สอบถามการภาวนา

หลัง ๆ มา จิตให้ความสำคัญกับความไม่ประมาทมากขึ้น เพราะช่วงนึงที่หลงลืมสิกขาบทในชีวิตประจำวันไป(ขาดโยนิโสมนสิการด้วย) ทำให้กลับไปจมกับโลก และกิเลสก็โรมรันพันตูเป็นกองทัพ เข้ามาให้ผลเป็นวิบาก

พอ กลับมาตั้งใจภาวนา ก็กลายเป็นพยายามเพ่งมากเกินไป เปรียบเหมือน จิตนี้จะไม่ออกไปจากกายเลย(ในช่วงแรก) สติที่รู้สึกถึง กาย เวทนา จิต ธรรม จะรู้สึกเหมือน รับรู้อยู่ ณ ขณะตรงหน้า ไม่ส่งไปข้างหน้ากลายเป็นคิด ไม่หวนไปข้างหลังจนวิตก ในชีวิตประจำวัน เมื่อสมาทานอยู่อย่างนั้น ไม่มีขณะของการปฏิบัติ

แต่ทว่า หลังจากนั้น พอรู้สึกว่า ลองปล่อย การภาวนาดู ก็ยังมีสติเกิดบ้าง แต่ไม่บ่อยเหมือนตอนประคองไว้ พอสังเกตเห็นอาการที่หลงไป กลายเป็นการภาวนามีขณะ ติด ๆ ดับ ๆ ขึ้นมา แนวทางอันหลังนี้ ไม่เครียดต่อการใช้ชีวิต แต่หากปล่อยจนหลงเตลิดไปไกล ก็จะเกิดราคะ โทสะ โมหะ จนจมกับโลก มันรู้ว่าไม่ใช่ทาง แต่หากเพ่งจนเกินไปก็กลายเป็นการภาวนานี้จะไม่ให้มีกิเลสเกิดเลยเป็นไปไม่ได้

แต่ สมาธิที่ตั้งมั่น เห็นความเปลี่ยนแปลงของขันธ์ ตามความเป็นจริง จะต้องมีความเป็นสภาวะเดียวท่ามกลางการเห็นกิเลสหรือกุศล อกุศล ทั้งหมดรึป่าวครับ และปกติยิ่งมีฉันทะด้วยอานาปานสติ แค่สังเกตการฉวยลม และอาการต่าง ๆ หากการหายใจไม่เป็นไปตามปกติวิบาก แสดงว่า จะต้องได้เห็นกิเลสตัวใดก็ตัวนึง จึงภาวนาไปด้วยการมีกิเลสนี้เป็นนิมิตไปเลย สิ่งที่กังวลใจต่อการภาวนามีเพียง การไม่อยากหลง ไม่อยากขี้เกียจ จนจิตติดอาการจม แช่ ไปกับโลก เพราะเห็นโทษของมันมาแล้ว จนทำให้กลายเป็นคนไม่เอาไหนเลย หากเป็นไปได้ จะขอสมาทาน อานาปานสติ ให้ได้บ่อยที่สุด เพื่อความไม่ประมาท

ขอคำชี้แนะด้วยครับ ขอบพระคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่