Rebel Moon – Part Two: The Scargiver (2024): เมื่อมหากาพย์อวกาศกลายเป็นเงาของตัวเอง



เรื่องย่อ:
Rebel Moon – Part Two: The Scargiver (2024) เป็นภาคต่อของภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์จาก Netflix ที่กำกับโดย Zack Snyder ซึ่งต่อยอดจากภาคแรก A Child of Fire เรื่องราวติดตาม Kora (Sofia Boutella) และกลุ่มนักรบที่กลับมายังดาว Veldt เพื่อเตรียมรับมือกับการรุกรานจากจักรวรรดิ Motherworld โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องชาวบ้านและเสบียงอาหารของพวกเขา​
ในภาคนี้ Kora และ Gunnar (Michiel Huisman) พัฒนาความสัมพันธ์ลึกซึ้งขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับอดีตที่ตามหลอกหลอน และการต่อสู้ครั้งใหญ่กับ Admiral Atticus Noble (Ed Skrein) ที่กลับมาพร้อมกับกองกำลังใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม​

รีวิวหลังดู:
The Scargiver ยังคงรักษาสไตล์การกำกับของ Zack Snyder ที่เน้นภาพช้าและฉากแอ็กชันที่อลังการ แต่กลับขาดความลึกซึ้งในด้านเนื้อเรื่องและการพัฒนาตัวละคร​
จุดเด่น:
งานภาพและการออกแบบฉากที่สวยงามและน่าประทับใจ
ดนตรีประกอบที่เสริมสร้างบรรยากาศได้อย่างยอดเยี่ยม
ฉากแอ็กชันที่ตื่นเต้นและเต็มไปด้วยพลัง​

จุดอ่อน:
บทภาพยนตร์ที่ขาดความลึกซึ้งและการพัฒนาตัวละครที่ไม่เพียงพอ
การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและขาดความชัดเจน
การใช้เทคนิคภาพช้าจนเกินความจำเป็น ทำให้จังหวะของเรื่องช้าลง​
นักวิจารณ์จาก Rotten Tomatoes ให้คะแนนเพียง 16% โดยมีค่าเฉลี่ย 3.8/10 และ Metacritic ให้คะแนน 35/100 ซึ่งสะท้อนถึงการตอบรับที่ไม่ดีจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชม ​

คะแนน IMDb (อัปเดตเมษายน 2025): 6.6/10
คะแนน Rotten Tomatoes: 16% (Critics) / 45% (Audience) ​

สรุป:
Rebel Moon – Part Two: The Scargiver เป็นภาคต่อที่พยายามขยายจักรวาลของเรื่องราว แต่กลับขาดความลึกซึ้งและการพัฒนาที่น่าประทับใจ แม้จะมีงานภาพและฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้น แต่การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและขาดความชัดเจนทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้ชมได้อย่างเต็มที่​
“ในจักรวาลที่กว้างใหญ่ การต่อสู้เพื่ออิสรภาพอาจกลายเป็นเพียงเงาของความว่างเปล่า”​
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่