เรื่องย่อ:
Mickey 17 (2025) คือภาพยนตร์ไซไฟ-คอมเมดี้เสียดสี ผลงานล่าสุดของผู้กำกับชาวเกาหลีใต้
Bong Joon-ho (จาก
Parasite,
Snowpiercer) ดัดแปลงจากนิยาย
Mickey7 ของ Edward Ashton
เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2054 เมื่อ
Mickey Barnes (รับบทโดย
Robert Pattinson) สมัครเป็น “Expendable” หรือมนุษย์ที่ถูกใช้ในภารกิจเสี่ยงตายบนดาวน้ำแข็ง Niflheim ทุกครั้งที่เขาเสียชีวิต ร่างโคลนใหม่พร้อมความทรงจำเดิมจะถูกสร้างขึ้นมาแทนที่
แต่เมื่อ Mickey รุ่นที่ 17 รอดชีวิตจากภารกิจที่ควรจะตาย และพบว่าร่างโคลนรุ่นที่ 18 ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว ความขัดแย้งระหว่างสอง Mickey จึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับการเปิดโปงเบื้องหลังของผู้นำภารกิจ Kenneth Marshall (รับบทโดย
Mark Ruffalo) ที่มีแผนการลับในการควบคุมดาวดวงนี้
รีวิวหลังดู:
Mickey 17 เป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานระหว่างไซไฟ ดราม่า และคอมเมดี้เสียดสีได้อย่างลงตัว
การแสดงของ Robert Pattinson โดดเด่นมาก เขารับบทเป็น Mickey ทั้งรุ่นที่ 17 และ 18 โดยถ่ายทอดบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน Mickey 17 เป็นคนซื่อสัตย์และมีความหวัง ขณะที่ Mickey 18 มีความก้าวร้าวและไม่ไว้ใจใคร
Mark Ruffalo ในบท Kenneth Marshall ผู้นำภารกิจที่มีบุคลิกคล้ายผู้นำเผด็จการในโลกจริง การแสดงของเขาสะท้อนถึงการวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำที่ใช้อำนาจในทางที่ผิด
ด้านภาพและดนตรีประกอบ การถ่ายทำบนดาวน้ำแข็ง Niflheim สร้างบรรยากาศที่หนาวเหน็บและโดดเดี่ยว ดนตรีประกอบโดย
Jung Jae-il เสริมสร้างอารมณ์และความตึงเครียดในแต่ละฉากได้อย่างยอดเยี่ยม
จุดเด่น:
การแสดงของ Robert Pattinson ที่ถ่ายทอดตัวละครสองบุคลิกได้อย่างน่าประทับใจ
การเล่าเรื่องที่ผสมผสานระหว่างไซไฟและการเสียดสีสังคมได้อย่างลงตัว
การถ่ายทำและดนตรีประกอบที่สร้างบรรยากาศได้อย่างยอดเยี่ยม
จุดสังเกต:
เนื้อเรื่องบางส่วนอาจซับซ้อนและต้องการการติดตามอย่างใกล้ชิด
บางฉากอาจมีความรุนแรงและไม่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย
คะแนน IMDb (อัปเดตเมษายน 2025): 7.9/10
คะแนน Rotten Tomatoes: 77% (Critics) / 73% (Audience) Blavity News & Entertainment
สรุป:
Mickey 17 เป็นภาพยนตร์ที่ตั้งคำถามถึงคุณค่าของมนุษย์ในยุคที่เทคโนโลยีสามารถสร้างและทำลายชีวิตได้อย่างง่ายดาย ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Robert Pattinson และการเล่าเรื่องที่ชาญฉลาดของ Bong Joon-ho ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในผลงานที่น่าจดจำของปี 2025
“เมื่อการมีอยู่ของคุณถูกกำหนดโดยผู้อื่น คุณจะเลือกยอมรับหรือท้าทายมัน?”
