หลังจากการสูญเสียพระชายา พระศิวะผู้ยิ่งใหญ่ได้ปลีกตัวเข้าบำเพ็ญเพียรในความสงบ ไม่ใส่ใจต่อสิ่งใดในโลกมนุษย์หรือสวรรค์
เหล่าเทพทั้งหลายเริ่มกังวล… เพราะปีศาจตนหนึ่งกำลังแผ่ขยายอำนาจ ไม่มีใครสยบมันได้ นอกจากบุตรที่เกิดจากพระศิวะกับพระแม่ปารวตี แต่พระศิวะไม่สนใจความรักหรือโลกอีกต่อไป
“กามา” เทพแห่งความรัก ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องหัวใจของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
“เจ้าเท่านั้นที่ทำให้พระศิวะหันกลับมา จงไปปลุกหัวใจท่าน!
เพียงเบา ๆ กามาเหวี่ยงลูกศรแห่งราคะ…
กลิ่นหอมของฤดูใบไม้ผลิปกคลุม
เสียงนกขับขาน
สายลมอ่อนพัดผ่าน
พระศิวะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น พบกับพระแม่ปารวตีผู้เปี่ยมเสน่ห์ยืนอยู่เบื้องหน้า… หัวใจที่เคยแข็งกระด้างเริ่มสั่นไหว
แต่เพียงชั่วขณะ พระศิวะรู้ตัวว่าถูกแทรกแซงสมาธิ ด้วยโทสะอันแรงกล้า พระองค์เบิก ตาที่สาม ขึ้นกลางหน้าผาก เปลวเพลิงพุ่งออกมา…เพียงพริบตา กามาถูกเผามอดไหม้ กลายเป็นเถ้าธุลี
ความรักสูญสิ้น…
แต่พลังของกามาไม่ได้ตายไป
ภรรยาผู้โศกเศร้า อ้อนวอนพระศิวะด้วยหัวใจอันแตกสลาย…เมื่อเห็นความรักอันแท้จริง ก็สงสาร จึงมอบชีวิตใหม่ให้แก่กามา —ในรูปแบบ “อนังคะ” (Ananga) คือมีอยู่โดยไร้รูปร่าง เป็นพลังที่ไร้ตัวตนแต่อบอวลอยู่ในโลก
ตั้งแต่นั้นมา ความรัก ความใคร่ และแรงปรารถนา จึงยังคงอยู่ในโลกนี้ แม้เราจะมองไม่เห็นก็ตาม
กามเทพ (Kāma / काम) “กามา ผู้ถูกเผาไหม้ด้วยตาที่สาม”
หลังจากการสูญเสียพระชายา พระศิวะผู้ยิ่งใหญ่ได้ปลีกตัวเข้าบำเพ็ญเพียรในความสงบ ไม่ใส่ใจต่อสิ่งใดในโลกมนุษย์หรือสวรรค์