สวัสดีตัวเราในวันที่ 18 เมษายน 2568 ที่กำลังเขียนข้อความนี้อยู่ เดี๋ยวสักวันคงกลับมาลบข้อความนี้
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่มีประโยชน์เลย เป็นภาระ สร้างปัญหาให้คุณแม่อีกแล้ว ขอโทษไปแล้วนะ แต่เขายังโกรธอยู่ เราเลยเลือกที่จะเดินออกมาให้เขาอยู่คนเดียวก่อน ตอนนี้เขาคงยังไม่อยากเห็นหน้าเรา เรารู้สึกว่าในหลาย ๆ ครั้ง เหมือนเราเป็นคนโง่ในสายตาแม่เลย ทำอะไรผิดพลาดไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ คำขอโทษก็ไม่เคยช่วยอะไร เรามักจะโดนคำพูดตอบกลับมาว่าโง่ คิดได้ยังไง หรือในบางครั้งที่เราอยากพูดคุยเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้แม่ฟัง แต่เผลอพูดเยอะไปจนแม่ไม่ได้อยากฟังเราขนาดนั้น แม่ก็มักจะตอบกลับมาว่า พูดจบรึยังแม่ไม่ได้อยากฟังนะ
ตอนนี้เราอยู่กับแม่แค่ 2 คน คุณพ่อที่เราสนิทด้วยมากที่สุดในบ้านเขาไม่อยู่กับเราแล้ว ตั้งแต่คุณพ่อไม่ได้อยู่บนโลกในนี้อีกแล้ว ในตอนแรกคุณแม่จะมีนิสัยที่ชอบยึดติดกับเราประมาณนึง ตอนเราเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยแรก ๆ เราจึงเลือกที่จะไปเรียนไกลบ้าน เพราะเราอึดอัดกับเขา เราไม่อยากอยู่ใกล้กับเขา รู้สึกเหมือนอยู่ห่างกันแล้วจะได้ใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องร้องไห้บ่อย ๆ มากกว่า ขนาดไปอยู่ไกลจากบ้าน ไม่ค่อยได้คุยกันนะ ยังทะเลาะกันได้ด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แม่เขาชอบโมโห เหวี่ยงเราด้วยเรื่องเล็กน้อย และเขาชอบอ้างว่าเขาเป็นประจำเดือน
เวลาเราจะทำอะไร เราจะขอหรือแจ้งแม่ทุกครั้ง เพื่อให้เขารับรู้เรื่องนั้น ๆ กับเราไปด้วย แแล้วบางครั้งเขาก็ไม่อยากให้ทำ เช่น การไปดูคอนเสิร์ตศิลปิน การไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน เราก็ถามไปนะว่าทำไมถึงไม่อยากให้ไปดู เขาก็บอกมาว่าตอนเขาใช้ชีวิตเป็นวัยรุ่นเขายังไม่อยากทำ ไม่เห็นจำเป็นต้องไป เขาก็ยังใช้ชีวิตเติบโตมาได้จนทำงานแบบนี้เลย ?? ตอนนั้นเราตอบไปอยู่นะ เป็นคำพูดที่แรงที่สุดที่เราเคยตอบไปแล้วแหละว่า แต่เราไม่ได้อยากใช้ชีวิตเป็นแม่นะ เราอยากใช้ชีวิตวัยรุ่นในแบบของเรา แล้วช่วงเวลาวัยรุ่นมันก็มีแค่ครั้งเดียว ความสุขของเราที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนอะไร ทำไมถึงต้องมาห้ามแค่เพราะแม่เขาไม่ได้ชอบ ไม่ได้อยากทำด้วย แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายก็จบลงที่การทะเลาะกันอยู่ดี
หลาย ๆ เหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาระหว่างคุณแม่และเรา ทำให้ในความรู้สึกของเรา เกิดความเกลียดและไม่ชอบแม่ตัวเองอยู่บ่อยครั้ง แต่เราไม่ได้อยากให้เขาเจออะไรไม่ดีหรือไม่มีความสุขนะ เราก็ยังอยากให้เขามีชีวิตที่ดี มีความสุขในแบบของเขา แต่เราแค่ไม่อยากให้เขามายุ่งกับเรามาก ความเกลียดของเราที่มีต่อแม่ ทำให้เราไม่ชอบที่จะอยู่ใกล้เขา ภาพในอนาคตของเรา ชีวิตที่วางไว้เราก็คงจะหาทางไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง เราไม่เคยมีความสุขได้เต็มหัวใจเลยเวลาที่ต้องอยู่บ้านที่รู้ว่ามีแม่อยู่ใกล้ ๆ
