สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวชีวิตการเป็นทหารเกณฑ์ (ทหารเรือ) และจะมาให้คำแนะนำสำหรับคนที่หยิบได้ใบแดง ทร. นะครับ (ต่อไปนี่ผมจะใช้คำย่อชื่อแต่ละเหล่าเพื่อความง่ายในการพิมพ์นะครับ ทหารเรือ : ทร., ทหารบก : ทบ., ทหารอากาศ : ทอ.) แต่ผมต้องบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่คำแนะนำแบบสมบูรณ์ครบจบทุกอย่าง เพราะระบบการแจกจ่ายกำลังพลใน ทร. มันไม่เหมือนกับ ทบ. ตรงที่ว่า ตอนเราฝึก เราฝึกแค่ที่เดียวเลยคือศูนย์ฝึกทหารใหม่ที่ชลบุรี เมื่อฝึกเสร็จแล้วมันจะมีแยกหน่วย (เดี๋ยวมีอธิบายทีหลัง) ไปตามจังหวัดต่างๆ อีกทีนึง ซึ่งตรงนี้แหละครับที่ทำให้คำแนะนำมันไม่สมบูรณ์ เพราะหลังจากที่แนะนำถึงตรงที่แยกหน่วยไปแล้ว ผมจะแนะนำให้ได้แค่หน่วยที่ผมได้ไปตกเท่านั้น ซึ่งถ้าใครมีคำแนะนำอะไรจะเพิ่มเติมอะไรก็สามารถพิมพ์บอกต่อกันได้เลยนะครับ เอาละ ผมขอเริ่มรีวิวเลยละกัน (ถ้าผมบอกอะไรผิดพลาดไปก็มาแก้ไขได้นะครับ แต่ขอสุภาพนะครับ 😅)
วันจับใบดำ-แดง
ในวันที่เราจับใบดำ-แดงนั้น ถ้าเราจับได้ใบแดง มันจะมีชื่อเหล่าเป็นตัวย่อ ตามด้วยเลขผลัด ตัวอย่างของผมคือ "ทร. 4/66" ซึ่งมันจะมีแค่ของ ทร. เนี่ยแหละ จะมีจำนวนผลัดไม่เหมือนชาวบ้านเค้า ปกติ ทบ. กับ ทอ. จะมีแค่ 2 ผลัด แต่ ทร. มีถึง 4 ผลัด กว่าจะถึงคิวเรารายงานตัว ยิ่งผลัดหลัง ยิ่งรอนาน เสียเวลาสุดๆ โดยแต่ละผลัดจะต้องไปรายงานตัวกับสัสดี 1 วันก่อนวันนัดเข้ากรมกอง โดยวันรายงานตัวกับวันเข้ากรมกอง เค้าจะแจ้งกับเราตอนที่กรอกข้อมูลหลังจับได้ใบแดงนั่นแหละ แต่ถ้าจำไม่ได้ให้รีบไปถามสัสดีเลย ดีสุด แล้วเค้าจะดึงเข้ากลุ่มไลน์ของแต่ละผลัดเอาไว้ติดตามข้อมูลต่างๆ (ของผมเค้าใช้แบบนี้นะ แต่ของคนอื่นเค้าเป็นกันยังไงอันนี้ผมไม่รู้เหมือนกัน)
วันนัดเข้ากรมกอง
ก่อนที่จะพูดถึงบรรยากาศในวันนั้น ผมอยากจะขอแนะนำสิ่งที่ต้องเอาไปก่อน
1. กระเป๋า : เอาใบใหญ่ไปเลย ถึงขาไปจะไปแค่ของไม่กี่อย่าง แต่ขากลับหลังจากฝึกเสร็จบอกเลยว่ามาจากไหนเยอะแยะก็ไม่รู้ 5555
2. เสื้อผ้า : เอาไปแค่ 2 ชุดพอ รวมชุดที่เราใส่ด้วย เผื่อได้ปล่อยกลับบ้านหลังฝึกเสร็จ (แต่ของผมเค้าไม่ปล่อยทันทีอะดิ 😅)
3. เงินสด : อันนี้สำคัญ ช่วงฝึก 2 เดือนแรกได้ใช้แน่ๆ เยอะด้วย ใครที่บอกไม่ต้องเอาไปนี่แย้งสุดขาดใจเลย เอาไปเถอะ แต่เก็บให้ดีแล้วกัน ระวังหาย
4. กางเกงใน : เอาไปเยอะๆ เลย เพราะช่วงฝึก 2 เดือนแรกจะหายบ่อยมาก ไม่รู้ใครมันขยันหยิบไปใช้ 5555
5. โทรศัพท์ : สำคัญมาก เพราะช่วงที่ฝึก 2 เดือนแรกถึงเค้าจะเก็บโทรศัพท์เอาไว้ แต่ก็ยังมีช่วงที่เค้าปล่อยให้ใช้อยู่ แต่ใครที่มีเครื่องที่เพิ่งซื้อ แนะนำว่าอย่าเอาเครื่องใหม่ไปเลยดีกว่า ถ้าคนดูแลมันดูแลไม่ดี มีพังแน่นอน
6. สำเนาเอกสารสำคัญต่างๆ : อันนี้เอาไปเผื่อไว้เฉยๆ อาจจะไม่ได้ใช้ แต่มันจะมีบางกรณีที่ได้ใช้ ยิ่งพวกสำเนาเกี่ยวกับวุฒิการศึกษา กับอะไรที่เกี่ยวกับเอกสารการเกณฑ์ทหารของเราอะ สำเนาไปเยอะๆ เลย ที่สำคัญคือบัตรประชาชน เอาไปทั้งตัวจริงตัวสำเนาเลย
