เปิดวันแรกสุดเงียบเหงา! มหกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่สากลฯ ผู้ประกอบการ 200 ครอบครัวทั่วไทย ตั้งใจร่วมออกงานบนห้างดัง หวังต่อยอดธุรกิจ กลับเจอพิธีเปิดแวบเดียวแล้ววังเวง ถามหาการโปรโมตแรงจูงใจคนเข้าชม
เมื่อวันที่ 18 เม.ย.อดีตบรรณาธิการนิตยสารสาละวินโพสต์ วันดี สันติวุฒิเมธี ได้ออกมาโพสต์ข้อความสุดเศร้าลงในเฟซบุ๊ก หลังเจ้าตัวมาออกบูธร่วมกับอีก 200 ผู้ประกอบการ ที่มาออกบูธขายของในงาน “มหกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่สากลและการเจรจาธุรกิจ” ภายใต้โครงการนโยบาย “หนึ่งครอบครัว หนึ่งพลังสร้างสรรค์” ในวันที่ 18-22 เม.ย. แต่แล้วกลับไร้การโปรโมต แถมไม่มีพิธีกร อีกทั้งคนยังเงียบ เมื่อมาเปิดถ่ายรูปเสร็จแล้วก็กลับ นับว่าทำเอาผู้ประกอบการถึงกับเครียดกันเลยทีเดียว โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความถึงบรรยากาศที่ไม่คึกคัก โดยระบุว่าในช่วงพิธีเปิดงาน มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรมมาเป็นประธาน มีช่างภาพ และผู้ร่วมงานจำนวนหนึ่ง แต่หลังจากนั้นบรรยากาศกลับเงียบสนิท ราวกับป่าช้า ทั้งที่บริเวณห้างสรรพสินค้าด้านล่างยังคงมีผู้คนเดินสัญจรไปมาอย่างคึกคัก
ผู้ประกอบการกว่า 200 ครอบครัว ต่างตั้งใจเดินทางมาจากทั่วประเทศ โดยไม่ได้มีการสนับสนุนเรื่องที่พักหรือค่าเดินทาง ด้วยความหวังว่าจะได้รับโอกาสทางธุรกิจตามที่เจ้าภาพได้กล่าวไว้ว่าเป้าหมายของงานนี้คือการสร้าง Business Matching
อย่างไรก็ตาม หลังจากวันแรกผ่านไป ผู้ประกอบการต่างเกิดความสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่มีผู้คนเดินขึ้นมาชมนิทรรศการ พวกเขาตั้งคำถามถึงการประชาสัมพันธ์งานของเจ้าภาพ ว่ามีการดำเนินการมากน้อยเพียงใด และมีสิ่งใดเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนที่เดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าด้านล่างขึ้นมาเยี่ยมชมงาน
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างนำผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและมีศักยภาพมาจัดแสดงและจำหน่าย โดยหวังว่าจะได้รับการโปรโมทให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่กลับไม่มีกิจกรรมใดๆ จากผู้จัดงานที่สร้างแรงจูงใจให้ผู้คนเข้าร่วมงาน พิธีกรหายเงียบ เวทีแสดงว่างเปล่า ไร้ผู้ชม แม้กระทั่งบูธที่นำนักศึกษาต่างชาติมาแสดงยังรู้สึกเศร้าใจที่ไม่มีใครให้ความสนใจ
ผู้โพสต์ยังตั้งข้อสังเกตถึงงบประมาณในการจัดงานครั้งนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าตั้งแต่การประชุมเตรียมงานที่มีผู้เข้าร่วมถึง 2,400 คน ค่าเช่าโรงแรม ค่าเดินทาง และค่าจัดงานต่างๆ ได้ใช้งบประมาณไปเป็นจำนวนมหาศาล แต่ผลลัพธ์ที่ปรากฏกลับน่าผิดหวังอย่างยิ่ง พร้อมตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว
ผู้โพสต์เชื่อมั่นในศักยภาพของ Soft Power ไทย และยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการที่ตั้งใจนำเสนอผลงานอย่างเต็มที่ แต่กลับไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสมจากเจ้าภาพ ทำให้เกิดคำถามว่า Soft Power ไทยอาจไปได้ไม่ไกลไม่ใช่เพราะศักยภาพของคนไทย แต่เป็นเพราะการใช้งบประมาณที่ไม่ถูกจุดของภาครัฐหรือไม่
ท้ายที่สุด ผู้โพสต์ได้เชิญชวนผู้ที่ได้อ่านข้อความนี้ให้เดินทางมาเยี่ยมชมงาน เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการที่ตั้งใจนำเสนอผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการ พร้อมแสดงความสงสารต่อผู้ประกอบการทุกราย รวมถึงตนเองในฐานะตัวแทน V Craft Thailand ซึ่งนำเสนองานฝีมือของผู้พิการทางสายตา พร้อมระบุว่าในงานนี้มีถึง 11 กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ
