smart contact คืออะไร มาทำความรู้จักกับ smart contact กันคับ
Smart Contract หรือ
สัญญาอัจฉริยะ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกรันบน
บล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งทำหน้าที่เหมือนสัญญาที่เขียนไว้ในโค้ด และสามารถดำเนินการอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยไม่ต้องมีคนกลาง
ตัวอย่างง่าย ๆ:
สมมุติว่าเราจะให้เพื่อนยืมเงิน 1,000 บาท และเขาสัญญาจะคืนภายใน 30 วัน ถ้าเขาคืนตรงเวลา เราจะไม่คิดดอกเบี้ย แต่ถ้าช้า จะมีค่าปรับ 100 บาท
ในโลกของ Smart Contract:
เราเขียนโค้ดไว้ว่า ถ้าเพื่อนโอนเงินคืนภายใน 30 วัน → จบ
ถ้าเกิน 30 วัน → เพิ่มค่าปรับ
ทุกอย่างเกิดขึ้น
อัตโนมัติบนบล็อกเชน ไม่ต้องมีทนายหรือคนกลาง
จุดเด่นของ Smart Contract:
✅
อัตโนมัติ – ทำงานเองเมื่อเงื่อนไขครบ
✅
โปร่งใส – โค้ดและเงื่อนไขถูกเขียนไว้ชัดเจนบนบล็อกเชน
✅
เชื่อถือได้ – ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนเงื่อนไขหลังจาก deploy แล้ว
✅
ลดค่าใช้จ่าย – ไม่ต้องมีคนกลางมาคอยดำเนินการ
ใช้กับอะไรได้บ้าง?
DeFi (เช่นการกู้ยืม/แลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลแบบไร้คนกลาง)
NFT (ซื้อ-ขายและยืนยันความเป็นเจ้าของ)
เกมบนบล็อกเชน (ระบบไอเทม, ระบบรางวัล)
DAO (ระบบการลงคะแนนเสียงของชุมชน)
Logistics หรือการติดตามสินค้า
Smart contact ทำงานยังไง
การทำงานของ
Smart Contract (สมาร์ทคอนแทรกต์) นั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่เบื้องหลังมีความซับซ้อนเล็กน้อย เดี๋ยวอธิบายง่ายๆ ให้เห็นภาพนะ:
🧠 สรุปหลักการทำงานของ Smart Contract
เขียนโค้ด: นักพัฒนาเขียน Smart Contract ด้วยภาษาโปรแกรม เช่น
Solidity (ถ้าใช้ Ethereum)
Deploy (ติดตั้ง): โค้ดนั้นจะถูกอัปโหลดขึ้นบล็อกเชน เช่น Ethereum ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า
deploy ซึ่งต้องเสียค่าแก๊ส (gas fee) ด้วย
รอการเรียกใช้งาน (Trigger): Smart Contract จะรอให้มีคน (หรือโปรแกรมอื่น) เรียกใช้งานมัน เช่น:
ส่งเหรียญ (token)
เรียกฟังก์ชันบางอย่างในสัญญา
กดปุ่มบน dApp (แอปแบบกระจายศูนย์)
ตรวจสอบเงื่อนไข: สมาร์ทคอนแทรกต์จะตรวจสอบว่าเงื่อนไขตรงตามที่กำหนดไหม เช่น:
มีคนส่งเงินเข้ามา?
ส่งมาถูกบัญชีหรือไม่?
ถึงเวลาปล่อยของหรือยัง?
ดำเนินการโดยอัตโนมัติ: ถ้าเงื่อนไขผ่าน → Smart Contract จะดำเนินการทันที เช่น:
โอนเงินต่อไปยังอีกบัญชี
สร้าง NFT ให้ผู้ใช้
อัปเดตสถานะบนระบบ
🔄 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงย้อนหลัง
เมื่อ Smart Contract ถูก deploy ขึ้นบล็อกเชนแล้ว
ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโค้ดได้อีก นั่นหมายความว่า:
ระบบเชื่อถือได้
โปร่งใส
แก้ไขยาก (ถ้าเขียนผิด)
🧩 ตัวอย่างสถานการณ์จริง
✅ ตัวอย่างง่ายๆ: ซื้อ NFT
ผู้ใช้กดซื้อ NFT บนเว็บไซต์
เว็บจะส่งคำสั่งไปเรียก Smart Contract บน Ethereum
Smart Contract เช็คว่า “มีการส่ง ETH มาครบหรือยัง?”