7. ของใช้ต่างๆ : เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ ยาสระผม ฯลฯ เอาไปเลย ถึงจะมีให้ซื้อทีหลังที่นู่น แต่เตรียมเอาไว้ก่อนจะดีกว่า
8. ยารักษาโรคประจำตัว : เอาไปเลย เดี๋ยวเค้าจะถามอีกทีนึงว่าเราเป็นอะไรยังไง ก็อธิบายเค้าไป
9. ปากกาเคมีสีดำกับสีขาวแบบเขียนบนผ้าแล้วซักไม่ออก : บอกเลยว่าพอถึงกองร้อยแล้วได้ใช้แน่ครับ
10. นาฬิกาข้อมือ : ให้เอาที่เป็นแบบอนาล็อกหรือถ้าเป็นดิจิตอลก็เอาแบบมีเลขขาวดำไปก็พอนะครับ เอาของแพงไปโดนริบแน่นอน โดยเฉพาะพวกใส่ซิมเล่นเน็ตได้นี่ได้คืนหลังฝึกเลยครับ
11. สายคล้องแว่น (สำหรับคนใส่แว่น) : ไม่แนะนำให้ใส่คอนแทคเลนส์ไป เพราะตอนฝึกมันต้องมีกระแทกกระเทือนอยู่แล้ว แนะนำให้เอาแว่นไปดีกว่า
และสุดท้าย สิ่งที่ห้ามเอาไป คือของมีค่าต่างๆ นาๆ เช่น พระเครื่อง โน๊ตบุ๊ค ไอแพด บลาๆๆๆ ไม่ต้องเอาไป ค่อยให้ที่บ้านส่งมาหรือกลับไปเอาที่บ้านหลังแยกหน่วยก็ได้
มาพูดถึงวันนัดเข้ากรมกองกันบ้าง ต้องบอกก่อนว่าแต่ละจังหวัดอาจจะไม่เหมือนกันนะ ในวันที่นัดเข้ากรมกองของจังหวัดผมนั้น เค้าจะนัดรวมกันที่ศูนย์ราชการจังหวัด ตอนเค้านัดผมนี่คือเช้ามาก ถ้าจำไม่ผิดคือ 6 โมง ไอเราก็อุส่ารีบ กลัวโดนทำโทษ พอไปถึงเท่านั้นแหละ เงียบกริ๊บ มีมารอกันอยู่ไม่กี่คนเอง แต่ก็แนะนำว่าให้ไปกันตรงเวลานะทุกคน เพราะตั้งแต่วันที่นัดเข้ากรมกองนั้น คุณได้กลายเป็นพลทหารไปเรียบร้อยแล้ว ถึงรอบๆ จะมีพ่อแม่พี่น้องคุณคอยดูอยู่ แต่ตอนนี้นายทหารที่ดูแลคุณวันนั้นเค้ามีอำนาจจัดการคุณได้แล้วนะ ดังนั้นไปให้ตรงเวลาดีกว่า พอคนเริ่มเยอะ นายทหารเค้าก็เรียกรวมพล นั่งบนเก้าอี้รอเรียกชื่อรับเลขประจำตัว โดยเลขประจำตัวที่ได้มาจะยังไม่ใช่เลขจริงๆ แค่เอาไว้ใช้ให้รู้ว่าใครเป็นใครแค่นั้นแหละ โดยถ้าผมจำไม่ผิด มันจะขึ้นต้นด้วยตัวย่อจังหวัด ตามด้วยเลขมั้ง ผมก็จำไม่ค่อยได้ละ พอถึงคิวผม ผมก็ยืนขึ้น แล้วเค้าจะให้เสื้อมาตัวนึงเค้าเรียกว่า "เสื้อน๊อต" โดยมันจะเป็นเสื้อสีขาวเนื้อผ้าคล้ายผ้าดี แต่ก็ไม่ใช่ ขอบคอเสื้อเป็นสีดำ คอกว้างมาก ไม่รู้จะกว้างไปไหน สามารถใส่ด้านไหนก็ได้ เพราะด้านหน้ากับด้านหลังคือเหมือนกันเลย พอเปลี่ยนแล้วก็เก็บเสื้อตัวที่เราใส่มาเอาไว้ ไม่ต้องให้ที่บ้านเอากลับ แล้วเค้าจะให้ขึ้นรถขนส่ง ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะรถของ ทร. นั่นแหละ ยาวไปยันถึงชลบุรีเลย ของสายใต้จะสบายหน่อย เค้าจะให้นั่งรถไฟลากยาวไปถึงสถานีบ้านพลูตาหลวงเลย แล้วรถของ ทร. จะมารอรับอีกทีนึง
ถึงศูนย์ฝึกทหารใหม่
เมื่อมาถึงศูนย์ฝึกทหารใหม่แล้ว เค้าจะจอดรถเรียงกันที่สนามหน้า บก.