มาลัยรักสลักเสลาเนาอักษรอุทุมพรเอนกนันต์ด้วยฝันหวานจำนรรจ์พจน์บทกวีศรีตระการสุขะศานต์ตรึงติดสถิตทรวง"เริงร่าจินต์กลิ่นอุปโลกน์บนโลกนี้เฉกดนตรีสเสนอเสนาะเพราะแน่นหน่วงพราววิภาวิจิตรแจ้งทะแยงทะลวงแ

๐ เสพสมชมดาวเดือนสะเทือนฟ้า ทุกท่วงท่าลิ่วละล่องสองพิสิฐ พรมทุกครั้งชุ่มรังรองฟองผาณิต ไมตรีจิตพิศรื่นรมย์ใต้ร่มพลบ ....... ๐ สายใยแก้วระยางหว่างสวรรค์ ฉมสุคันธ์สยายรินประทินทบ กรับสังคีตกรีดร่างพางค

๏ มาลัยรักสลักเสลาเราแนบหมอน ในยามนอนมนัสนันท์ด้วยฝันหวาน มาลัยพจน์บทกวีมีวิญญาณ คือกังวานชีวิตสถิตทรวง ถ่ายทอดสุขทุกข์โศกในโลกนี้ เสียงดีดสีธารเสนาะเซาะผาหลวง เมฆกล่อมดาวพราววิภาแต้มฟ้าปวง ซึ้งแดดวง

ระเบงไประบำประจำบาทเสียงปี่พาทย์ขับขานชำนาญศิลป์อภิรมย์พรมมาศศาสตร์วาทินสมถวิลคะเนเสน่ห์เนือง"ระเบียบรางขั้นเถรท่านเจนปรับฉลองรับเคียงร้องประคองเรื่องกริ่งระวังระแวงแข่งศรีเมืองแย่งร้อยเฟื้องพันอ

ผอูนคม สมบูรณ์ จำรูญรักใคร่ทายทัก งามงอน สมรศรีพูดติดอ่าง คำซ้ำ ช้ำฤดีมโนใน ใจนี้ นี้ นี้ ทบทวน"ยุพินโปรด อย่าเคือง เรื่องบกพร่องถ้อยทำนอง ติดอ่าง บางคำผวนรักดำริ มิขาด พิศวาสนวลชื่นชูชวน ทำนุ สุ

ในกระท่อมร่างทับร่างมิสร่างฉม นมแนบนมแนบเนื้อเอื้อเถลิง แสงจ้าตรงเที่ยงนั้นตะวันเพลิง เร่งรักเริงสวาทราดกายา ............................. บัดเดี๋ยวจับเดี๋ยวจูบลูบไล้ผม ผลัดกันชมใครสังวาสสามารถกว่า

พรรณนาพาเพลินเกริ่นศุภสารเพลงกลอนกานท์เสนาะเสน่หาจำลองใจมาในอักขราสุขหรรษารักขวัญนิรันดร"สวาสดิ์สมรมณีย์ศรีสรรพรักซึมซับแดดวงทรวงสมรใคร่หมายโลมโฉมฉินอรชรจรัสอนุสรณ์เพลงกลอนกานท์""รัญจวน

....อารัมภบท.... ๑. ล่องลอยเอย... ชะลอเผย..ภาคลงสู่สงสาร สืบเยื่อใยผูกพันแห่งวันวาน ร่วมโอบกล่อมทรมาน..ให้ลาญรอย ๒. กระแสเสียงสังคีตประณีตเสนาะ ก็รินเซาะโสตแล้ว..เพียงแผ่วค่อย ก่อนจำหลักรูปนิมิต..ส