ถ้าครบ → สร้าง NFT และส่งไปให้ผู้ซื้อ
📦 อธิบายแบบอุปมา:
คิดว่า Smart Contract เหมือน “
ตู้หยอดเหรียญ”:
ใส่เหรียญ → ถ้าครบตามราคาสินค้า → เครื่องจะปล่อยของให้
ถ้าเหรียญไม่พอ หรือไม่ถูกต้อง → เครื่องไม่ทำงาน
แต่ต่างกันตรงที่ตู้หยอดเหรียญแบบ Smart Contract นั้น
อยู่ในโลกดิจิทัล และ
เชื่อมต่อกับระบบทั่วโลกได้
smart contact คืออะไร มาทำความรู้จักกับ smart contact กันคับ
Smart Contract หรือ สัญญาอัจฉริยะ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกรันบน บล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งทำหน้าที่เหมือนสัญญาที่เขียนไว้ในโค้ด และสามารถดำเนินการอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยไม่ต้องมีคนกลาง
ตัวอย่างง่าย ๆ:
สมมุติว่าเราจะให้เพื่อนยืมเงิน 1,000 บาท และเขาสัญญาจะคืนภายใน 30 วัน ถ้าเขาคืนตรงเวลา เราจะไม่คิดดอกเบี้ย แต่ถ้าช้า จะมีค่าปรับ 100 บาท
ในโลกของ Smart Contract:
เราเขียนโค้ดไว้ว่า ถ้าเพื่อนโอนเงินคืนภายใน 30 วัน → จบ
ถ้าเกิน 30 วัน → เพิ่มค่าปรับ
ทุกอย่างเกิดขึ้น อัตโนมัติบนบล็อกเชน ไม่ต้องมีทนายหรือคนกลาง
จุดเด่นของ Smart Contract:
✅ อัตโนมัติ – ทำงานเองเมื่อเงื่อนไขครบ
✅ โปร่งใส – โค้ดและเงื่อนไขถูกเขียนไว้ชัดเจนบนบล็อกเชน
✅ เชื่อถือได้ – ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนเงื่อนไขหลังจาก deploy แล้ว
✅ ลดค่าใช้จ่าย – ไม่ต้องมีคนกลางมาคอยดำเนินการ
ใช้กับอะไรได้บ้าง?
DeFi (เช่นการกู้ยืม/แลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลแบบไร้คนกลาง)
NFT (ซื้อ-ขายและยืนยันความเป็นเจ้าของ)
เกมบนบล็อกเชน (ระบบไอเทม, ระบบรางวัล)
DAO (ระบบการลงคะแนนเสียงของชุมชน)
Logistics หรือการติดตามสินค้า
การทำงานของ Smart Contract (สมาร์ทคอนแทรกต์) นั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่เบื้องหลังมีความซับซ้อนเล็กน้อย เดี๋ยวอธิบายง่ายๆ ให้เห็นภาพนะ:
🧠 สรุปหลักการทำงานของ Smart Contract
เขียนโค้ด: นักพัฒนาเขียน Smart Contract ด้วยภาษาโปรแกรม เช่น Solidity (ถ้าใช้ Ethereum)
Deploy (ติดตั้ง): โค้ดนั้นจะถูกอัปโหลดขึ้นบล็อกเชน เช่น Ethereum ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า deploy ซึ่งต้องเสียค่าแก๊ส (gas fee) ด้วย
รอการเรียกใช้งาน (Trigger): Smart Contract จะรอให้มีคน (หรือโปรแกรมอื่น) เรียกใช้งานมัน เช่น:
ส่งเหรียญ (token)
เรียกฟังก์ชันบางอย่างในสัญญา
กดปุ่มบน dApp (แอปแบบกระจายศูนย์)
ตรวจสอบเงื่อนไข: สมาร์ทคอนแทรกต์จะตรวจสอบว่าเงื่อนไขตรงตามที่กำหนดไหม เช่น:
มีคนส่งเงินเข้ามา?
ส่งมาถูกบัญชีหรือไม่?
ถึงเวลาปล่อยของหรือยัง?
ดำเนินการโดยอัตโนมัติ: ถ้าเงื่อนไขผ่าน → Smart Contract จะดำเนินการทันที เช่น:
โอนเงินต่อไปยังอีกบัญชี
สร้าง NFT ให้ผู้ใช้
อัปเดตสถานะบนระบบ
🔄 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงย้อนหลัง
เมื่อ Smart Contract ถูก deploy ขึ้นบล็อกเชนแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโค้ดได้อีก นั่นหมายความว่า:
ระบบเชื่อถือได้
โปร่งใส
แก้ไขยาก (ถ้าเขียนผิด)
🧩 ตัวอย่างสถานการณ์จริง
✅ ตัวอย่างง่ายๆ: ซื้อ NFT
ผู้ใช้กดซื้อ NFT บนเว็บไซต์
เว็บจะส่งคำสั่งไปเรียก Smart Contract บน Ethereum
Smart Contract เช็คว่า “มีการส่ง ETH มาครบหรือยัง?”
ถ้าครบ → สร้าง NFT และส่งไปให้ผู้ซื้อ
📦 อธิบายแบบอุปมา:
คิดว่า Smart Contract เหมือน “ตู้หยอดเหรียญ”:
ใส่เหรียญ → ถ้าครบตามราคาสินค้า → เครื่องจะปล่อยของให้
ถ้าเหรียญไม่พอ หรือไม่ถูกต้อง → เครื่องไม่ทำงาน
แต่ต่างกันตรงที่ตู้หยอดเหรียญแบบ Smart Contract นั้น อยู่ในโลกดิจิทัล และ เชื่อมต่อกับระบบทั่วโลกได้