แม่เขารู้นะว่าสบายใจและสนิทกับพ่อมากกว่า เขาเคยพูดกับเราครั้งนึงว่า เขาก็น้อยใจนะที่ในบางครั้งเราเหมือนไม่ค่อยสนิทกับเขา เหมือนเราไม่รักเขาเลย แต่แล้วจะให้เราทำยังไง พอเราพยายามจะคุยด้วยบ่อย ๆ ก็กลายเป็นต้องมาทะเลาะกัน หลาย ๆ ครั้งมันเป็นการทะเลาะด้วยเรื่องเล็กน้อยจริง ๆ นะ แต่มันจะชอบลามไปด้วยการดุด่าว่าเราด้วยประโยคแรง ๆ เช่น สมอง (ใส่อารมณ์) คิดหน่อย โง่รึเปล่า เราเคยถามเขาไปนะว่า แล้วมันจำเป็นต้องทะเลาะกันด้วยหรอเรื่องนี้ แม่เป็นอะไร หนูแค่อยากคุยกับแม่นาน ๆ ทีเท่านั้น ทำไมถึงต้องหาเรื่องมาทะเลาะด้วย ไม่เหนื่อยหรอ เขาก็เงียบไปนะ แล้วเราก็ไม่ได้คุยกันหลายวันเลย ปกติเราจะเป็นคนทักไปคุยก่อน แต่ครั้งนั้นเราเหนื่อยที่จะเป็นคนเข้าหาก่อนแล้วมั้ง ก็เลยไม่ได้คุยกันหลายสัปดาห์ จนในที่สุดแม่ก็ทักมาคุยด้วย แต่เป็นการส่งรูปหมาที่บ้านมาให้ แม่แทบจะไม่เคยขอโทษเราก่อนเลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทิฐิถึงได้สูงขนาดนี้ เราเคยปรึกษากับน้องที่เป็นญาติของเรา เขาเคยบอกนะว่าบางทีก็ไม่ต้องไปคาดหวังอะไรในตัวแม่แล้วแหละ หมายถึงไม่ต้องไปคาดหวังว่าเขาจะเข้าใจหรือเขาจะมาขอโทษเราเวลาเขาทำผิด
จริง ๆ ช่วงที่คุณพ่อเพิ่งเสียไป แม่เขาเป็นห่วงเรามากอยู่นะ เพราะเราสนิทกับพ่อมาก เรียกได้ว่าพ่อเป็นทุกอย่างของเรา เป็นโลกทั้งใบของเรา การสูญเสียครั้งนั้นเป็นสิ่งที่สะเทือนใจสำหรับเรามาก ๆ แม่เขาเลยจะคอยถาม คอยบอกเราบ่อย ๆ ว่า ถ้ามีอะไรไม่สบายใจให้บอก ให้เล่าให้เขาฟังได้นะ แต่พอเราอยากเล่าบางอย่างอะ แค่เรื่องที่เราเจอมาตอนเรียนอยากมาปรึกษา แม่ยังตอบกลับมาเลยว่า พูดจบรึยัง ก็ไม่มีอะไรแล้วรึเปล่า จะเล่าทำไม มันทำให้เรายิ่งรู้สึกว่าไม่ควรเล่าอะไรให้แม่ฟังอีกเลย แต่เขาก็จะชอบมาบ่นอีกว่าทำไมไม่เล่าอะไรให้เขาฟังบ้างเลย ตามอารมณ์เขาไม่ทันเลยอะ วัยทองรึเปล่านะ
เหนื่อยจัง เหนื่อยกับความรู้สึกที่มีอยู่ ถ้าเราไม่ได้เกิดมาเป็นลูกของแม่ ถ้าแม่ไม่ได้เป็นแม่ของเรา ถ้าแม่ไม่ได้มีลูกอย่างเรามันคงจะดีกว่านี้จริง ๆ สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกมาตลอดระหว่างเรากับแม่ คือ เรากับแม่เข้ากันไม่เคยได้เลย เหมือนความคิดมันไม่ตรงกัน ไม่ทันกันอะ บางครั้งแม่ชอบมีคำถามมาทดสอบความคิด ทดสอบการแก้ปัญหาของเรา ซึ่งเราไม่ชอบเลย เพราะถ้าเราตอบอะไรไม่ตรงใจเขาขึ้นมาจะกลายเป็นว่าเราถูกสอนแบบดุ ๆ กลายเป็นเราโดนดุโดยที่เรายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยอะ
ตอนนี้ได้แต่ท่องไว้ว่า รีบเรียนจบ หางานทำ แล้วจะได้ใช้ชีวิตของตัวเองแบบที่แม่มาควบคุมไม่ได้สักที อดทนก่อนนะ เดี๋ยวก็มีความสุขแล้ว
