Queer (2024) ...ถึงฉันจะแปลก.. แต่ฉันไม่ได้แตกต่าง..



วิลเลียม ลี (แดเนียล เครก) ชายวันกลางคนชาวอเมริกันที่ใช้ชีวิตไปวันๆในกรุงเม็กซิโกซิตี้
แต่ละวันของลีหมดไปกับการกินเหล้า เข้าผับ ไปกับเพื่อนชาวอเมริกันไม่กี่คนที่ล่องลอยใช้เงินไร้จุดหมายในเมืองแห่งนี้ .
ลี มองหาชายหนุ่มที่มีความต้องการแบบเดียวกับเขาไปเรื่อย ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแค่ One Night Stand
เดี๋ยวก็ผ่านเข้ามา และเดี๋ยวก็จากไปเหมือนไม่เคยรู้จักกัน



จนกระทั่งเขาได้พบกับ ยูจีน อัลเลอร์ตัน (ดรูว์ สตาร์คีย์) อดีตนายทหารกองทัพเรืออเมริกัน
ที่เพิ่งปลดประจำการจากแจ็กสันวิลล์ ฟลอริดาและมาพักผ่อนอยู่ที่แห่งนี้ .. ลี ชอบยูจีนทันทีที่ได้พบ
และเขาก็หวังว่าจะได้สานสัมพันธ์กับชายหนุ่มรุ่นน้องคนนี้...



Queer เป็นภาพยนตร์ดราม่าโรแมนติก ผลงานการกำกับของ Luca Guadagnino จากบทภาพยนตร์โดย Justin Kuritzkes
อีก 1 งานคุณภาพจาก A24 อิงจากงานเขียนในชื่อเดียวกันนี้ปี 1985 โดย William S. Burroughs
บันทึกความทรงจำของผู้เขียนในช่วงเวลาที่ตัวเขาไปใช้ชีวิตยังกรุงเม็กซิโกซิตี้ยุคปี 50
กับความสัมพันธ์ของชายหนุ่มเปลี่ยวเหงาสองคน ที่ลึกซึ้งจนยากจะบรรยาย



เรื่องราวของความรักที่ขาดหาย ความหลงใหลคลั่งไคล้ในเด็กผู้ชาย
จากการแสดงกับอีกบทบาทที่ถือว่าอยู่ในระดับสุดยอดอีกครั้งของแดเนียล เครก
กับ วิลเลียม ลี ชายวัยกลางคนอารมณ์สับสนในตัวเอง ที่จมอยู่กับการใช้สารเสพติด ดูหมดสภาพ ไม่ไว้วางใจใคร พกปืนตลอดเวลา
มีอดีตที่ยากจะแก้ไขได้ หนีมาที่กรุงเม็กซิโกซิตี้ด้วยหวังว่าที่แห่งนี้จะเป็นการเริ่มต้นใหม่กับทุกสิ่งที่เขาอยากจะทำ
และจากบทนี้ก็ทำให้เครกได้ชิงดารานำชายยอดเยี่ยมบนเวทีลูกโลกทองคำอีกด้วย



การร่วมงานกันอีกครั้งของ Luca Guadagnino ผู้กำกับชาวอิตาเลียน
และสยมภู มุกดีพร้อม สุดยอดผู้กำกับภาพชาวไทย (Call Me by Your Name... Suspiria... Challengers และล่าสุดก็เรื่องนี้)
ซึ่งงานภาพออกมาสวยมากกกกกก... บรรยากาศในเมืองที่แสงอาทิตย์ออกแบบให้เป็นสีอมส้ม ฝุ่นบางๆ อบอวลในเมือง ..
แสงสีตอนกลางคืนที่แม้จะดูหมองหม่นแต่ก็อบอุ่น รวมถึงมุมกล้องที่ดูเท่ห์อย่างมาก
ประกอบกับจังหวะดนตรีประกอบในแต่ละฉากที่มีเข้ามายิ่งทำให้ Queer เป็นหนังที่ดูดีอย่างน่าทึ่ง



องค์ประกอบฉากในเมืองมีการใช้ทั้งถ่ายทำจากสถานที่จริงและจากแบบจำลองที่เซ็ตขึ้นมา
หลายซีนที่เรามองจะเหมือนกับว่าตัวเอกอยู่ในเมืองที่คล้ายคลึงกับเขาวงกต
(เหมือนเป็นนัยยะว่าตัวของลีนั้นหลงวนอยู่ในที่เดิมๆ ไม่สามารถหลุดออกไปไหนได้)
จนกระทั่งเขาได้เจอกับยูจีน เขาถึงมีแรงจูงใจที่จะพาตัวเองไปสู่ที่ใหม่ ซึ่งนั่นก็เพื่อตัวเขาเอง



เราจะเห็นว่าลีมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ถ้าไม่อยู่ในบาร์ก็เดินเตร่ตามท้องถนน ซึ่งภาพสวยมาก
เดินๆอยู่ก็เน้นเป็นฉากสโลว์แบบเท่ห์ๆให้ดูอีก โดยซีเควนซ์ที่ผมประทับใจและเชื่อว่าคนดูก็คงรู้สึกว้าวไม่ต่างจากผม
เมื่อเคร็กเดินในเมืองพร้อมชิลด์พร้อมกับเสียงเพลง Come As You Are ของ Nirvana ที่ดังคลอเข้ามาประกอบฉาก มันเฟี้ยวววจริงๆ คุณพรี่!!