ศูนย์ฝึก แล้วจะให้เราลงจากรถ ไปตรวจกระเป๋า ตรวจยาเสพติด ตรวจอาวุธ ตรวจโรคประจำตัว และจะมีทหารจากหน่วยแต่ละหน่วยเข้ามาถามเราว่า ใครทำนู่นเป็นบ้าง ใครทำนี่เป็นบ้าง ถ้าเรามีความสามารถตามที่เค้าต้องการก็บอกเค้าไปเลย แล้วเค้าจะพาไปประจำที่หน่วยเค้าเลยตลอดระยะเวลาฝึก 2 เดือน ถ้าเราทำหน้าที่ได้ดีพอถึงเวลาแยกหน่วยเค้าอาจจะดึงตัวเราเอาไว้ที่หน่วยเค้าเลย (อันนี้เพื่อนที่กองร้อยผมเล่ามาอีกทีนะ ราบละเอียดเป็นยังไงผมก็ไม่รู้เหมือนกัน) หลังจากตรวจอะไนเรียบร้อยหมดแล้ว เค้าก็จะพาเราไปรวมกันที่โดมอะไรสักอย่าง ผมจำชื่อไม่ได้ละ 😂 อยู่ใกล้ๆ กันนั่นแหละ นั่งรวมกันรอขานชื่อเข้ากองร้อย โดยแต่ละกองร้อยก็จะมีครูฝึกของกองร้อยนั้นๆ นั่งรอเราอยู่ ซึ่งก่อนที่เค้าจะแยกเราไปตามกองร้อยต่างๆ เค้าก็จะอธิบายให้เราฟังว่าอยู่ที่นั่นต้องทำอะไรบ้าง ต้องฝึกอะไร ประมาณนี้ พอถึงเวลาเค้าเรียกชื่อเรา ถ้าผมจำไม่ผิด เค้าจะเรียกเราประมาณ [ชื่อ] [สกุล] ตามด้วยเลขกองร้อย และลงท้ายด้วยเลขกองพัน ตัวอย่างของผมก็ [ชื่อ] [นามสกุล] ร้อย 1 พัน 5 เราก็เดินไปตามโต๊ะของกองร้อยที่เราสังกัดอยู่ โดยเค้าจะให้เลขเรามา 3 หลัก อันนี้ต้องจำไว้ให้แม่นเลย ส่วนไอเลขที่เราได้มาก่อนหน้านี้ตอนรวมตัวก่อนขึ้นรถมาให้ลืมมันไปให้หมด พอเรารายงานตัวกับครูฝึกเสร็จแล้ว เค้าจะพาเราเดินไปที่กองร้อยเพื่อเตรียมตัวอีกทีนึง
เริ่มต้นชีวิตการฝึกทหาร
ก่อนเล่า ผมต้องบอกก่อนว่าแต่ละกองร้อยนั้น สไตล์การใช้ชีวิตและวิธีการทำอะไรต่างๆ นาๆ จะไม่เหมือนกันเลยสักกองร้อย ดังนั้นคุณต้องเตรียมใจไว้ให้ดี แล้วขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่าขอให้ได้อยู่ในกองร้อยที่สบายๆ ซึ่งใช่ครับ ผมได้อยู่กองร้อยนั้น 555555 โดยหลังจากนี้ผมจะเล่าในสิ่งที่ผมเจอเฉพาะในกองร้อยของผมเท่านั้นนะครับ
เมื่อผมมาถึงกองร้อยแล้ว ครูฝึกเค้าจะให้ไปรวมกันในห้องเช่าโทรศัพท์ (แต่ะกองร้อยถึงภายนอกจะดูเหมือนกัน แต่ภายในจะไม่เหมือนกันนะครับ ดังนั้นกองร้อยอื่นอาจจะเรียกรวมพลที่อื่นก็ได้) แล้วเรียกเก็บบัตรประชาชนและโทรศัพท์ โดยเค้าจะเขียนเลขไอเลข 3 หลักของเราที่เค้าให้มาตอนรายงานตัวนั่นแหละ แปะเอาไว้ แล้วเก็บเข้ากล่องเรียบร้อย โดยครูฝึกเคเาจะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ขึ้นมาจากกลุ่มพลทหารอย่างเราเนี่ยแหละมาดูแล ซึ่งใครได้เข้าไปอยู่ในกองร้อยก่อนก็มีสิทธิ์ได้รับเลือกเป็นเจ้าหน้าที่ก่อน ซึ่งโชคร้ายสำหรับจังหวัดผม มาเกือบช้าสุด อดได้เป็นเจ้าหน้าที่เลย 😂 หลังจากเก็บโทรศัพท์แล้ว เค้าจะเอาใบรายการของที่เราอยากได้มาให้เราติ๊ก ซึ่งแน่นอนว่าเสียตังค์ เมื่อเราติ๊กเสร็จครูฝึกก็จะให้เราไปเลือกไซส์ชุดต่างๆ ที่เราจะต้องใช้ในชีวิตประจำวันระหว่างฝึกอยู่ในนั้น โดยรายละเอียดชุดที่ได้จะมีประมาณนี้ :
เสื้อน๊อต 2 ตัว, เสื้อพละสีขาว 2 ตัว, กางเกงขาสั้นสีกากี 2 ตัว (หรือ 3 ตัว ผมลืมละ), กางเกงขาสั้นสีดำ 2 ตัว, รองเท้าคอมแบท 1 คู่, รองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล 1 คู่ และรองเท้าผ้าใบสีขาว 1 คู่
โดยเราจะต้องใช้ชีวิตด้วยจำนวณเสื้อผ้าเท่านั้นให้ได้ แรกๆ มันก็จะลำบากนิดนึงครับ หลังๆ พอเราบริหารชุดที่จะใส่เป็นก็สบายละ และไม่ต้องห่วงครับ ระหว่างที่เราฝึก เค้ามีบริการซักผ้าให้ อาทิตย์ละ 3 วัน โดยเค้าก็จะกำหนดว่าวันไหนซักผ้าได้กี่ชิ้น แล้วพอถึงเวลาอีกวันเค้าจะเอาผ้ามาคืนเราแล้วจะแขวนไว้ตามเลขประจำตัวเราครับครับ ดังนั้นก็อย่าลืมเอาปากกาเคมีมาเขียนเลขเราไว้ตามขอบเสื้อขอบกางเกงขอบรองเท้าด้วยนะ กันหาย