ข่าวดี้ดี 4.0 ผู้ประกอบการโอด! งาน "Soft Power" กระทรวงวัฒนธรรมที่ห้างดัง เงียบเหงา ไร้คนชม ทั้งที่ทุ่มงบมหาศาล
เปิดวันแรกสุดเงียบเหงา! มหกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่สากลฯ ผู้ประกอบการ 200 ครอบครัวทั่วไทย ตั้งใจร่วมออกงานบนห้างดัง หวังต่อยอดธุรกิจ กลับเจอพิธีเปิดแวบเดียวแล้ววังเวง ถามหาการโปรโมตแรงจูงใจคนเข้าชม
เมื่อวันที่ 18 เม.ย.อดีตบรรณาธิการนิตยสารสาละวินโพสต์ วันดี สันติวุฒิเมธี ได้ออกมาโพสต์ข้อความสุดเศร้าลงในเฟซบุ๊ก หลังเจ้าตัวมาออกบูธร่วมกับอีก 200 ผู้ประกอบการ ที่มาออกบูธขายของในงาน “มหกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่สากลและการเจรจาธุรกิจ” ภายใต้โครงการนโยบาย “หนึ่งครอบครัว หนึ่งพลังสร้างสรรค์” ในวันที่ 18-22 เม.ย. แต่แล้วกลับไร้การโปรโมต แถมไม่มีพิธีกร อีกทั้งคนยังเงียบ เมื่อมาเปิดถ่ายรูปเสร็จแล้วก็กลับ นับว่าทำเอาผู้ประกอบการถึงกับเครียดกันเลยทีเดียว โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความถึงบรรยากาศที่ไม่คึกคัก โดยระบุว่าในช่วงพิธีเปิดงาน มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรมมาเป็นประธาน มีช่างภาพ และผู้ร่วมงานจำนวนหนึ่ง แต่หลังจากนั้นบรรยากาศกลับเงียบสนิท ราวกับป่าช้า ทั้งที่บริเวณห้างสรรพสินค้าด้านล่างยังคงมีผู้คนเดินสัญจรไปมาอย่างคึกคัก
ผู้ประกอบการกว่า 200 ครอบครัว ต่างตั้งใจเดินทางมาจากทั่วประเทศ โดยไม่ได้มีการสนับสนุนเรื่องที่พักหรือค่าเดินทาง ด้วยความหวังว่าจะได้รับโอกาสทางธุรกิจตามที่เจ้าภาพได้กล่าวไว้ว่าเป้าหมายของงานนี้คือการสร้าง Business Matching
อย่างไรก็ตาม หลังจากวันแรกผ่านไป ผู้ประกอบการต่างเกิดความสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่มีผู้คนเดินขึ้นมาชมนิทรรศการ พวกเขาตั้งคำถามถึงการประชาสัมพันธ์งานของเจ้าภาพ ว่ามีการดำเนินการมากน้อยเพียงใด และมีสิ่งใดเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนที่เดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าด้านล่างขึ้นมาเยี่ยมชมงาน
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างนำผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและมีศักยภาพมาจัดแสดงและจำหน่าย โดยหวังว่าจะได้รับการโปรโมทให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่กลับไม่มีกิจกรรมใดๆ จากผู้จัดงานที่สร้างแรงจูงใจให้ผู้คนเข้าร่วมงาน พิธีกรหายเงียบ เวทีแสดงว่างเปล่า ไร้ผู้ชม แม้กระทั่งบูธที่นำนักศึกษาต่างชาติมาแสดงยังรู้สึกเศร้าใจที่ไม่มีใครให้ความสนใจ
ผู้โพสต์ยังตั้งข้อสังเกตถึงงบประมาณในการจัดงานครั้งนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าตั้งแต่การประชุมเตรียมงานที่มีผู้เข้าร่วมถึง 2,400 คน ค่าเช่าโรงแรม ค่าเดินทาง และค่าจัดงานต่างๆ ได้ใช้งบประมาณไปเป็นจำนวนมหาศาล แต่ผลลัพธ์ที่ปรากฏกลับน่าผิดหวังอย่างยิ่ง พร้อมตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว
ผู้โพสต์เชื่อมั่นในศักยภาพของ Soft Power ไทย และยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการที่ตั้งใจนำเสนอผลงานอย่างเต็มที่ แต่กลับไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสมจากเจ้าภาพ ทำให้เกิดคำถามว่า Soft Power ไทยอาจไปได้ไม่ไกลไม่ใช่เพราะศักยภาพของคนไทย แต่เป็นเพราะการใช้งบประมาณที่ไม่ถูกจุดของภาครัฐหรือไม่
ท้ายที่สุด ผู้โพสต์ได้เชิญชวนผู้ที่ได้อ่านข้อความนี้ให้เดินทางมาเยี่ยมชมงาน เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการที่ตั้งใจนำเสนอผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการ พร้อมแสดงความสงสารต่อผู้ประกอบการทุกราย รวมถึงตนเองในฐานะตัวแทน V Craft Thailand ซึ่งนำเสนองานฝีมือของผู้พิการทางสายตา พร้อมระบุว่าในงานนี้มีถึง 11 กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