ผมมีภรรยาที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมา23ปี มีลูกร่วมกันหนึ่งคน เป็นผู้พิการซ้ำซ้อน มีอาชีพค้าขายที่ตลาดนัด เลยตัวติดกันเกือบตลอด 24 ชั่วโมง
ปกติ ชอบศึกษาธรรมะ อยู่แล้ว แต่เอาจริงเอาจังก็สัก 12 ปีก่อน ชักชวนภรรยา ให้เดินทางสายเดียวกัน แต่เธอดูจะไม่สนใจสักเท่าไหร่ ชอบทำบุญทำทานเหมือกันแต่อ่านหรือศึกษาธรรมะ หรือทำสมาธิ ไม่เอา ส่วนผมชอบ สวดมนต์พร้อมนั่งสมาธิ คราวละ2-3 ชม.อุทิศส่วนบุญกุศลแล้วสบายใจดีครับ
ศึกษาพระธรรมจาก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วิปัสนาตามที่ท่านสอน จนความโกรธ ความโลภ และกามราคะ เบาบางลง
นานๆครั้งจะได้หลับนอนกับภรรยา ประมาณ 3-4 เดือนสักครั้งหนึ่ง(แต่ผมกลับไม่มีอารมณ์หรือความต้องการนะ จะเป็นเธอที่ขอเสียมากกว่า)สัก 5ปี ก่อนหน้า เธอเริ่มมีพฤติกรรมแปลก เริมมีนัดนอกบ้าน ไปกินข้าวกับเพื่อน(เธออ้างอย่างนั้น) คุยโทรศัพท์เสียงอ่อนเสียหวาน ฯลฯ
ผมไม่เคยระแวงหรือปิดกั้นเลยครับ เพราะคิดว่า เธอคงมีธรรมะในใจ แต่นับวัน ความลับ มีมากขึ้น ออกนอกบ้านบ่อยขึ้น โทรติดต่อกับเธอยากขึ้น ผ่านไปเป็นปี ผมเริ่มระแวง แต่เธอไม่เคยยอมรับสักคำ จนผมยื่นคำขาด พรุ่งนี้ ไปวัดท่าซุงกัน ไปสาบาน ไปสารภาพ ว่ามีอะไรปิดบัง
สิ้นคำ เธอร้องไห้โฮ ยอมรับสารภาพครับ ว่านอกใจผม เธอไปนอนกับชู้ ชู้เธอก็เพื่อนผมเอง วินาทีนั้นสติหลุดครับ เผลอตบเธออย่างแรง ปากบวมเสียงร้องเจ็บปวดทำให้ผมมีสติกลับมา ยอมรับว่าเจ็บครับ เจ็บใจที่ทำร้ายจิตใจกัน ทั้งที่ผมพร่ำสอน ประโยชน์และโทษของศีล 5 สมาทานศีลก็บ่อย
ผมหายจากบ้านไป 3 วัน ไปสงบใจที่บ้านแม่ แม่ก็คิดว่าเราทะเลาะกัน หนักนิดเบาหน่อย ก็ให้อภัยกันนะลูก
ให้อภัย คือความตั้งมั่นของผมครับ เราต้องทำให้ได้ กลับมา ตกลงกัน เพราะลูกที่พิการ ไปอยู่ที่คนใดคนหนึ่ง ชีวิตคนนั้นจะลำบากมาก การอยู่การกิน ต้องดูแล 24 ชม. ผมทำหน้าที่พ่อ เธอทำหน้าที่แม่
แต่ด้วยอาชีพ ค้าขายตลาดนัด เราก็ยังต้องทำงานร่วมกัน กินข้าวหม้อเดียวกัน อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ใช้ชีวิตร่วกันเหมือนคู่รักกันปกติ แต่การพูดจาก็จะห่างกัน และเราไม่เคยมีเพศสัมพันธุ์กันอีกเลยผ่านมา 4 ปีกว่าแล้วครับ ใจมันรู้สึกเฉยๆ เรื่องความรัก อยู่แบบคนเอื้ออาทรกัน มีอะไรก็ยังช่วยแบ่งปัน ผมยังคอยสอน บอกกล่าว ธรรมะให้เธอ ปกติเหมือนเคยครับ (คิดอยู่เสมอว่า ใจเธอมันสกปรก ต้องใช้ธรรมะล้างให้ใจสะอาด)
