JJNY : เอกชนหนุนรัฐกู้เงินเตรียมรับวิกฤต│แอตต้าอ้อนรัฐของบ 320 ล้าน│ทรัมป์ ไม่พอใจปูตินโจมตีเคียฟ│เตือนระวังพายฤดูร้อน

เอกชนหนุนรัฐกู้เงินเตรียมรับวิกฤตมาถูกทาง ย้ำต้องไม่แจก-ใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ
.
.
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภานายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า แนวคิดในการกู้เงินเพิ่ม 5 แสนล้านบาทของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น เบื้องต้นมองว่ารัฐบาลน่าจะประเมินภาพเศรษฐกิจไว้ในรูปแบบที่เลวร้ายสูงสุด ในกรณีเจรจาร่วมกับสหรัฐไทยสำเร็จ ถูกขึ้นภาษีสูงกว่าเดิม หรือสงครามภาษีทั่วโลกรุนแรงมากขึ้นส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม เพราะไทยส่งออกสินค้าไปค้าขายกับทั่วโลก ทั้งสินค้าเกษตร และเทคโนโลยี ความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ยังมี ทำให้การกู้เงินมาเตรียมไว้รับมือกับสถานการณ์ความเสี่ยงก็มีเช่นกัน แต่ต้องเน้นย้ำถึงประสิทธิภาพในการใช้เงินงบประมาณ ต้องดำเนินการกับมาตรการที่มีความจำเป็นจริงๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สำเร็จจริงๆ
.
“ภาพเหมือนตอนเกิดโควิด-19 ที่รัฐบาลประยุทธ์ ได้กู้เงินมาเพื่อแก้ไขภาวะวิกฤตเช่นกัน รับมือกับการจ้างงานที่อาจเพิ่มสูงขึ้นจนกระทบเศรษฐกิจ โดยได้กู้เงินมาทำโครงการปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการในดอกเบี้ยต่ำ แลกกับการไม่เลิกจ้างงาน แต่ภาวะตอนนี้ยังไม่ชัดเจนขนาดนั้น เพราะฝุ่นยังตลบอยู่ การหารือกับสหรัฐยังไม่เห็นว่าจะออกไปในทางไหน จึงถือว่าดีหากรัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้รับมือกับภาวะฉุกเฉิน แต่กับนโยบายแบบประชานิยมไม่เห็นด้วย เพราะรัฐบาลนี้ชอบแจกเงิน ซึ่งมองว่าการแจกเงินดิจิทัลไม่ได้เห็นผลต่อเศรษฐกิจขนาดนั้น” นายธนิต กล่าว
.
นายธนิต กล่าวว่า สิ่งที่ต้องระมัดระวังคือ การกู้เงินใรรอบนี้จะไม่เหมือนโควิดอย่างสิ้นเชิง เพราะประเทศไทยยังมีแผลเป็นจากโควิดอยู่ ทำให้เกิดภาวะหนี้ครัวเรือนอยู่ รวมถึงหนี้เสียด้วย รัฐบาลจึงต้องทำควบคู่กันในการปรับโครงสร้างหนี้ของประชาชน และธุรกิจ รวมถึงผู้ที่ติดเครดิตบูโร หากมีศักยภาพมากขึ้นก็อยากให้ปรับออกจากเครดิตบูโร เพื่อให้ทำธุรกรรมด้านการเงินได้ดีมากขึ้น โดยความกังวลว่า การกู้เงินจะซ้ำเติบภาวะหนี้สูงอีกหรือไม่ ต้องบอกว่าหากคนจะตาย จะเสียดายเลือดสำรอง ยา หรือน้ำเกลือทำไม ต้องช่วยให้รอดก่อน
.

.
แอตต้า อ้อนรัฐของบ 320 ล้าน ปั๊มตลาดจีนพ้นไอซียู หมดเวลาไทยครองที่หนึ่งท่องเที่ยว
https://www.matichon.co.th/economy/news_5152856
.