นอกเหนือจากนั้นยังมีการลำดับภาพตัดสลับไปมาทั้งความจริงและภาพในความคิดที่เป็นเชิงนามธรรมสูงมาก
บางซีนมาแบบแทบจะเสี้ยววินาทีเลยก็ว่าได้ เหมือนแฟลชที่แวบเข้ามาในพริบตา
ซึ่งบ่งบอกถึงความคิดในช่วงเวลานั้นของตัวเอก ผมยอมรับเลยว่ามีซีนที่ยังไม่เข้าใจอยู่พอสมควร
คิดว่าคงต้องดูซ้ำอีกครั้ง และมีอยู่ซีนที่ถึงขั้นต้องไปหารายละเอียดเพิ่ม เป็นฉากผู้หญิงเปลือยทั้งตัวคนนึงแต่ไม่มีขา!! (ผี?)
พอผมหารายละเอียดถึงต้องอ้าปากค้างเมื่อนั่นหมายถึงอดีตคนรักเก่าของลี (ก็คือตัวของ William S. Burroughs เอง)
เป็นบุคคลที่เคยมีตัวตนอยู่จริง แต่เสียชีวิตไปแล้วด้วยน้ำมือของ.... (อันนี้หารายละเอียดเพิ่มเองนะครับ ไม่ยาก หาใน google ก็เจอ)



มีการใช้สัตว์ชนิดนึงแทนสัญญะความรู้สึกของลีด้วยครับนั่นคือ ตะขาบ โดยเจ้าตัวนี่เนี่ย ถ้าให้ผมจินตนาการไปอีก
ก็น่าจะแทนความรู้สึกของการหลุดพ้น ความต้องการที่จะออกจากความสัมพันธ์ที่เหมือนวังวนยากจะจบสิ้น
นอกจากนี้ยังแสดงถึงความปรารถนาอันดำมืดที่ยากจะอดกลั้นของตัวเอกด้วย



และแน่นอนหนังแนวนี้ถ้ามีฉากเลิฟซีนย่อมฮือฮาเป็นแน่ โดยเฉพาะกับการแสดงของแดเนียล เครก
ที่เข้าบทกับ ดรูว์ สตาร์กีย์ อย่างร้อนแรง บอกเลยครับไม่เห็นอะไรหรอก หนังแบบนี้เขาขายองค์ประกอบศิลป์
ไม่ได้โป๊เปลือยแน่นอน ฉากเลิฟซีนไม่เท่าไหร่ แต่มีฉากเทพในช่วงท้ายนั่นคือ Performance Art ความยาวเกือบ 4 นาทีระหว่างทั้งคู่
ถือว่าเป็นไคลแม็กซ์ของเรื่องเลยก็ว่าได้ ซึ่งมันเจ๋งมากจริงๆครับ



มาขยายความชื่อเรื่องกันบ้างครับ ..เราคุ้นกับคำว่า  LGBTQ กันใช่ไหมครับ Q ตัวสุดท้ายก็คือคำนี้ล่ะ Queer เควียร์
ในพจนานุกรมความหมายคือ แปลก ซึ่งความแปลกดังกล่าวนั้นตีความได้กว้างและหลากหลายมาก
ถือเป็นรูปแบบทางเพศที่ไม่ชัดเจน และไม่ได้กำหนดบ่งชี้อย่างชัดเจน ซึ่งถ้าให้ตีความตามแบบที่ผมเข้าใจเอง
ผมว่า Queer คือความรู้สึกหรือรสนิยมทางเพศที่เราเปลี่ยนแปลงได้ ไม่จำเป็นจะต้องมีความชอบแบบนั้นตลอดไปหรือเสมอไป
ตอนนี้เราอาจชอบแบบนี้ ต่อไปเราอาจจะเปลี่ยนไปชอบแบบอื่นก็ได้ ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะถ้ามันเป็นความชอบและตัวตนเราเป็นแบบนี้
เราย่อมมีสิทธิที่จะเลือก สำหรับผมนั่นล่ะคือ Queer



สุดท้ายนี่คือภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นถึงอีก 1 อัตลักษณ์ของความต้องการและรสนิยมทางเพศได้อย่างสละสลวย
รุ่มรวยและมีชั้นเชิงมากที่สุดเรื่องนึงเท่าที่ผมเคยได้ชมมา งานภาพระดับเทพ ซาวน์ล้ำลึก
ทุกองค์ประกอบในหนังเรื่องนี้เปรียบได้กับอาหารจานหรูที่แม้ว่าอาจจะดูทานยาก แต่ก็ไม่เกินไปกว่าที่จะลิ้มลอง
แล้วคุณจะได้สัมผัสถึงความเหงาในรูปแบบที่คุณไม่เคยพบเจอมาก่อนในบทบาทที่ท้าทายที่สุดในชีวิตของแดเนียล เครก ..


เพราะหนังมันฝังใจ

=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่