสิ่งที่คลุกเคล้าอยู่ด้วย
เมื่อไปคลุกเคล้าอยู่กับสิ่งที่มีการเกิดดับ
จึงเผลอคิด ว่าตนเองเกิดดับไปด้วย
ทุกข์ เกิดขึ้นเพราะใจหลง
ใจ ไม่ยอมรับความจริง
…
“เรา” คือใคร?
คำถามของศิษย์
เกิดจากคำสอนที่ว่า
“เมื่อรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ใช่ตัวเรา”
แล้ว “เรา” ที่แท้จริง คือใครกันแน่?
ศิษย์ถามว่า
“จริงๆ ‘เรา’ ที่แท้จริง คือ ‘ธาตุรู้’ ใช่ไหมครับ หลวงพ่อ?”
พระอาจารย์ตอบว่า
“คือผู้รู้ เราก็ใช้ชื่อเรียกหลายอย่าง
บางครั้งเรียกว่า จิตใจ
บางครั้งเรียกว่า ดวงวิญญาณ
หรือ กายทิพย์
ทั้งหมด ก็คือ ธาตุรู้ ทั้งนั้น”
…
สัพเพ ธัมมา อนัตตา
ธรรมะ หมายถึง
อสังขาร บวกกับ สังขาร
• อสังขาร ได้แก่ ธาตุสี่
คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
รวมทั้ง อากาศธาตุ และ ธาตุรู้
• ธาตุสี่นี้ รวมกัน แยกกัน ตามเหตุปัจจัย
แต่ไม่เสื่อมจากความเป็นธาตุ
จึงไม่เป็นอนิจจัง
แต่เป็นอนัตตา
• สังขาร คือ สิ่งที่เกิดจากการรวมตัวของธาตุสี่ และอากาศธาตุ
ถ้าสังขาร มี “ธาตุรู้” ไปครอบครอง
จึงกลายเป็นคน และสัตว์
สังขารนี้ ไม่เที่ยง (อนิจจัง)
ทำให้เกิดทุกข์ในธาตุรู้ (ทุกขัง)
และสุดท้าย แตกสลาย กลับกลายเป็นธาตุสี่ (อนัตตา)
เพราะฉะนั้น
ธรรมะทั้งปวง
จึงเป็น อนัตตา
…
ทุกข์ของ “ธาตุรู้”
เมื่อ “ธาตุรู้” ไปครอบครองสังขาร
ก็กลายเป็นคน และสัตว์
“ธาตุรู้” ที่มีอวิชชาครอบงำ
จึงมีความอยาก ให้สังขารนี้ เป็นนิจจัง สุขัง อัตตา
แต่ “ธาตุรู้” ที่ไม่มีอวิชชา คือมีปัญญา
จะไม่อยากให้เป็น นิจจัง สุขัง อัตตา
เพราะรู้ว่า เป็นไปไม่ได้
อยาก แล้วจึงทุกข์
บทความจากหนังสือธาตุรู้ความจริงแห่งธรรมชาติ ที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร