JJNY : 5in1 ปชน.ลุยตลาดเช้าฉวาง│ลิซ่าชี้ลต.ซ่อมนครศรีฯ│จำใจเทน้ำนมดิบทิ้ง│‘บาทอ่อน-ดัชนีหุ้นแผ่ว’│อินเดีย-ปากีสถานระส่ำ

.

.

เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ตลาดนัดเช้าวันเสาร์ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พรรคประชาชน (ปชน.) นำโดย นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค, น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรค, น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. พร้อมด้วย “ดร.นัท” นายณัฐกิตต์ อยู่ด้วง-ปรีชา ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 8 เบอร์ 3 เดินพบปะพ่อค้าแม่ค้าและพี่น้องประชาชนในตลาด เพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในช่วงโค้งสุดท้าย โดยมีประชาชนให้ความสนใจ เดินเข้ามาทักทายและรับแผ่นพับแนะนำผู้สมัครอย่างคับคั่ง

.

นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำว่า ขอพี่น้องประชาชนชาวฉวาง พรุ่งนี้เข้าคูหากาเบอร์ 3 เลือก “ดร.นัท-ณัฐกิตต์” เข้าไปทำงานในสภาฯ สะท้อนปัญหาของชาวนครศรีธรรมราชเข้าไปแก้ปัญหาผ่านกลไกนิติบัญญัติ พร้อมเดินหน้าตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเต็มที่ ยืนยันว่า ดร.นัทคือคนที่ทำงานร่วมกับตนมานานในคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ คือ คนจริง ทำงานจริง พร้อมชนกับทุกอิทธิพลในพื้นที่ วันพรุ่งนี้ (27 เม.ย.) คำตอบสุดท้ายคำตอบเดียวคือ ดร.นัท กาเบอร์ 3 ฉวางเปลี่ยนทันที นครศรีธรรมราชเปลี่ยนทันที

เมื่อวันที่ 26 เมษายน น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงสถานการณ์ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนของการเมืองไทยในปัจจุบัน ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลแข่งขันกันอย่างดุเดือดในสนามเลือกตั้ง แต่สุดท้ายก็เข้าไปร่วมหัวจมท้าย เป็นองคาพยพ เป็นหางเครื่องให้รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยเหมือนกันหมด นี่คือ ‘ละครการเมือง’ ฉากใหญ่ที่ไม่มีพี่น้องประชาชนอยู่ในสมการ

.

วันนี้ปัญหาหลักของประเทศ คือโจทย์ของพี่น้องประชาชนที่ต้องการการแก้ปัญหาปากท้องอย่างเร่งด่วน สวนทางกับโจทย์ของรัฐบาลที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง ตั้งแต่การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีแบบแบ่งเค้ก ไม่ได้คัดเลือกบุคคลตามความรู้ความสามารถ สุดท้ายก็เอาชีวิตของประชาชนและชะตากรรมของบ้านเมืองไปฝากไว้กับการแก้ไขปัญหาของนายกรัฐมนตรี รัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถส่งมอบนโยบายอะไรให้กับประชาชนที่เป็นผลประโยชน์จับต้องได้ การปฏิรูปการเมืองก็ล้มเหลว การแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนก็จับต้องอะไรไม่ได้

.

น.ส.ภคมนกล่าวต่อไปว่า สถานการณ์ของรัฐบาลในเวลานี้คือการเริ่มนับเวลาถอยหลังแล้ว รัฐมนตรีต่างคนต่างเอาตัวรอด พรรคแกนนำรัฐบาลเองก็หวาดกลัวการยุบสภา เพราะรู้ดีว่าหากต้องลงสนามเลือกตั้งอีกครั้งก็จะไม่มีอะไรไปนำเสนอประชาชนได้อย่างภาคภูมิ จึงพยายามประคับประคองอยู่ด้วยกันให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ หลังจากนี้เราจะได้เห็นรัฐบาลพยายามปั้นตัวเลขขึ้นมาว่าเศรษฐกิจยังดี ประเทศมีความก้าวหน้า เพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ รวมถึงการผลักดันนโยบายแบบลูบหน้าปะจมูกอย่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ประชาชนได้ประโยชน์หรือเปล่าไม่รู้ แต่มีคนที่จะได้ประโยชน์จากการสะสมกระสุนเพื่อเตรียมพร้อมเลือกตั้งครั้งต่อไปแน่นอน

.