เมื่อเข้าสู่ช่วงของการฝึก แต่ละกองร้อยเค้าก็จะไม่เหมือนกันนะครับ บางกองร้อยอาจจะฝึกตั้งแต่วันแรกที่เค้ากองร้อยครบเลย บางกองร้อยก็ชิวไปทั้งอาทิตย์ ซึ่งถ้าคุณได้อยู่กองร้อยแบบแรก เตรียมตัวเหนื่อยได้เลยครับ ระหว่างที่ฝึกถ้าขาดเหลืออะไรก็ไม่ต้องห่วงครับ หลังจากผ่านไปอาทิตย์ 2 อาทิตย์แรก ครูฝึกเค้าจะให้ที่อยู่ของกองร้อย ให้ที่บ้านเราส่งของมาให้เราได้ แต่ถ้าจะดีแนะนำว่าอย่าเป็นของกินกับสารเสพติด โดยเฉพาะบุหรี่นี่ได้เห็นอีกทีก็อยู่ร้านค้ากองร้อยแน่นอนครับ และเหมือนที่ผมบอกไปเรื่องการใช้โทรศัพท์ แต่ละกองร้อยกองพันจะได้เล่นไม่ตรงกันครับ แล้วแต่เค้าจะจัดสรรค์วันให้ แต่อาทิตย์นึงจะได้เล่นแค่ 2 วัน วันละ 1 ชม. เท่านั้น ถ้าวันไหนทำตัวดีหน่อยก็อาจจะได้เพิ่มมาสักครึ่ง ชม. หรือ ชม. นึง แล้วแต่พินิจของครูฝึกวันนั้นด้วยนะครับ แต่ถึงเค้าจะไม่ได้แจกโทรศัพท์เรา แต่ที่กองร้อยก็ยังมีโทรศัพท์ให้เช่าอยู่นะครับ เราสามารถติดต่อกับที่บ้านได้ทุกวันเลย
และเมื่อเราฝึกไปได้เดือนนึง ก็ถึงเวลา เยี่ยมญาติ ผมขอแนะนำว่าใครบ้านไกลเช่นอยู่ใต้ มาแล้วเสียเวลากับค่าใช่จ่ายไม่คุ้มกับเวลาที่ได้เจอกันก็แนะนำว่าไม่ต้องให้ที่บ้านมาก็ได้ครับ เหมือนของผมก็ไม่ได้ให้มาเหมือนกัน โดยก่อนที่จะถึงวันเยี่ยมญาติประมาณอาทิตย์นึง ครูฝึกจะให้เราตัดชุดกะลาสีชุดแรกครับ เพื่อเอาไว้ใส่ไปเจอญาติ (แต่ได้ใส่แค่กางเกงกับหมวกกะลาสีนะ) และแจ้งรายละเอียดวิธีการเข้าเยี่ยมพลทหารเอาไว้ให้เราแจ้งกับที่บ้านอีกทีนึง พอถึงเวลาใครมีญาติมาก็ไปใช้เวลาให้เต็มที่ครับ ส่วนพวกที่ไม่มีใครมาเยี่ยมก็นอนสิครับ รออะไร นอนให้หมอนแตกไปเลย
เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 2 ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเยอะมากครับ เริ่มจากการเลือกหน่วย ซึ่งครูฝึกจะให้ใบเลือกหน่วยมา ให้เราเลือกว่าเราอยากจะเข้าหน่วยไหน โดยเราสามารถดูได้ว่าหน่วยไหนเปิดรับคนบ้างที่บอร์ดประกาศกลางกองร้อยได้เลยครับ ต่อไปคือการฝึกจะเข้มขึ้นไปอีกระดับนึงครับ เพราะช่วงกลางเดือนที่ 2 จะมีการประเมินบุคคลท่ามือเปล่ากับท่าอาวุธของแต่ละกองร้อย ดังนั้นบอกเลยว่าถ้าทำไม่ได้ โดนแดกยับแน่นอน หลังจากนั้นก็จะมีการฝึกยิงปืน และช่วงสัปดาห์สุดท้ายคือการเดินสวนสนามปิดหลักสูตรฝึก 2 เดือน บอกเลยครับว่าเดือนที่ 2 คือเหนื่อยสุดๆ แต่เมื่อผ่านการสวนสนามไปได้ มันเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกอะครับ ช่วง 2-3 วันสุดท้ายของกองร้อยผมนี่คือสบายแบบไม่รู้จะสบายยังไงแล้ว และแล้ว วันที่เรารอคอยก็มาถึง... วันแยกหน่วย
เดี๋ยวไว้ผมไปเล่าต่อในคอมเม้นต์นะครับ เพราะผมพิมพ์จะเกินลิมิตละ 55555 😂
รีวิวชีวิตการเป็นทหารเกณฑ์ และคำแนะนำสำหรับทหารใหม่ (ทหารเรือ และนี่ไม่ใช่คำแนะนำแบบสมบูรณ์ เพราะอะไร ไปอ่าน...)