ความอึดอัดในใจ ของลูกที่ไม่เคยดีพอสำหรับแม่
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่มีประโยชน์เลย เป็นภาระ สร้างปัญหาให้คุณแม่อีกแล้ว ขอโทษไปแล้วนะ แต่เขายังโกรธอยู่ เราเลยเลือกที่จะเดินออกมาให้เขาอยู่คนเดียวก่อน ตอนนี้เขาคงยังไม่อยากเห็นหน้าเรา เรารู้สึกว่าในหลาย ๆ ครั้ง เหมือนเราเป็นคนโง่ในสายตาแม่เลย ทำอะไรผิดพลาดไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ คำขอโทษก็ไม่เคยช่วยอะไร เรามักจะโดนคำพูดตอบกลับมาว่าโง่ คิดได้ยังไง หรือในบางครั้งที่เราอยากพูดคุยเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้แม่ฟัง แต่เผลอพูดเยอะไปจนแม่ไม่ได้อยากฟังเราขนาดนั้น แม่ก็มักจะตอบกลับมาว่า พูดจบรึยังแม่ไม่ได้อยากฟังนะ
ตอนนี้เราอยู่กับแม่แค่ 2 คน คุณพ่อที่เราสนิทด้วยมากที่สุดในบ้านเขาไม่อยู่กับเราแล้ว ตั้งแต่คุณพ่อไม่ได้อยู่บนโลกในนี้อีกแล้ว ในตอนแรกคุณแม่จะมีนิสัยที่ชอบยึดติดกับเราประมาณนึง ตอนเราเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยแรก ๆ เราจึงเลือกที่จะไปเรียนไกลบ้าน เพราะเราอึดอัดกับเขา เราไม่อยากอยู่ใกล้กับเขา รู้สึกเหมือนอยู่ห่างกันแล้วจะได้ใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องร้องไห้บ่อย ๆ มากกว่า ขนาดไปอยู่ไกลจากบ้าน ไม่ค่อยได้คุยกันนะ ยังทะเลาะกันได้ด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แม่เขาชอบโมโห เหวี่ยงเราด้วยเรื่องเล็กน้อย และเขาชอบอ้างว่าเขาเป็นประจำเดือน
เวลาเราจะทำอะไร เราจะขอหรือแจ้งแม่ทุกครั้ง เพื่อให้เขารับรู้เรื่องนั้น ๆ กับเราไปด้วย แแล้วบางครั้งเขาก็ไม่อยากให้ทำ เช่น การไปดูคอนเสิร์ตศิลปิน การไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน เราก็ถามไปนะว่าทำไมถึงไม่อยากให้ไปดู เขาก็บอกมาว่าตอนเขาใช้ชีวิตเป็นวัยรุ่นเขายังไม่อยากทำ ไม่เห็นจำเป็นต้องไป เขาก็ยังใช้ชีวิตเติบโตมาได้จนทำงานแบบนี้เลย ?? ตอนนั้นเราตอบไปอยู่นะ เป็นคำพูดที่แรงที่สุดที่เราเคยตอบไปแล้วแหละว่า แต่เราไม่ได้อยากใช้ชีวิตเป็นแม่นะ เราอยากใช้ชีวิตวัยรุ่นในแบบของเรา แล้วช่วงเวลาวัยรุ่นมันก็มีแค่ครั้งเดียว ความสุขของเราที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนอะไร ทำไมถึงต้องมาห้ามแค่เพราะแม่เขาไม่ได้ชอบ ไม่ได้อยากทำด้วย แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายก็จบลงที่การทะเลาะกันอยู่ดี
หลาย ๆ เหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาระหว่างคุณแม่และเรา ทำให้ในความรู้สึกของเรา เกิดความเกลียดและไม่ชอบแม่ตัวเองอยู่บ่อยครั้ง แต่เราไม่ได้อยากให้เขาเจออะไรไม่ดีหรือไม่มีความสุขนะ เราก็ยังอยากให้เขามีชีวิตที่ดี มีความสุขในแบบของเขา แต่เราแค่ไม่อยากให้เขามายุ่งกับเรามาก ความเกลียดของเราที่มีต่อแม่ ทำให้เราไม่ชอบที่จะอยู่ใกล้เขา ภาพในอนาคตของเรา ชีวิตที่วางไว้เราก็คงจะหาทางไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง เราไม่เคยมีความสุขได้เต็มหัวใจเลยเวลาที่ต้องอยู่บ้านที่รู้ว่ามีแม่อยู่ใกล้ ๆ