ตอนนี้เธอป่วยครับ เส้นเลือดสมองแตก กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง วินาทีแรกที่เธอเข้าโรงพยาบาล ผมคิดถึง กฏแห่งกรรมครับ ผ่านไป1เดือน เธอเริ่มมีความจำกลับมา แต่อากัปกิริยา เหมือนเด็กมาก (ตอนที่สารภาพ เธอบอกว่า เคยทำแท้ง ตอนเรียนมัธยม)
วันนี้ ทำไมผมกลับรู้สึกเจ็บใจ กับการกระทำในอดีต ของเธอครับ ความโกรธมันเบาบางมาก มีแต่เจ็บใจ กับเสียใจ สมองมันคอยคิดถึงแต่คำโกหกที่เธอเคยพูด
ผมเล่าเรื่องให้ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย ทราบ ตกลงที่ ร่วมกันจ่ายค่ารักษาพยาบาล หากอาการเริ่มดี พ่อตาจะเอากลับไปดูแล ส่วนแม่ผม พูดแต่ว่า อะไรที่มันผ่านไปแล้วให้ผ่านไป กลับมาอยู่เป็นครอบครัวเหมือนเดิม(วัย74)
มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ หากผมจะปล่อยมือจากเธอ อารมณ์โกรธไม่มี แต่เจ็บทุกทีที่เห็นหน้ากัน เจ็บมากกว่า 4 ปี ที่แล้วเสียอีก 1 เดือนกว่า ที่เธออยู่ รพ. ผมเลี้ยงลูก ไม่ขาดตกบกพร่องนะ แต่ไม่มีรายได้จากการทำงาน (ปลูกผักปลอดสารพิษกิน ซื้อเนื้อสัตว์นิดหน่อย)
๑ จากกันไป เพื่อ ไม่สร้างกรรมไหม่ ให้เพิ่มขึ้น
๒ กลับมาอยู่ร่วมกัน เพื่อ ใช้กรรมร่วมกันให้หมดไป
ให้อภัยแล้ว แต่ยังรู้สึกเจ็บใจ
ปกติ ชอบศึกษาธรรมะ อยู่แล้ว แต่เอาจริงเอาจังก็สัก 12 ปีก่อน ชักชวนภรรยา ให้เดินทางสายเดียวกัน แต่เธอดูจะไม่สนใจสักเท่าไหร่ ชอบทำบุญทำทานเหมือกันแต่อ่านหรือศึกษาธรรมะ หรือทำสมาธิ ไม่เอา ส่วนผมชอบ สวดมนต์พร้อมนั่งสมาธิ คราวละ2-3 ชม.อุทิศส่วนบุญกุศลแล้วสบายใจดีครับ
ศึกษาพระธรรมจาก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วิปัสนาตามที่ท่านสอน จนความโกรธ ความโลภ และกามราคะ เบาบางลง
นานๆครั้งจะได้หลับนอนกับภรรยา ประมาณ 3-4 เดือนสักครั้งหนึ่ง(แต่ผมกลับไม่มีอารมณ์หรือความต้องการนะ จะเป็นเธอที่ขอเสียมากกว่า)สัก 5ปี ก่อนหน้า เธอเริ่มมีพฤติกรรมแปลก เริมมีนัดนอกบ้าน ไปกินข้าวกับเพื่อน(เธออ้างอย่างนั้น) คุยโทรศัพท์เสียงอ่อนเสียหวาน ฯลฯ
ผมไม่เคยระแวงหรือปิดกั้นเลยครับ เพราะคิดว่า เธอคงมีธรรมะในใจ แต่นับวัน ความลับ มีมากขึ้น ออกนอกบ้านบ่อยขึ้น โทรติดต่อกับเธอยากขึ้น ผ่านไปเป็นปี ผมเริ่มระแวง แต่เธอไม่เคยยอมรับสักคำ จนผมยื่นคำขาด พรุ่งนี้ ไปวัดท่าซุงกัน ไปสาบาน ไปสารภาพ ว่ามีอะไรปิดบัง