วันจับใบดำ-แดง
ในวันที่เราจับใบดำ-แดงนั้น ถ้าเราจับได้ใบแดง มันจะมีชื่อเหล่าเป็นตัวย่อ ตามด้วยเลขผลัด ตัวอย่างของผมคือ "ทร. 4/66" ซึ่งมันจะมีแค่ของ ทร. เนี่ยแหละ จะมีจำนวนผลัดไม่เหมือนชาวบ้านเค้า ปกติ ทบ. กับ ทอ. จะมีแค่ 2 ผลัด แต่ ทร. มีถึง 4 ผลัด กว่าจะถึงคิวเรารายงานตัว ยิ่งผลัดหลัง ยิ่งรอนาน เสียเวลาสุดๆ โดยแต่ละผลัดจะต้องไปรายงานตัวกับสัสดี 1 วันก่อนวันนัดเข้ากรมกอง โดยวันรายงานตัวกับวันเข้ากรมกอง เค้าจะแจ้งกับเราตอนที่กรอกข้อมูลหลังจับได้ใบแดงนั่นแหละ แต่ถ้าจำไม่ได้ให้รีบไปถามสัสดีเลย ดีสุด แล้วเค้าจะดึงเข้ากลุ่มไลน์ของแต่ละผลัดเอาไว้ติดตามข้อมูลต่างๆ (ของผมเค้าใช้แบบนี้นะ แต่ของคนอื่นเค้าเป็นกันยังไงอันนี้ผมไม่รู้เหมือนกัน)
วันนัดเข้ากรมกอง
ก่อนที่จะพูดถึงบรรยากาศในวันนั้น ผมอยากจะขอแนะนำสิ่งที่ต้องเอาไปก่อน
1. กระเป๋า : เอาใบใหญ่ไปเลย ถึงขาไปจะไปแค่ของไม่กี่อย่าง แต่ขากลับหลังจากฝึกเสร็จบอกเลยว่ามาจากไหนเยอะแยะก็ไม่รู้ 5555
2. เสื้อผ้า : เอาไปแค่ 2 ชุดพอ รวมชุดที่เราใส่ด้วย เผื่อได้ปล่อยกลับบ้านหลังฝึกเสร็จ (แต่ของผมเค้าไม่ปล่อยทันทีอะดิ 😅)
3. เงินสด : อันนี้สำคัญ ช่วงฝึก 2 เดือนแรกได้ใช้แน่ๆ เยอะด้วย ใครที่บอกไม่ต้องเอาไปนี่แย้งสุดขาดใจเลย เอาไปเถอะ แต่เก็บให้ดีแล้วกัน ระวังหาย
4. กางเกงใน : เอาไปเยอะๆ เลย เพราะช่วงฝึก 2 เดือนแรกจะหายบ่อยมาก ไม่รู้ใครมันขยันหยิบไปใช้ 5555
5. โทรศัพท์ : สำคัญมาก เพราะช่วงที่ฝึก 2 เดือนแรกถึงเค้าจะเก็บโทรศัพท์เอาไว้ แต่ก็ยังมีช่วงที่เค้าปล่อยให้ใช้อยู่ แต่ใครที่มีเครื่องที่เพิ่งซื้อ แนะนำว่าอย่าเอาเครื่องใหม่ไปเลยดีกว่า ถ้าคนดูแลมันดูแลไม่ดี มีพังแน่นอน
6. สำเนาเอกสารสำคัญต่างๆ : อันนี้เอาไปเผื่อไว้เฉยๆ อาจจะไม่ได้ใช้ แต่มันจะมีบางกรณีที่ได้ใช้ ยิ่งพวกสำเนาเกี่ยวกับวุฒิการศึกษา กับอะไรที่เกี่ยวกับเอกสารการเกณฑ์ทหารของเราอะ สำเนาไปเยอะๆ เลย ที่สำคัญคือบัตรประชาชน เอาไปทั้งตัวจริงตัวสำเนาเลย
7. ของใช้ต่างๆ : เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ ยาสระผม ฯลฯ เอาไปเลย ถึงจะมีให้ซื้อทีหลังที่นู่น แต่เตรียมเอาไว้ก่อนจะดีกว่า
8. ยารักษาโรคประจำตัว : เอาไปเลย เดี๋ยวเค้าจะถามอีกทีนึงว่าเราเป็นอะไรยังไง ก็อธิบายเค้าไป
9. ปากกาเคมีสีดำกับสีขาวแบบเขียนบนผ้าแล้วซักไม่ออก : บอกเลยว่าพอถึงกองร้อยแล้วได้ใช้แน่ครับ
10. นาฬิกาข้อมือ : ให้เอาที่เป็นแบบอนาล็อกหรือถ้าเป็นดิจิตอลก็เอาแบบมีเลขขาวดำไปก็พอนะครับ เอาของแพงไปโดนริบแน่นอน โดยเฉพาะพวกใส่ซิมเล่นเน็ตได้นี่ได้คืนหลังฝึกเลยครับ
11. สายคล้องแว่น (สำหรับคนใส่แว่น) : ไม่แนะนำให้ใส่คอนแทคเลนส์ไป เพราะตอนฝึกมันต้องมีกระแทกกระเทือนอยู่แล้ว แนะนำให้เอาแว่นไปดีกว่า