นายธนพล ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ข้อมูลจากการสำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีน พบว่ามีการฟื้นตัวสู่เติบโตอย่างรวดเร็ว สะท้อนผ่านการเดินทางของพลเมืองจีน สู่การกำหนดนิยามใหม่ของการท่องเที่ยวทั่วโลก โดยจากข้อมูลเชิงลึกในการสำรวจกลุ่มตัวอย่างกว่า 15,082 คน ผลสุดท้ายชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจีนตกอันดับไปจากเดิมในไตรมาส 4/2567 อยู่อันดับที่ 4 แต่ไตรมาส 1/2568 หล่นลงไปอยู่ที่อันดับ 7 ทำให้ต้องเร่งฟื้นฟูตลาดนักท่องเที่ยวจีนกลับคืนมา เพราะตัวเลข 70-80% ของนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวไทย มาจากเอเจนต์ทัวร์เป็นหลัก และส่วนใหญ่ก็เข้ามาจากสมาชิกของแอตต้า จึงได้เสนอของบประมาณ 300 ล้านบาทเพื่อทำโครงการให้นำผู้ประกอบการและอินฟลูเอนเซอร์จีนเข้ามาผ่านการเช่าเหมาลำ นำร่องจำนวน 1,000 เที่ยวบิน พิจารณาใน 20 เมืองรองจากจีนเข้ามาเที่ยวไทย ซึ่งประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาอยู่ประมาณ 150 คนต่อเที่ยวบิน เท่ากับจะได้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นหลักแสนคน เพราะขณะนี้นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน มียอดนักท่องเที่ยวจีนยกเลิกเที่ยวไทยแล้วกว่า 20%
.
นายธนพล กล่าวว่า ในส่วนความร่วมมือของผู้นำทางความคิด หรือเคโอแอลชาวจีน ที่ได้ทำตลาดร่วมกันผ่านการดึงเข้ามาเที่ยวไทยก่อนหน้านี้นั้น หากเป็นสถานการณ์ปัจจุบันมองว่าถึงเข้ามาก็ไม่ได้ช่วยฟื้นฟูตลาดท่องเที่ยวไทยได้มากนัก เพราะกลุ่มเคโอแอลเหล่านี้ไม่กล้าขัดกระแสของคนส่วนใหญ่ในประเทศจีน จึงต้องแก้เกมด้วยการนำนักท่องเที่ยวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์เข้ามาให้ได้ก่อนผ่านเที่ยวบินเช่าเหมาลำเลย เพื่อการันตีจำนวนที่จะเข้ามาอย่างแน่นอน รวมถึงของบอีกก้อน 20 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรม MEGA FAM Trip โดยจะเชิญผู้ประกอบการจีน และสื่อของรัฐบาลจีนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อให้ได้รับประสบการณ์แบบของจริง ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มนี้จะสามารถสื่อสารภาพที่เกิดขึ้นจริงออกไปในวงกว้างได้มากกว่ากลุ่มเคโอแอล แต่ต้องกำหนดเงื่อนไขเส้นทางให้กระจายการท่องเที่ยวออกไปในหลายพื้นที่ หลายจังหวัด ไม่ให้กระจุกตัวอยู่แค่เมืองท่องเที่ยวหลักเท่านั้น
.
“ตัวอย่างประเทศเพื่อนบ้านไทยในอาเซียนด้วยกันอย่างเวียดนาม ก็เห็นมีการลงทุนซื้อนักท่องเที่ยวจีนแบบเป็นกรุ๊ปทัวร์เข้าไปเที่ยวในประเทศเหมือนกัน ส่วนจีนก็มีการทำตลาดในรูปแบบเดียวกัน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ อาทิ หางโจว มีการทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งรวมคนไทยเข้าไปเที่ยวในเมืองนั้นๆ มากขึ้น ผ่านการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากรัฐบาล มีข้อมูลเบื้องต้นคิดเป็นมูลค่าอยู่ประมาณ 700,000 บาทต่อเที่ยวบิน จึงอยากให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประสานรัฐบาลของบรวม 320 ล้านบาทในการทำตลาดรูปแบบนี้” นายธนพล กล่าว
.