แม่เขารู้นะว่าสบายใจและสนิทกับพ่อมากกว่า เขาเคยพูดกับเราครั้งนึงว่า เขาก็น้อยใจนะที่ในบางครั้งเราเหมือนไม่ค่อยสนิทกับเขา เหมือนเราไม่รักเขาเลย แต่แล้วจะให้เราทำยังไง พอเราพยายามจะคุยด้วยบ่อย ๆ ก็กลายเป็นต้องมาทะเลาะกัน หลาย ๆ ครั้งมันเป็นการทะเลาะด้วยเรื่องเล็กน้อยจริง ๆ นะ แต่มันจะชอบลามไปด้วยการดุด่าว่าเราด้วยประโยคแรง ๆ เช่น สมอง (ใส่อารมณ์) คิดหน่อย โง่รึเปล่า เราเคยถามเขาไปนะว่า แล้วมันจำเป็นต้องทะเลาะกันด้วยหรอเรื่องนี้ แม่เป็นอะไร หนูแค่อยากคุยกับแม่นาน ๆ ทีเท่านั้น ทำไมถึงต้องหาเรื่องมาทะเลาะด้วย ไม่เหนื่อยหรอ เขาก็เงียบไปนะ แล้วเราก็ไม่ได้คุยกันหลายวันเลย ปกติเราจะเป็นคนทักไปคุยก่อน แต่ครั้งนั้นเราเหนื่อยที่จะเป็นคนเข้าหาก่อนแล้วมั้ง ก็เลยไม่ได้คุยกันหลายสัปดาห์ จนในที่สุดแม่ก็ทักมาคุยด้วย แต่เป็นการส่งรูปหมาที่บ้านมาให้ แม่แทบจะไม่เคยขอโทษเราก่อนเลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทิฐิถึงได้สูงขนาดนี้ เราเคยปรึกษากับน้องที่เป็นญาติของเรา เขาเคยบอกนะว่าบางทีก็ไม่ต้องไปคาดหวังอะไรในตัวแม่แล้วแหละ หมายถึงไม่ต้องไปคาดหวังว่าเขาจะเข้าใจหรือเขาจะมาขอโทษเราเวลาเขาทำผิด
จริง ๆ ช่วงที่คุณพ่อเพิ่งเสียไป แม่เขาเป็นห่วงเรามากอยู่นะ เพราะเราสนิทกับพ่อมาก เรียกได้ว่าพ่อเป็นทุกอย่างของเรา เป็นโลกทั้งใบของเรา การสูญเสียครั้งนั้นเป็นสิ่งที่สะเทือนใจสำหรับเรามาก ๆ แม่เขาเลยจะคอยถาม คอยบอกเราบ่อย ๆ ว่า ถ้ามีอะไรไม่สบายใจให้บอก ให้เล่าให้เขาฟังได้นะ แต่พอเราอยากเล่าบางอย่างอะ แค่เรื่องที่เราเจอมาตอนเรียนอยากมาปรึกษา แม่ยังตอบกลับมาเลยว่า พูดจบรึยัง ก็ไม่มีอะไรแล้วรึเปล่า จะเล่าทำไม มันทำให้เรายิ่งรู้สึกว่าไม่ควรเล่าอะไรให้แม่ฟังอีกเลย แต่เขาก็จะชอบมาบ่นอีกว่าทำไมไม่เล่าอะไรให้เขาฟังบ้างเลย ตามอารมณ์เขาไม่ทันเลยอะ วัยทองรึเปล่านะ
เหนื่อยจัง เหนื่อยกับความรู้สึกที่มีอยู่ ถ้าเราไม่ได้เกิดมาเป็นลูกของแม่ ถ้าแม่ไม่ได้เป็นแม่ของเรา ถ้าแม่ไม่ได้มีลูกอย่างเรามันคงจะดีกว่านี้จริง ๆ สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกมาตลอดระหว่างเรากับแม่ คือ เรากับแม่เข้ากันไม่เคยได้เลย เหมือนความคิดมันไม่ตรงกัน ไม่ทันกันอะ บางครั้งแม่ชอบมีคำถามมาทดสอบความคิด ทดสอบการแก้ปัญหาของเรา ซึ่งเราไม่ชอบเลย เพราะถ้าเราตอบอะไรไม่ตรงใจเขาขึ้นมาจะกลายเป็นว่าเราถูกสอนแบบดุ ๆ กลายเป็นเราโดนดุโดยที่เรายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยอะ
ตอนนี้ได้แต่ท่องไว้ว่า รีบเรียนจบ หางานทำ แล้วจะได้ใช้ชีวิตของตัวเองแบบที่แม่มาควบคุมไม่ได้สักที อดทนก่อนนะ เดี๋ยวก็มีความสุขแล้ว