Mickey 17 (2025): เมื่อมนุษย์กลายเป็นเครื่องมือ และการมีอยู่ถูกตั้งคำถาม
เรื่องย่อ:
Mickey 17 (2025) คือภาพยนตร์ไซไฟ-คอมเมดี้เสียดสี ผลงานล่าสุดของผู้กำกับชาวเกาหลีใต้ Bong Joon-ho (จาก Parasite, Snowpiercer) ดัดแปลงจากนิยาย Mickey7 ของ Edward Ashton
เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 2054 เมื่อ Mickey Barnes (รับบทโดย Robert Pattinson) สมัครเป็น “Expendable” หรือมนุษย์ที่ถูกใช้ในภารกิจเสี่ยงตายบนดาวน้ำแข็ง Niflheim ทุกครั้งที่เขาเสียชีวิต ร่างโคลนใหม่พร้อมความทรงจำเดิมจะถูกสร้างขึ้นมาแทนที่
แต่เมื่อ Mickey รุ่นที่ 17 รอดชีวิตจากภารกิจที่ควรจะตาย และพบว่าร่างโคลนรุ่นที่ 18 ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว ความขัดแย้งระหว่างสอง Mickey จึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับการเปิดโปงเบื้องหลังของผู้นำภารกิจ Kenneth Marshall (รับบทโดย Mark Ruffalo) ที่มีแผนการลับในการควบคุมดาวดวงนี้
รีวิวหลังดู:
Mickey 17 เป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานระหว่างไซไฟ ดราม่า และคอมเมดี้เสียดสีได้อย่างลงตัว
การแสดงของ Robert Pattinson โดดเด่นมาก เขารับบทเป็น Mickey ทั้งรุ่นที่ 17 และ 18 โดยถ่ายทอดบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน Mickey 17 เป็นคนซื่อสัตย์และมีความหวัง ขณะที่ Mickey 18 มีความก้าวร้าวและไม่ไว้ใจใคร
Mark Ruffalo ในบท Kenneth Marshall ผู้นำภารกิจที่มีบุคลิกคล้ายผู้นำเผด็จการในโลกจริง การแสดงของเขาสะท้อนถึงการวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำที่ใช้อำนาจในทางที่ผิด
ด้านภาพและดนตรีประกอบ การถ่ายทำบนดาวน้ำแข็ง Niflheim สร้างบรรยากาศที่หนาวเหน็บและโดดเดี่ยว ดนตรีประกอบโดย Jung Jae-il เสริมสร้างอารมณ์และความตึงเครียดในแต่ละฉากได้อย่างยอดเยี่ยม
จุดเด่น:
การแสดงของ Robert Pattinson ที่ถ่ายทอดตัวละครสองบุคลิกได้อย่างน่าประทับใจ
การเล่าเรื่องที่ผสมผสานระหว่างไซไฟและการเสียดสีสังคมได้อย่างลงตัว
การถ่ายทำและดนตรีประกอบที่สร้างบรรยากาศได้อย่างยอดเยี่ยม
จุดสังเกต:
เนื้อเรื่องบางส่วนอาจซับซ้อนและต้องการการติดตามอย่างใกล้ชิด
บางฉากอาจมีความรุนแรงและไม่เหมาะสำหรับผู้ชมทุกวัย
คะแนน IMDb (อัปเดตเมษายน 2025): 7.9/10
คะแนน Rotten Tomatoes: 77% (Critics) / 73% (Audience) Blavity News & Entertainment
สรุป:
Mickey 17 เป็นภาพยนตร์ที่ตั้งคำถามถึงคุณค่าของมนุษย์ในยุคที่เทคโนโลยีสามารถสร้างและทำลายชีวิตได้อย่างง่ายดาย ด้วยการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Robert Pattinson และการเล่าเรื่องที่ชาญฉลาดของ Bong Joon-ho ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในผลงานที่น่าจดจำของปี 2025
“เมื่อการมีอยู่ของคุณถูกกำหนดโดยผู้อื่น คุณจะเลือกยอมรับหรือท้าทายมัน?”