สิ้นคำ เธอร้องไห้โฮ ยอมรับสารภาพครับ ว่านอกใจผม เธอไปนอนกับชู้ ชู้เธอก็เพื่อนผมเอง วินาทีนั้นสติหลุดครับ เผลอตบเธออย่างแรง ปากบวมเสียงร้องเจ็บปวดทำให้ผมมีสติกลับมา ยอมรับว่าเจ็บครับ เจ็บใจที่ทำร้ายจิตใจกัน ทั้งที่ผมพร่ำสอน ประโยชน์และโทษของศีล 5 สมาทานศีลก็บ่อย
ผมหายจากบ้านไป 3 วัน ไปสงบใจที่บ้านแม่ แม่ก็คิดว่าเราทะเลาะกัน หนักนิดเบาหน่อย ก็ให้อภัยกันนะลูก
ให้อภัย คือความตั้งมั่นของผมครับ เราต้องทำให้ได้ กลับมา ตกลงกัน เพราะลูกที่พิการ ไปอยู่ที่คนใดคนหนึ่ง ชีวิตคนนั้นจะลำบากมาก การอยู่การกิน ต้องดูแล 24 ชม. ผมทำหน้าที่พ่อ เธอทำหน้าที่แม่
แต่ด้วยอาชีพ ค้าขายตลาดนัด เราก็ยังต้องทำงานร่วมกัน กินข้าวหม้อเดียวกัน อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ใช้ชีวิตร่วกันเหมือนคู่รักกันปกติ แต่การพูดจาก็จะห่างกัน และเราไม่เคยมีเพศสัมพันธุ์กันอีกเลยผ่านมา 4 ปีกว่าแล้วครับ ใจมันรู้สึกเฉยๆ เรื่องความรัก อยู่แบบคนเอื้ออาทรกัน มีอะไรก็ยังช่วยแบ่งปัน ผมยังคอยสอน บอกกล่าว ธรรมะให้เธอ ปกติเหมือนเคยครับ (คิดอยู่เสมอว่า ใจเธอมันสกปรก ต้องใช้ธรรมะล้างให้ใจสะอาด)
ตอนนี้เธอป่วยครับ เส้นเลือดสมองแตก กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง วินาทีแรกที่เธอเข้าโรงพยาบาล ผมคิดถึง กฏแห่งกรรมครับ ผ่านไป1เดือน เธอเริ่มมีความจำกลับมา แต่อากัปกิริยา เหมือนเด็กมาก (ตอนที่สารภาพ เธอบอกว่า เคยทำแท้ง ตอนเรียนมัธยม)
วันนี้ ทำไมผมกลับรู้สึกเจ็บใจ กับการกระทำในอดีต ของเธอครับ ความโกรธมันเบาบางมาก มีแต่เจ็บใจ กับเสียใจ สมองมันคอยคิดถึงแต่คำโกหกที่เธอเคยพูด
ผมเล่าเรื่องให้ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย ทราบ ตกลงที่ ร่วมกันจ่ายค่ารักษาพยาบาล หากอาการเริ่มดี พ่อตาจะเอากลับไปดูแล ส่วนแม่ผม พูดแต่ว่า อะไรที่มันผ่านไปแล้วให้ผ่านไป กลับมาอยู่เป็นครอบครัวเหมือนเดิม(วัย74)
มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ หากผมจะปล่อยมือจากเธอ อารมณ์โกรธไม่มี แต่เจ็บทุกทีที่เห็นหน้ากัน เจ็บมากกว่า 4 ปี ที่แล้วเสียอีก 1 เดือนกว่า ที่เธออยู่ รพ. ผมเลี้ยงลูก ไม่ขาดตกบกพร่องนะ แต่ไม่มีรายได้จากการทำงาน (ปลูกผักปลอดสารพิษกิน ซื้อเนื้อสัตว์นิดหน่อย)
๑ จากกันไป เพื่อ ไม่สร้างกรรมไหม่ ให้เพิ่มขึ้น
๒ กลับมาอยู่ร่วมกัน เพื่อ ใช้กรรมร่วมกันให้หมดไป