และสุดท้าย สิ่งที่ห้ามเอาไป คือของมีค่าต่างๆ นาๆ เช่น พระเครื่อง โน๊ตบุ๊ค ไอแพด บลาๆๆๆ ไม่ต้องเอาไป ค่อยให้ที่บ้านส่งมาหรือกลับไปเอาที่บ้านหลังแยกหน่วยก็ได้
มาพูดถึงวันนัดเข้ากรมกองกันบ้าง ต้องบอกก่อนว่าแต่ละจังหวัดอาจจะไม่เหมือนกันนะ ในวันที่นัดเข้ากรมกองของจังหวัดผมนั้น เค้าจะนัดรวมกันที่ศูนย์ราชการจังหวัด ตอนเค้านัดผมนี่คือเช้ามาก ถ้าจำไม่ผิดคือ 6 โมง ไอเราก็อุส่ารีบ กลัวโดนทำโทษ พอไปถึงเท่านั้นแหละ เงียบกริ๊บ มีมารอกันอยู่ไม่กี่คนเอง แต่ก็แนะนำว่าให้ไปกันตรงเวลานะทุกคน เพราะตั้งแต่วันที่นัดเข้ากรมกองนั้น คุณได้กลายเป็นพลทหารไปเรียบร้อยแล้ว ถึงรอบๆ จะมีพ่อแม่พี่น้องคุณคอยดูอยู่ แต่ตอนนี้นายทหารที่ดูแลคุณวันนั้นเค้ามีอำนาจจัดการคุณได้แล้วนะ ดังนั้นไปให้ตรงเวลาดีกว่า พอคนเริ่มเยอะ นายทหารเค้าก็เรียกรวมพล นั่งบนเก้าอี้รอเรียกชื่อรับเลขประจำตัว โดยเลขประจำตัวที่ได้มาจะยังไม่ใช่เลขจริงๆ แค่เอาไว้ใช้ให้รู้ว่าใครเป็นใครแค่นั้นแหละ โดยถ้าผมจำไม่ผิด มันจะขึ้นต้นด้วยตัวย่อจังหวัด ตามด้วยเลขมั้ง ผมก็จำไม่ค่อยได้ละ พอถึงคิวผม ผมก็ยืนขึ้น แล้วเค้าจะให้เสื้อมาตัวนึงเค้าเรียกว่า "เสื้อน๊อต" โดยมันจะเป็นเสื้อสีขาวเนื้อผ้าคล้ายผ้าดี แต่ก็ไม่ใช่ ขอบคอเสื้อเป็นสีดำ คอกว้างมาก ไม่รู้จะกว้างไปไหน สามารถใส่ด้านไหนก็ได้ เพราะด้านหน้ากับด้านหลังคือเหมือนกันเลย พอเปลี่ยนแล้วก็เก็บเสื้อตัวที่เราใส่มาเอาไว้ ไม่ต้องให้ที่บ้านเอากลับ แล้วเค้าจะให้ขึ้นรถขนส่ง ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะรถของ ทร. นั่นแหละ ยาวไปยันถึงชลบุรีเลย ของสายใต้จะสบายหน่อย เค้าจะให้นั่งรถไฟลากยาวไปถึงสถานีบ้านพลูตาหลวงเลย แล้วรถของ ทร. จะมารอรับอีกทีนึง
ถึงศูนย์ฝึกทหารใหม่
เมื่อมาถึงศูนย์ฝึกทหารใหม่แล้ว เค้าจะจอดรถเรียงกันที่สนามหน้า บก.ศูนย์ฝึก แล้วจะให้เราลงจากรถ ไปตรวจกระเป๋า ตรวจยาเสพติด ตรวจอาวุธ ตรวจโรคประจำตัว และจะมีทหารจากหน่วยแต่ละหน่วยเข้ามาถามเราว่า ใครทำนู่นเป็นบ้าง ใครทำนี่เป็นบ้าง ถ้าเรามีความสามารถตามที่เค้าต้องการก็บอกเค้าไปเลย แล้วเค้าจะพาไปประจำที่หน่วยเค้าเลยตลอดระยะเวลาฝึก 2 เดือน ถ้าเราทำหน้าที่ได้ดีพอถึงเวลาแยกหน่วยเค้าอาจจะดึงตัวเราเอาไว้ที่หน่วยเค้าเลย (อันนี้เพื่อนที่กองร้อยผมเล่ามาอีกทีนะ ราบละเอียดเป็นยังไงผมก็ไม่รู้เหมือนกัน) หลังจากตรวจอะไนเรียบร้อยหมดแล้ว เค้าก็จะพาเราไปรวมกันที่โดมอะไรสักอย่าง ผมจำชื่อไม่ได้ละ 😂 อยู่ใกล้ๆ กันนั่นแหละ นั่งรวมกันรอขานชื่อเข้ากองร้อย โดยแต่ละกองร้อยก็จะมีครูฝึกของกองร้อยนั้นๆ นั่งรอเราอยู่ ซึ่งก่อนที่เค้าจะแยกเราไปตามกองร้อยต่างๆ เค้าก็จะอธิบายให้เราฟังว่าอยู่ที่นั่นต้องทำอะไรบ้าง ต้องฝึกอะไร ประมาณนี้ พอถึงเวลาเค้าเรียกชื่อเรา ถ้าผมจำไม่ผิด เค้าจะเรียกเราประมาณ [ชื่อ] [สกุล] ตามด้วยเลขกองร้อย และลงท้ายด้วยเลขกองพัน ตัวอย่างของผมก็ [ชื่อ] [นามสกุล] ร้อย 1 พัน 5 เราก็เดินไปตามโต๊ะของกองร้อยที่เราสังกัดอยู่ โดยเค้าจะให้เลขเรามา 3 หลัก อันนี้ต้องจำไว้ให้แม่นเลย ส่วนไอเลขที่เราได้มาก่อนหน้านี้ตอนรวมตัวก่อนขึ้นรถมาให้ลืมมันไปให้หมด พอเรารายงานตัวกับครูฝึกเสร็จแล้ว เค้าจะพาเราเดินไปที่กองร้อยเพื่อเตรียมตัวอีกทีนึง
เริ่มต้นชีวิตการฝึกทหาร
ก่อนเล่า ผมต้องบอกก่อนว่าแต่ละกองร้อยนั้น สไตล์การใช้ชีวิตและวิธีการทำอะไรต่างๆ นาๆ จะไม่เหมือนกันเลยสักกองร้อย ดังนั้นคุณต้องเตรียมใจไว้ให้ดี แล้วขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่าขอให้ได้อยู่ในกองร้อยที่สบายๆ ซึ่งใช่ครับ ผมได้อยู่กองร้อยนั้น 555555 โดยหลังจากนี้ผมจะเล่าในสิ่งที่ผมเจอเฉพาะในกองร้อยของผมเท่านั้นนะครับ
เมื่อผมมาถึงกองร้อยแล้ว ครูฝึกเค้าจะให้ไปรวมกันในห้องเช่าโทรศัพท์ (แต่ะกองร้อยถึงภายนอกจะดูเหมือนกัน แต่ภายในจะไม่เหมือนกันนะครับ ดังนั้นกองร้อยอื่นอาจจะเรียกรวมพลที่อื่นก็ได้) แล้วเรียกเก็บบัตรประชาชนและโทรศัพท์ โดยเค้าจะเขียนเลขไอเลข 3 หลักของเราที่เค้าให้มาตอนรายงานตัวนั่นแหละ แปะเอาไว้ แล้วเก็บเข้ากล่องเรียบร้อย โดยครูฝึกเคเาจะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ขึ้นมาจากกลุ่มพลทหารอย่างเราเนี่ยแหละมาดูแล ซึ่งใครได้เข้าไปอยู่ในกองร้อยก่อนก็มีสิทธิ์ได้รับเลือกเป็นเจ้าหน้าที่ก่อน ซึ่งโชคร้ายสำหรับจังหวัดผม มาเกือบช้าสุด อดได้เป็นเจ้าหน้าที่เลย 😂 หลังจากเก็บโทรศัพท์แล้ว เค้าจะเอาใบรายการของที่เราอยากได้มาให้เราติ๊ก ซึ่งแน่นอนว่าเสียตังค์ เมื่อเราติ๊กเสร็จครูฝึกก็จะให้เราไปเลือกไซส์ชุดต่างๆ ที่เราจะต้องใช้ในชีวิตประจำวันระหว่างฝึกอยู่ในนั้น โดยรายละเอียดชุดที่ได้จะมีประมาณนี้ :
เสื้อน๊อต 2 ตัว, เสื้อพละสีขาว 2 ตัว, กางเกงขาสั้นสีกากี 2 ตัว (หรือ 3 ตัว ผมลืมละ), กางเกงขาสั้นสีดำ 2 ตัว, รองเท้าคอมแบท 1 คู่, รองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล 1 คู่ และรองเท้าผ้าใบสีขาว 1 คู่
โดยเราจะต้องใช้ชีวิตด้วยจำนวณเสื้อผ้าเท่านั้นให้ได้ แรกๆ มันก็จะลำบากนิดนึงครับ หลังๆ พอเราบริหารชุดที่จะใส่เป็นก็สบายละ และไม่ต้องห่วงครับ ระหว่างที่เราฝึก เค้ามีบริการซักผ้าให้ อาทิตย์ละ 3 วัน โดยเค้าก็จะกำหนดว่าวันไหนซักผ้าได้กี่ชิ้น แล้วพอถึงเวลาอีกวันเค้าจะเอาผ้ามาคืนเราแล้วจะแขวนไว้ตามเลขประจำตัวเราครับครับ ดังนั้นก็อย่าลืมเอาปากกาเคมีมาเขียนเลขเราไว้ตามขอบเสื้อขอบกางเกงขอบรองเท้าด้วยนะ กันหาย