น.ส.ภคมนย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ คือการที่ประชาชนต้องร่วมกันส่งเสียงไปถึงรัฐบาล ว่าจะไม่ยอมทนกับการบริหารบ้านเมืองที่ล้มเหลวแบบนี้อีกต่อไปแล้ว และหนึ่งในวิธีการส่งเสียงที่ทรงพลังที่สุดในระบอบประชาธิปไตย ก็คือการเลือกตั้ง

.

“วันพรุ่งนี้ อาทิตย์ที่ 27 เมษายน ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวนครศรีธรรมราช เขต 8 เลือก ‘ดร.นัท’ ณัฐกิตต์ อยู่ด้วง-ปรีชา เบอร์ 3 ร่วมกันส่งตัวแทนฝ่ายค้านเข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียง ตรวจสอบ กำกับ และกดดันให้รัฐบาลทำงานได้ดีกว่านี้ ทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนมากกว่านี้ ถ้าทำไม่ไหว ก็ควรยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน” น.ส.ภคมนกล่าว

.

.

เกษตรกรจำใจเททิ้งน้ำนมดิบบริษัทเอกชนยุติรับซื้อ ทำให้ไม่มีที่ชาย ผู้บริโภคหันกินนมผงจากต่างปะเทศ ผลจาก มติ ครม.ห้ามขายนมข้ามเขต สหกรณ์ฯ ประกาศแจกฟรีหลังจากปิดรับซื้อ 29 เมษายนนี้
.
วานนี้ (25 เม.ย.) นายเกียรติศักดิ์ มูลพนัสสัก อายุ 39 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ชาวบ้านทาทุ่งไผ่ ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน เปิดเผยว่า ตนเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม 1 ใน 32 รายของสหกรณ์โคนมแม่ทา ซึ่งตนได้ลงทุนเลี้ยงโคนมไปหลายล้านบาท เลี้ยงมาไม่ต่ำกว่า 7 ปี ซึ่งเป็นอาชีพที่สืบทอดมาจากพ่อแม่ ซึ่งช่วงแรกขายน้ำนมดิบให้สหกรณ์ฯ ราคากิโลกรัมละ 22 บาท มานานหลายปี แต่มาระยะหลัง บริษัทเอกชน ที่ จ.สระบุรี ที่ทำสัญญาหรือ MOU รับซื้อน้ำนมดิบจากสหกรณ์โคนมแม่ทา ได้แจ้งยุติรับซื้อเนื่องจากมติ ครม.ให้มีการนำนมผงเข้ามาจำหน่ายและการห้ามขายนมข้ามเขต ทำให้บริษัทดังกล่าวไม่สามารถรับซื้อน้ำนมดิบของสหกรณ์โคแม่ทาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา

.