นายธนพล กล่าวว่า ในส่วนของการทำตลาดอื่นๆ นำมาชดเชยตลาดจีนที่ปรับตัวลดลงนั้น แม้มีการมองว่าตลาดอื่นก็สามารถช่วยได้เหมือนกัน ทำไมจึงไม่ไปทำตลาดอื่นแทน ต้องบอกว่า ขณะนี้ตลาดที่อยู่ในไอซียูคือตลาดจีน จึงจำเป็นต้องแก้ไขตลาดที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินหนักก่อน หากยิ่งไม่ทำอะไรจะยิ่งหนักมากกว่าเดิมลึกไปเรื่อยๆ จึงต้องช่วยให้ตลาดจีนฟื้นจากไอซียูก่อน รวมถึงตลาดอื่นก็ยังเติบโตด้วยตัวเองได้อยู่ โดยภาวะท่องเที่ยวไทยในปัจจุบัน เปรียบเทียบกับช่วงโควิด-19 ระบาดหนักๆ ท่องเที่ยวถูกกระทบเพราะคนไปเที่ยวไม่ได้ การเดินทางหยุดชะงักไป แต่ตอนนี้หนักกว่าช่วงโควิดอีก เพราะคนไปเที่ยวที่อื่นแต่ไม่มาเที่ยวไทย แม้มีการขายแพคเกจทัวร์ไฟไหม้แบบราคาพิเศษสุดๆ แล้ว แต่นักท่องเที่ยวก็ยังไม่ซื้อเข้ามาเที่ยวไทย
.

.
ทรัมป์ ไม่พอใจปูตินโจมตีเคียฟ ลั่นไม่จำเป็น ขวางดีลสันติภาพ
.
ทรัมป์ ไม่พอใจปูตินโจมตีเคียฟ ลั่นไม่จำเป็น ขวางดีลสันติภาพ
.
จากเหตุการณ์ยิงขีปนาวุธและโดรนโจมตีเคียฟ ส่งผลให้ผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บ 70 ราย ถือเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024
เมื่อวันที่ 24 เมษายน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บนทรูซ โซเชียลส่วนตัวถึงกรณีนี้ว่า “ผมรู้สึกไม่พอใจต่อการที่รัสเซียโจมตีเคียฟ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น และเป็นเวลาที่แย่ วลาดีมีร์ หยุดเดี๋ยวนี้! มีนายทหาร 500 รายเสียชีวิตต่อสัปดาห์” พร้อมระบุด้วยว่า “มาทำให้ข้อตกลงสันติภาพสำเร็จเถอะ!
.
โดยก่อนหน้านี้หนึ่งวัน ทรัมป์ก็ได้แสดงความไม่พอใจต่อประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน และกล่าวหาว่าเขาพยายามทำให้สงครามยืดเยื้อออกไป จากการที่เขาไม่ยอมยอมรับการสูญเสียดินแดนไครเมียให้กับรัสเซีย ซึ่งนั้นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง
.
ในขณะเดียวกัน ทรัมป์มีกำหนดการพบหารือกับนายโยนาส กาห์ร์ สตอเรอ นายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ โดยมีเรื่องสงครามยูเครนและมาตรการเก็บภาษีนำเข้าเป็นหัวข้อการพูดคุยสำคัญ
.
นอร์เวย์เป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และมีชายแดนติดกับรัสเซียเป็นความยาวประมาณ 198 กิโลเมตร อย่างไรก็ดี นอร์เวย์ออกตัวว่าให้การสนับสนุนยูเครน ซึ่งกาห์ร์ สตอเรอได้เน้นย้ำถึงเรื่องนี้ผ่านโชเซียลมีเดียว่า “เราต้องมีส่วนร่วมในการนำมาสู่สันติภาพที่ถาวรและยุติธรรมในยูเครน
.
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวันที่ 22 เมษายนว่า ในสัปดาห์นี้ นายสตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษสหรัฐ มีกำหนดการเยือนมอสโกเพื่อหารือรอบใหม่กับปูตินในเรื่องสงคราม ซึ่งนับเป็นการพบหารือครั้งที่ 4 หลังจากที่ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่