เมื่อเข้าสู่ช่วงของการฝึก แต่ละกองร้อยเค้าก็จะไม่เหมือนกันนะครับ บางกองร้อยอาจจะฝึกตั้งแต่วันแรกที่เค้ากองร้อยครบเลย บางกองร้อยก็ชิวไปทั้งอาทิตย์ ซึ่งถ้าคุณได้อยู่กองร้อยแบบแรก เตรียมตัวเหนื่อยได้เลยครับ ระหว่างที่ฝึกถ้าขาดเหลืออะไรก็ไม่ต้องห่วงครับ หลังจากผ่านไปอาทิตย์ 2 อาทิตย์แรก ครูฝึกเค้าจะให้ที่อยู่ของกองร้อย ให้ที่บ้านเราส่งของมาให้เราได้ แต่ถ้าจะดีแนะนำว่าอย่าเป็นของกินกับสารเสพติด โดยเฉพาะบุหรี่นี่ได้เห็นอีกทีก็อยู่ร้านค้ากองร้อยแน่นอนครับ และเหมือนที่ผมบอกไปเรื่องการใช้โทรศัพท์ แต่ละกองร้อยกองพันจะได้เล่นไม่ตรงกันครับ แล้วแต่เค้าจะจัดสรรค์วันให้ แต่อาทิตย์นึงจะได้เล่นแค่ 2 วัน วันละ 1 ชม. เท่านั้น ถ้าวันไหนทำตัวดีหน่อยก็อาจจะได้เพิ่มมาสักครึ่ง ชม. หรือ ชม. นึง แล้วแต่พินิจของครูฝึกวันนั้นด้วยนะครับ แต่ถึงเค้าจะไม่ได้แจกโทรศัพท์เรา แต่ที่กองร้อยก็ยังมีโทรศัพท์ให้เช่าอยู่นะครับ เราสามารถติดต่อกับที่บ้านได้ทุกวันเลย
และเมื่อเราฝึกไปได้เดือนนึง ก็ถึงเวลา เยี่ยมญาติ ผมขอแนะนำว่าใครบ้านไกลเช่นอยู่ใต้ มาแล้วเสียเวลากับค่าใช่จ่ายไม่คุ้มกับเวลาที่ได้เจอกันก็แนะนำว่าไม่ต้องให้ที่บ้านมาก็ได้ครับ เหมือนของผมก็ไม่ได้ให้มาเหมือนกัน โดยก่อนที่จะถึงวันเยี่ยมญาติประมาณอาทิตย์นึง ครูฝึกจะให้เราตัดชุดกะลาสีชุดแรกครับ เพื่อเอาไว้ใส่ไปเจอญาติ (แต่ได้ใส่แค่กางเกงกับหมวกกะลาสีนะ) และแจ้งรายละเอียดวิธีการเข้าเยี่ยมพลทหารเอาไว้ให้เราแจ้งกับที่บ้านอีกทีนึง พอถึงเวลาใครมีญาติมาก็ไปใช้เวลาให้เต็มที่ครับ ส่วนพวกที่ไม่มีใครมาเยี่ยมก็นอนสิครับ รออะไร นอนให้หมอนแตกไปเลย
เมื่อเข้าสู่เดือนที่ 2 ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเยอะมากครับ เริ่มจากการเลือกหน่วย ซึ่งครูฝึกจะให้ใบเลือกหน่วยมา ให้เราเลือกว่าเราอยากจะเข้าหน่วยไหน โดยเราสามารถดูได้ว่าหน่วยไหนเปิดรับคนบ้างที่บอร์ดประกาศกลางกองร้อยได้เลยครับ ต่อไปคือการฝึกจะเข้มขึ้นไปอีกระดับนึงครับ เพราะช่วงกลางเดือนที่ 2 จะมีการประเมินบุคคลท่ามือเปล่ากับท่าอาวุธของแต่ละกองร้อย ดังนั้นบอกเลยว่าถ้าทำไม่ได้ โดนแดกยับแน่นอน หลังจากนั้นก็จะมีการฝึกยิงปืน และช่วงสัปดาห์สุดท้ายคือการเดินสวนสนามปิดหลักสูตรฝึก 2 เดือน บอกเลยครับว่าเดือนที่ 2 คือเหนื่อยสุดๆ แต่เมื่อผ่านการสวนสนามไปได้ มันเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกอะครับ ช่วง 2-3 วันสุดท้ายของกองร้อยผมนี่คือสบายแบบไม่รู้จะสบายยังไงแล้ว และแล้ว วันที่เรารอคอยก็มาถึง... วันแยกหน่วย
เดี๋ยวไว้ผมไปเล่าต่อในคอมเม้นต์นะครับ เพราะผมพิมพ์จะเกินลิมิตละ 55555 😂