ซึ่งสหกรณ์โคนมแม่ทา ได้แบกภาระรับซื้อน้ำนมจากลูกสมาชิกวันละ 11.7 ตัน คิดเป็นเงินประมาณ 3 แสนบาทต่อวัน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้หรือจัดหาผู้ซื้อน้ำนมดิบรายใหม่มาช่วยรับซื้อน้ำนมดิบจากสหกรณ์ฯ ต่อจากผู้รับซื้อรายเดิมที่ยกเลิกออร์เดอร์ไปก่อนหน้านี้
.
อย่างไรก็ตามที่มีการรับซื้อจากเกษตรกร เมื่อไม่สามารถระบายน้ำนมดิบได้และเกิดเน่าเสีย ต้องเททิ้ง เพราะน้ำนมดิบ ที่ไม่ได้เข้าห้องเย็นอยู่ได้เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ทางสหกรณ์ฯ จะปิดรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร ในวันที่ 29 เมษายน นี้ ในขณะนี้ทางสหกรณ์โคนมแม่ทา ได้แจกน้ำนมดิบฟรี โดยผู้สนใจนำถังมาใส่ได้ ซึ่งน้ำนมดิบที่แจกให้ไม่สามารถนำไปบริโภคได้ทำปุ๋ยอย่างเดียว
.
ขณะที่นางสาวศุภิสรา กันธิมาพงษ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์นมฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สหกรร์มีสมาชิกทั้งหมด 32 ราย มีวัวนมอยู่ในการเลี้ยงดูประมาณ 2 พันตัว หลังจากนี้จะทำให้สมาชิกสหกรณ์ทั้งหมดได้รับควาทเดือดร้อนอย่างแน่นอน เนื่องจากต้องรับภาระค่าเลี่ยงดูวัว แต่ไม่มีที่รับซื้อน้ำนมดิบ
.
แหล่งข่าวได้เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทางบริษัทเอกชนที่ไม่รับซื้อน้ำนมดิบ เนื่องจากในปัจจุบัน ผู้บริโภคหันมาใช้นมผง ที่นำเข้าจากต่างประเทศแทน ประกอบกับอยู่ในช่วงปิดเทอม บริษัทผู้ผลิตนมโรงเรียนได้ลดการผลิตลง จึงส่งผลให้น้ำนมดิบล้นตลาดดังกล่าว
.
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/NTBxy86ft8w

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ธนาคารกสิกรไทย มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ช่วงวันที่ 28 เมษายนถึง 2 พฤษภาคม 2568 อยู่ที่ระดับ 33.00-34.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากวันที่ 25 เมษายน เงินบาทปิดตลาด 33.54 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เงินบาทแข็งค่าขึ้นตามการพุ่งขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ซึ่งขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. ในวันที่ 30 เมษายน รายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนมีนาคมของไทย สถานการณ์ของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ และผลการประชุม BOJ

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องชี้แรงงาน JOLTS ดัชนีราคา PCE/Core PCE ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนมีนาคมตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิต ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนเม.ย. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI เดือนเมษายนของจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ และยูโรโซน ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 และอัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายนของยูโรโซนด้วยเช่นกัน

.
แรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของต่างชาติ และการแข็งค่าของสกุลเงินเอเชียอื่นๆ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่เผชิญแรงกดดันต่อเนื่องจากความกังวลต่อผลกระทบของ Tariffs ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และประเด็นความขัดแย้งระหว่างปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานเฟด โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 เดือนครั้งใหม่ที่ 33.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ

.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า วันที่ 28 เมษายนถึง 2 พฤษภาคม ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,140 และ 1,125 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,175 และ 1,190 จุด ตามลำดับ จากวันศุกร์ที่ 25 เมษายน ดัชนี SET ปิดที่ 1,159.00 จุด เพิ่ม 0.70% มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 36,044.79 ล้านบาท เพิ่ม 9.53% ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้า หลังจากมีรายงานข่าวว่าสหรัฐฯ จะกดดันให้ประเทศอื่นๆ โดดเดี่ยวจีน ซึ่งจีนก็พร้อมตอบโต้ประเทศที่ให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ประกอบกับมีการเลื่อนการเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ส่งผลให้เกิดแรงเทขายทำกำไรในหุ้นทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ที่ประกาศผลประกอบการเสร็จสิ้นไปแล้ว

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. ผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ของบจ.ไทย ประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนมีนาคม ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิต ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงานเดือนเมษายน ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

.

ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ การประชุม BOJ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนเมษายนของจีน ญี่ปุ่น อังกฤษและยูโรโซน ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2568 และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเมษายนของยูโรโซน