ถ้า NJZ (NewJeans) ยกเลิกสัญญาได้สำเร็จ ไม่ใช่แค่ชนะ HYBE แต่จะเปลี่ยนมาตรฐานการทำงานของวงการ K-POP ไปอีกระดับ
> ข้อดีต่อวงการ K-POP ถ้า NJZ ยกเลิกสัญญาได้
1. ศิลปินรุ่นใหม่มี "อำนาจต่อรอง" มากขึ้น
ปกติไอดอลที่เดบิวต์ใหม่ ๆ เซ็นสัญญาแบบ "กินเปล่า 7 ปี" คือบริษัทได้สิทธิ์เกือบหมด ศิลปินแทบไม่มีสิทธิ์อะไรเลย
ถ้า NJZ ยกเลิกได้ = มันจะสร้าง "Precedent" (ตัวอย่างทางกฎหมาย) ว่า ถ้าค่ายทำเกินเลยหรือไม่ดูแลจริง ศิลปินมีสิทธิ์ทวงคืนอนาคตตัวเอง
ค่ายอื่น ๆ จะระวังตัว ต้องออกสัญญาที่ แฟร์ขึ้น ตั้งแต่ต้น เพราะกลัวถูกฉีกตาม
→ ดีต่อเด็กฝึกและศิลปินหน้าใหม่ทุกคนในอนาคต
---
2. ยกระดับมาตรฐาน "การดูแลศิลปิน"
ปกติค่ายมักเอาเปรียบเด็ก เช่น:
ให้ทำงานเกินชั่วโมงที่กฎหมายกำหนด
ไม่ให้อิสระทางศิลปะ
บีบให้ศิลปินต้องทำตามคำสั่งทุกอย่างแม้ไม่สมเหตุสมผล
ถ้า NJZ ฉีกสัญญาสำเร็จ = ค่ายใหญ่ ๆ จะเริ่มกลัวการถูกฟ้อง
ผลลัพธ์คือ:
ต้องดูแลสุขภาพกาย/ใจศิลปินดีขึ้น
ต้องมีมาตรฐานที่ตรวจสอบได้
ลดการใช้อำนาจเกินขอบเขตลง
→ เปลี่ยนจากระบบ "ไอดอลเป็นทรัพย์สิน" เป็น "ไอดอลเป็นพาร์ทเนอร์"
---
3. ปลดล็อกเรื่อง "สิทธิ์การทำงานและสร้างสรรค์"
ปัจจุบัน ศิลปินเคป๊อบ ไม่มีสิทธิ์เลือกเพลง, คอนเซ็ปต์, หรือเส้นทางอาชีพตัวเอง ได้ง่าย ๆ
ถ้า NJZ ได้ชัยชนะ
จะเป็นต้นแบบให้ศิลปินรุ่นใหม่ กล้าทวงคืนสิทธิ์ในการสร้างผลงานของตัวเอง
แนวทางไอดอลรุ่นใหม่จะกลายเป็น "Artist-driven" มากขึ้น (เหมือนในตะวันตก) แทนที่จะเป็น "Company-driven" แบบเดิม
→ ทำให้เคป๊อบในอนาคตมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่ผลิตสำเร็จรูปเหมือนเดิม
---
4. ลดการผูกขาดของ Big 4 (HYBE, SM, JYP, YG)
ตอนนี้ Big 4 ถือหุ้นและบีบวงการทั้งศิลปิน, โปรดิวเซอร์, สื่อ ฯลฯ ไว้แทบหมด
ถ้า NJZ ชนะจากการสู้กับ HYBE → มันจะเป็น สัญญาณเตือน ไปถึงค่ายใหญ่ ๆ ว่า
"นายทุนใหญ่ก็ไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย"
เปิดโอกาสให้ค่ายเล็ก, โปรดิวเซอร์อิสระ, หรือแม้แต่ศิลปินเดบิวต์เอง มีทางรอดในระบบมากขึ้น
→ ทำให้วงการเคป๊อบมี "ทางเลือก" มากขึ้น ไม่ใช่โดนผูกขาดเหมือนทุกวันนี้
---
5. ปลุก "ความตื่นตัว" ของแฟนเคป๊อบทั่วโลก
แฟนเคป๊อบสมัยก่อนโฟกัสที่ "งานศิลปิน" แต่ไม่ค่อยใส่ใจเรื่อง "สิทธิ์ของศิลปิน"
ถ้า NJZ ฉีกสัญญาสำเร็จ
จะจุดกระแส "Awareness" (ความตระหนักรู้) ในหมู่แฟน ๆ ว่า ศิลปินมีสิทธิ์อะไรบ้าง
แฟน ๆ จะเริ่มเรียกร้องการดูแลศิลปินอย่างถูกต้อง ไม่ใช่แค่สนุกกับคอนเทนต์อย่างเดียว
ทำให้ค่ายไม่กล้าทำอะไรแอบแฝง เพราะแฟนจับตามองตลอด
→ เปลี่ยนฐานแฟน K-pop จาก "ผู้บริโภคเฉย ๆ" เป็น "ผู้พิทักษ์ศิลปิน" มากขึ้น
---
สรุปสั้น ๆ
ถ้า NJZ ยกเลิกสัญญาได้สำเร็จ =
> ไม่ใช่แค่ชนะ HYBE แต่ ทั้งวงการ K-POP จะเปลี่ยนมาตรฐานการทำงาน และความสัมพันธ์ระหว่างศิลปิน-บริษัทไปอีกระดับ
→ K-POP จะเข้าสู่ยุคที่ศิลปินมีเสียงและสิทธิ์ของตัวเองจริง ๆ เป็นครั้งแรก
ถ้า NJZ (NewJeans) ยกเลิกสัญญาได้สำเร็จ ไม่ใช่แค่ชนะ HYBE แต่จะเปลี่ยนมาตรฐานการทำงานของวงการ K-POP ไปอีกระดับ
> ข้อดีต่อวงการ K-POP ถ้า NJZ ยกเลิกสัญญาได้
1. ศิลปินรุ่นใหม่มี "อำนาจต่อรอง" มากขึ้น
ปกติไอดอลที่เดบิวต์ใหม่ ๆ เซ็นสัญญาแบบ "กินเปล่า 7 ปี" คือบริษัทได้สิทธิ์เกือบหมด ศิลปินแทบไม่มีสิทธิ์อะไรเลย
ถ้า NJZ ยกเลิกได้ = มันจะสร้าง "Precedent" (ตัวอย่างทางกฎหมาย) ว่า ถ้าค่ายทำเกินเลยหรือไม่ดูแลจริง ศิลปินมีสิทธิ์ทวงคืนอนาคตตัวเอง
ค่ายอื่น ๆ จะระวังตัว ต้องออกสัญญาที่ แฟร์ขึ้น ตั้งแต่ต้น เพราะกลัวถูกฉีกตาม
→ ดีต่อเด็กฝึกและศิลปินหน้าใหม่ทุกคนในอนาคต
---
2. ยกระดับมาตรฐาน "การดูแลศิลปิน"
ปกติค่ายมักเอาเปรียบเด็ก เช่น:
ให้ทำงานเกินชั่วโมงที่กฎหมายกำหนด
ไม่ให้อิสระทางศิลปะ
บีบให้ศิลปินต้องทำตามคำสั่งทุกอย่างแม้ไม่สมเหตุสมผล
ถ้า NJZ ฉีกสัญญาสำเร็จ = ค่ายใหญ่ ๆ จะเริ่มกลัวการถูกฟ้อง
ผลลัพธ์คือ:
ต้องดูแลสุขภาพกาย/ใจศิลปินดีขึ้น
ต้องมีมาตรฐานที่ตรวจสอบได้
ลดการใช้อำนาจเกินขอบเขตลง
→ เปลี่ยนจากระบบ "ไอดอลเป็นทรัพย์สิน" เป็น "ไอดอลเป็นพาร์ทเนอร์"
---
3. ปลดล็อกเรื่อง "สิทธิ์การทำงานและสร้างสรรค์"
ปัจจุบัน ศิลปินเคป๊อบ ไม่มีสิทธิ์เลือกเพลง, คอนเซ็ปต์, หรือเส้นทางอาชีพตัวเอง ได้ง่าย ๆ
ถ้า NJZ ได้ชัยชนะ
จะเป็นต้นแบบให้ศิลปินรุ่นใหม่ กล้าทวงคืนสิทธิ์ในการสร้างผลงานของตัวเอง
แนวทางไอดอลรุ่นใหม่จะกลายเป็น "Artist-driven" มากขึ้น (เหมือนในตะวันตก) แทนที่จะเป็น "Company-driven" แบบเดิม
→ ทำให้เคป๊อบในอนาคตมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่ผลิตสำเร็จรูปเหมือนเดิม
---
4. ลดการผูกขาดของ Big 4 (HYBE, SM, JYP, YG)
ตอนนี้ Big 4 ถือหุ้นและบีบวงการทั้งศิลปิน, โปรดิวเซอร์, สื่อ ฯลฯ ไว้แทบหมด
ถ้า NJZ ชนะจากการสู้กับ HYBE → มันจะเป็น สัญญาณเตือน ไปถึงค่ายใหญ่ ๆ ว่า "นายทุนใหญ่ก็ไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย"
เปิดโอกาสให้ค่ายเล็ก, โปรดิวเซอร์อิสระ, หรือแม้แต่ศิลปินเดบิวต์เอง มีทางรอดในระบบมากขึ้น
→ ทำให้วงการเคป๊อบมี "ทางเลือก" มากขึ้น ไม่ใช่โดนผูกขาดเหมือนทุกวันนี้
---
5. ปลุก "ความตื่นตัว" ของแฟนเคป๊อบทั่วโลก
แฟนเคป๊อบสมัยก่อนโฟกัสที่ "งานศิลปิน" แต่ไม่ค่อยใส่ใจเรื่อง "สิทธิ์ของศิลปิน"
ถ้า NJZ ฉีกสัญญาสำเร็จ
จะจุดกระแส "Awareness" (ความตระหนักรู้) ในหมู่แฟน ๆ ว่า ศิลปินมีสิทธิ์อะไรบ้าง
แฟน ๆ จะเริ่มเรียกร้องการดูแลศิลปินอย่างถูกต้อง ไม่ใช่แค่สนุกกับคอนเทนต์อย่างเดียว
ทำให้ค่ายไม่กล้าทำอะไรแอบแฝง เพราะแฟนจับตามองตลอด
→ เปลี่ยนฐานแฟน K-pop จาก "ผู้บริโภคเฉย ๆ" เป็น "ผู้พิทักษ์ศิลปิน" มากขึ้น
---
สรุปสั้น ๆ
ถ้า NJZ ยกเลิกสัญญาได้สำเร็จ =
> ไม่ใช่แค่ชนะ HYBE แต่ ทั้งวงการ K-POP จะเปลี่ยนมาตรฐานการทำงาน และความสัมพันธ์ระหว่างศิลปิน-บริษัทไปอีกระดับ
→ K-POP จะเข้าสู่ยุคที่ศิลปินมีเสียงและสิทธิ์ของตัวเองจริง ๆ เป็นครั้งแรก