ทาสสงสัย แมวดื้อขนาดนี้ เคย ‘รู้สึกผิด’ บ้างหรือเปล่า จัดการอย่างไรเมื่อเจ้านายกลายเป็นแมวตัวแสบ
เวลากลับบ้านมาเจอห้องเหมือนผ่านศึกสงคราม ทั้งแจกันแตก กล่องรองเท้าถูกทำลาย หรือของรักของหวงหล่นอยู่ในสภาพ ‘ไม่เหลือความทรงจำ’ แล้วเจ้านายของเราก็นั่งจ้องหน้านิ่ง เหมือนไม่ใช่ฝีมือตัวเอง ทาสอย่างพวกเราเคยสงสัยไหมว่า พวกแมวเคย ‘รู้สึกผิด’ กับวีรกรรมที่ก่อไว้บ้างไหม
.
แน่นอนว่าหลังจากค้นข้อมูลมาก็ต้องยอมรับแบบเสียงอ่อยๆ ว่า แมวไม่มีความรู้สึกผิดแบบมนุษย์เราหรอก ความรู้สึกผิดของมนุษย์คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการย้อนกลับไปนึกถึงอดีต แล้วรู้สึกอยากรับผิดชอบในสิ่งที่ไม่ควรทำลงไป เรียกว่ารู้สึกละอาย หรืออยากขอโทษ อยากชดใช้
.
แต่แมวไม่คิดย้อนไปขนาดนั้น เนื่องจากระบบความคิดของพวกมันทำงานในโหมด ‘ปัจจุบัน’ เท่านั้น เช่น ถ้าเห็นจิ้งจกอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งจะคิดแค่ว่า “ฉันต้องจับให้ได้” ไม่ได้คิดเลยว่า “โต๊ะนี้มีขวดน้ำหอมแพงๆ อยู่ไหมนะ” หรือ “เจ้าของจะโกรธหรือเปล่า” เพราะพวกมันใช้สัญชาตญาณล้วนๆ ถ้าทำอะไรพังก็ไม่ได้รู้ตัวหรอกว่าเราจะโมโห เซ็ง หรือเสียใจมากขนาดไหน
.
แล้วพอเราดุแมวหนักๆ หรือแสดงอาการไม่พอใจ มันจะไม่คิดว่า “โอเค ฉันทำผิด ฉันขอโทษ” หรอกนะ แต่จะ ‘รับรู้อารมณ์’ ของเราได้ว่า ตอนนี้เราอารมณ์ไม่ดี และนั่นก็ทำให้พวกแมวตัดสินใจหายไปจากสายตาเราทันที เข้าไปแอบอยู่มุมใดมุมหนึ่งในบ้าน หลบๆ ซ่อนๆ เงียบๆ แต่ไม่ใช่เพราะรู้สึกผิด แต่เพราะกำลังกังวล และไม่แน่ใจว่าตอนนี้เรายังเป็นมิตรกับพวกมันอยู่หรือไม่
.
และถ้าแมวของคุณชอบจ้องคุณแบบไม่วางตาหลังจากทำเรื่องไว้ อย่าเพิ่งตีความว่าเจ้าพวกก้อนนี่กำลังท้าทายแบบ “ฉันทำแล้วจะทำไม” แต่จริงๆ แล้วมันกำลังประเมินสถานการณ์อยู่ อยากรู้ว่า ‘เจ้าของจะกลับมาอารมณ์ดีเมื่อไหร่’ ‘เดินเข้าไปแล้วโดนดุอีกไหม’ แล้วเมื่อรู้สึกว่าอากาศเริ่มปลอดโปร่งก็จะค่อยๆ โผล่มาใกล้ๆ ส่งเสียงครางเบาๆ ถูไถขา หรือกะพริบตาช้าๆ ใส่เรา เป็นภาษากายที่บอกว่า “ฉันอยากคืนดีกับเธอนะ” แม้ว่าแมวอาจไม่เข้าใจความรู้สึกสำนึกผิด แต่อย่างน้อยพวกมันก็รู้จัก ‘วิธีซ่อมแซมความสัมพันธ์’
.
อย่างไรก็ตาม ถ้าเราอยากให้แมวเข้าใจว่าบางพฤติกรรมไม่เหมาะสม ก็ต้องจับให้ได้คาหนังคาเขาเท่านั้น ถึงจะเตือนแล้วเห็นผล ดุกันหลังเกิดเหตุไปแล้วไม่มีประโยชน์ เพราะพวกมันจะงงว่าเราดุเรื่องอะไร แล้วเป็นเราเองที่จะเครียดเองเปล่าๆ
.
วิธีเตือนที่ได้ผลคือให้พูดเสียงเด็ดขาดตอนเกิดเหตุ เช่น “ไม่ได้นะ” หรือใช้น้ำพ่นเบาๆ ก็ได้ ถ้าไม่หยุดค่อยอุ้มไปไว้ในห้องอื่นประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้เขาเรียนรู้ว่า “ทำแบบนี้ = ไม่ได้อยู่ด้วย” และถ้ายังไม่เข้าใจอีก วิธีเงียบใส่คือบทลงโทษที่แมวหลายตัวรับไม่ได้ เพราะถึงภายนอกจะดูไม่แคร์อะไร แต่แมวส่วนใหญ่แพ้ความเมินเฉยของทาสหนักมาก
.
ที่สำคัญคือ ไม่ควรลงโทษด้วยความรุนแรง ไม่ตวาด ไม่ตี ไม่ผลักไสแรงๆ เพราะมันจะทำให้แมวรู้สึกไม่ปลอดภัย และเลิกไว้ใจเรา ซึ่งซ่อมยากกว่าการฝึกพฤติกรรมอีกหลายเท่า อย่าลืมว่าเวลาพวกเจ้านายทำตัวน่ารัก ใช้กระบะทรายถูกที่ ไม่ปีนโต๊ะ หรือเล็มต้นไม้ปลอมของเราอย่างสุภาพ ก็ควรให้รางวัลด้วย ไม่ว่าจะเป็นขนมคำเล็กๆ หรือเกาคางเบาๆ เพราะแมวเรียนรู้ผ่านความรู้สึกเชิงบวกได้ดีมากกว่าการถูกลงโทษ
.
แม้แมวจะไม่มีฟังก์ชัน ‘รู้สึกผิด’ แบบที่มนุษย์มี แต่พวกมันก็มีความสัมพันธ์กับเราจริงๆ แค่แสดงออกด้วยภาษาคนละแบบ เวลาทำผิดแล้วไม่ขอโทษ ก็ไม่ได้แปลว่าไม่แคร์เรา แต่เพราะพวกมันไม่เข้าใจว่ามนุษย์รู้สึกยังไงต่างหาก ถ้าเรายอมเรียนรู้ธรรมชาติของพวกมันให้มากพอ ทุกอย่างจะง่ายขึ้นเยอะ
.
เพราะเมื่อเจ้านายสบายใจ เราก็สบายใจ และสุดท้าย ความสุขของเจ้านายก็คือความสุขของทาสแมวทุกคน จริงไหม?
ที่มา : BrandThink
ทาสสงสัย แมวดื้อขนาดนี้ เคย ‘รู้สึกผิด’ บ้างหรือเปล่า จัดการอย่างไรเมื่อเจ้านายกลายเป็นแมวตัวแสบ