ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนไม่แน่นอน มีบางสายงานได้รับผลกระทบ พนักงานถูกปลดจำนวนมาก แตายังมีบางสายงานที่ยังคงแข็งแกร่ง ไม่มีตกงาน นั่นคือ สายงานด้านการแพทย์-ดูแลสุขภาพ และพนักงานค้าปลีก
กลุ่มงานที่มั่นคงมากที่สุด ได้แก่ 1.พยาบาล 2.แพทย์ 3.ศัลยแพทย์ 4.นักบำบัด 5.พนักงานแคชเชียร์ 6.พนักงานจัดสินค้า และ 7.พนักงานคลังสินค้าและโลจิสติกส์
ในปี 2024 ตำแหน่งงานใหม่ๆ มากถึง 75% มาจากภาคอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ, ภาคการท่องเที่ยว, บริการในร้านค้า ในขณะเดียวกัน งานพัฒนาซอฟต์แวร์หดตัวลงถึง 33%
เมื่อความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้น วัยทำงานในสหรัฐและทั่วโลกจำนวนไม่น้อยเริ่มมองหาอาชีพที่มั่นคงและปลอดภัยกว่าในยุคที่โลกนี้ผันผวนไม่แน่นอน ภาคธุรกิจและองค์กรต่างก็ปรับแผนการบริหาร รัดเข็มขัดมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจในหลายภาคอุตสาหกรรมต้องปลดพนักงานออกจำนวนมาก
แต่มีบางอาชีพหรือสายงานบางประเภท อาจได้รับผลกระทบน้อยกว่างานอื่นๆ อย่างชัดเจน ยืนยันจาก "คอรี สตาห์ล" (Cory Stahle) นักเศรษฐศาสตร์ของเว็บไซต์จัดหางาน Indeed เขาออกมาวิเคราะห์ถึงประเด็นนี้ว่า มีบางอาชีพที่ยังคงไปรอดในทุกยุคสมัยไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า อาชีพที่ถือว่า “ทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย” มากที่สุด คือ อาชีพที่ใกล้ชิดกับสินค้าหรือบริการจำเป็น เช่น การแพทย์และร้านขายของชำ
“แม้ราคาสินค้าจะสูงขึ้นจากมาตรการภาษีใหม่ของรัฐบาลยุคทรัมป์ คุณอาจต้องเปลี่ยนเมนูอาหาร แต่คุณก็ยังจำเป็นต้องกินอยู่ดี นั่นทำให้คนในสายงานบริการร้านอาหารยังคงไปต่อได้” สตาห์ล อธิบาย
อาชีพไหน "ไปรอด" อาชีพไหน "ไม่รอด" ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว?
สายงานภาคสาธารณสุขถือเป็นหนึ่งในกลุ่มงานที่มั่นคงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น 1.พยาบาล 2.แพทย์ 3.ศัลยแพทย์ 4.นักบำบัด ซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้นตั้งแต่ยุคโควิด-19 และยังไม่มีวี่แววจะลดลง
ด้านแรงงานค้าปลีกเองก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดงานเช่นกัน โดยเฉพาะตำแหน่งงานในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายของจำเป็น ได้แก่ 5.พนักงานแคชเชียร์ 6.พนักงานจัดสินค้า และ 7.พนักงานคลังสินค้าและโลจิสติกส์
ตรงกันข้าม งานในสายเทคฯ อย่าง "นักพัฒนาโปรแกรม" หรือ "สายการตลาด" กลับเริ่มเผชิญแรงสั่นสะเทือนจากตลาดงาน โดยเฉพาะหากอยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์คนดังกล่าวชี้ว่า นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทำงานในโรงพยาบาล อาจมีความมั่นคงมากกว่าผู้ที่ทำงานในบริษัทเทคโนโลยีโดยตรง นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Indeed ยังระบุด้วยว่า ภูมิภาคที่ตลาดงานแข็งแกร่งที่สุดในสหรัฐฯ ตอนนี้คือ "ภาคใต้" ซึ่งการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด ในขณะที่ภาคตะวันตกและตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ เริ่มซบเซา โดยเฉพาะกลุ่มงานเทคโนโลยีที่ชะลอตัวอย่างชัดเจน
เปิด 7 อาชีพสุดแกร่ง ยุคไหนก็ไม่ตกงาน ต้านทานเศรษฐกิจถดถอย
กลุ่มงานที่มั่นคงมากที่สุด ได้แก่ 1.พยาบาล 2.แพทย์ 3.ศัลยแพทย์ 4.นักบำบัด 5.พนักงานแคชเชียร์ 6.พนักงานจัดสินค้า และ 7.พนักงานคลังสินค้าและโลจิสติกส์
ในปี 2024 ตำแหน่งงานใหม่ๆ มากถึง 75% มาจากภาคอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ, ภาคการท่องเที่ยว, บริการในร้านค้า ในขณะเดียวกัน งานพัฒนาซอฟต์แวร์หดตัวลงถึง 33%
เมื่อความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้น วัยทำงานในสหรัฐและทั่วโลกจำนวนไม่น้อยเริ่มมองหาอาชีพที่มั่นคงและปลอดภัยกว่าในยุคที่โลกนี้ผันผวนไม่แน่นอน ภาคธุรกิจและองค์กรต่างก็ปรับแผนการบริหาร รัดเข็มขัดมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจในหลายภาคอุตสาหกรรมต้องปลดพนักงานออกจำนวนมาก
แต่มีบางอาชีพหรือสายงานบางประเภท อาจได้รับผลกระทบน้อยกว่างานอื่นๆ อย่างชัดเจน ยืนยันจาก "คอรี สตาห์ล" (Cory Stahle) นักเศรษฐศาสตร์ของเว็บไซต์จัดหางาน Indeed เขาออกมาวิเคราะห์ถึงประเด็นนี้ว่า มีบางอาชีพที่ยังคงไปรอดในทุกยุคสมัยไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า อาชีพที่ถือว่า “ทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย” มากที่สุด คือ อาชีพที่ใกล้ชิดกับสินค้าหรือบริการจำเป็น เช่น การแพทย์และร้านขายของชำ
“แม้ราคาสินค้าจะสูงขึ้นจากมาตรการภาษีใหม่ของรัฐบาลยุคทรัมป์ คุณอาจต้องเปลี่ยนเมนูอาหาร แต่คุณก็ยังจำเป็นต้องกินอยู่ดี นั่นทำให้คนในสายงานบริการร้านอาหารยังคงไปต่อได้” สตาห์ล อธิบาย
อาชีพไหน "ไปรอด" อาชีพไหน "ไม่รอด" ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว?
สายงานภาคสาธารณสุขถือเป็นหนึ่งในกลุ่มงานที่มั่นคงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น 1.พยาบาล 2.แพทย์ 3.ศัลยแพทย์ 4.นักบำบัด ซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้นตั้งแต่ยุคโควิด-19 และยังไม่มีวี่แววจะลดลง
ด้านแรงงานค้าปลีกเองก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดงานเช่นกัน โดยเฉพาะตำแหน่งงานในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายของจำเป็น ได้แก่ 5.พนักงานแคชเชียร์ 6.พนักงานจัดสินค้า และ 7.พนักงานคลังสินค้าและโลจิสติกส์
ตรงกันข้าม งานในสายเทคฯ อย่าง "นักพัฒนาโปรแกรม" หรือ "สายการตลาด" กลับเริ่มเผชิญแรงสั่นสะเทือนจากตลาดงาน โดยเฉพาะหากอยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์คนดังกล่าวชี้ว่า นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทำงานในโรงพยาบาล อาจมีความมั่นคงมากกว่าผู้ที่ทำงานในบริษัทเทคโนโลยีโดยตรง นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Indeed ยังระบุด้วยว่า ภูมิภาคที่ตลาดงานแข็งแกร่งที่สุดในสหรัฐฯ ตอนนี้คือ "ภาคใต้" ซึ่งการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด ในขณะที่ภาคตะวันตกและตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ เริ่มซบเซา โดยเฉพาะกลุ่มงานเทคโนโลยีที่ชะลอตัวอย่างชัดเจน