เห็นรัฐบาลมีนโยบายด้านคมนาคมดีๆมากมายให้คนกรุงเทพฯ ทั้งขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าให้ทั่วเขตกรุงเทพและปริมณฑล แถมยังมีนโยบายให้คนกรุงเทพได้ใช้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกสาย ทำศูนย์กลางคมนาคมครบวงจรที่บางซื่อ ถือว่ารัฐบาลจัดเต็มนโยบายด้านคมนาคมให้คนกรุงเทพมากๆ
คนต่างจังหวัด คนภาคอื่นเมืองอื่นก็ได้แต่คิดกันว่า ภาครัฐได้แต่เอาใจคนกรุงเทพ เอาภาษีของคนต่างจังหวัดไปบำรุงอุดหนุนให้คนกรุงเทพได้รับแต่ความสะดวกสบาย ภาครัฐไม่ใส่คนต่างจังหวัดเท่าที่ควร
ถ้าภาครัฐเอาใจใส่คนกรุงเทพมาก ก็ควรเอาใจใส่คนต่างจังหวัดให้มากด้วย อย่าให้เขาคิดว่า เขาก็แค่คนห่างไกล เป็นได้แค่กลุ่มคนที่ภาครัฐค่อยไม่เอาใจใส่ รัฐไม่เอาเงินที่เขาจ่ายภาษีให้มาช่วยเหลือเขาอย่างที่ควรจะเป็น
การสร้างระบบคมนาคมที่ดีให้คนต่างจังหวัด ไม่จำเป็นต้องสร้างรถไฟฟ้าให้ก็ได้ และไม่จำเป็นต้องจัดรถบัสใหญ่ติดแอร์เย็นๆมาให้คนต่างจังหวัดนั่งเสมอไป
ความจริงการให้บริการนั้น จะเป็นรถอะไรก็ได้ที่พอนั่งได้และค่าโดยสารราคาไม่แพง ไม่ต้องถึงขนาดรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกสายแบบในกรุงเทพ แต่เป็นค่าโดยสารที่คนต่างจังหวัดรับได้ รถไม่ต้องหรูก็ได้ แต่สามารถส่งผู้โดยสารให้ถึงปลายทางได้อย่างสะดวกสบาย
คิดถึงรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า muvmi ที่เป็นกึ่งรถโดยสารส่วนตัว กึ่งรถโดยสารสาธารณะ คือ สามารถให้ได้ 2 แบบ จะบริการแบบ taxi ได้ เรียกรถมา ก็จ่ายค่าโดยสารเองคนเดียว หรือมีระบบแชร์ค่าโดยสารกับผู้ที่ร่วมเดินทางไปรถโดยสารคนคันเดียวกันได้ ให้คนที่นั่งรถไปด้วยกันช่วยจ่ายค่าโดยสารด้วยก็ได้
รถลักษณะแบบนี้ น่าเอามาให้บริการตามต่างจังหวัดที่มีกำลังการซื้อไม่มาก ช่วยส่งเสริมนโยบายด้านคมนาคมตามต่างจังหวัดมากๆ
จำแนกรถโดยสารที่นำมาให้บริการคนต่างจังหวัดตามความเหมาะสมของเขตพื้นที่ดังนี้
รถบัสติดแอร์ นั่งได้ 32-35 คน
รถมินิบัสติดแอร์ นั่งได้ 22-26 คน
รถสองแถวคันใหญ่ไม่ติดแอร์ นั่งได้ 18-20 คน
รถสองแถวคันเล็กไม่ติดแอร์ นั่งได้ 10-12 คน
รถสามล้อไฟฟ้าสองแถว นั่งได้ 6-8 คน
รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง นั่งได้ 3-4
คน
รถบัสใหญ่เอาไว้วิ่งถนนที่มีผู้โดยสารใช้บริการมากและวิ่งระยะทางไกล 50-80 กิโล
รถมินิบัสเอาไว้วิ่งถนนที่มีจำนวนผู้โดยสารปานกลาง วิ่งระยะทางไกล 50-80 กิโล
รถสองแถวคันใหญ่ไม่ติดแอร์เอาไว้วิ่งถนนที่มีจำนวนผู้โดยสารปานกลาง วิ่งระยะทางไกล 40-70 กิโลแต่ผู้โดยสารกำลังซื้อต่ำ ไม่สามารถจ่ายค่าโดยสารแพงได้
รถสองแถวคันเล็กไม่ติดแอร์ เอาไว้วิ่งถนนที่มีจำนวนผู้โดยสารน้อย วิ่งระยะทางไกล 40-50 กิโล ผู้โดยสารกำลังซื้อต่ำ ไม่สามารถจ่ายค่าโดยสารแพงได้
รถสามล้อไฟฟ้าสองแถวเอาไว้วิ่งถนนที่ผู้โดยสารน้อยมาก วิ่งระยะทางประมาณ 25-40 กิโล ผู้โดยสารมีกำลังซื้อต่ำ ค่าโดยสารราคาถูก
รถมอเตอร์ไซค์+พ่วงข้าง ค่าโดยสารถูกๆ เอาไว้วิ่งตามตรอกซอกซอย ถนนเล็กๆในหมู่บ้าน ระยะทางวิ่งก็ประมาณ 10-20 กิโล
ระยะเวลาปล่อยรถโดยสารออกจากท่า ก็ประมาณ 20-30 นาทีต่อรอบ หรือถ้าได้ 15 นาทียิ่งดี ผู้โดยสารไม่ต้องรอนาน รถก็วิ่งสู่จุดหมายปลายทางของผู้โดยสาร
วางแผนบริหารจัดการเอาว่า ถ้าจะปล่อยรถให้ถี่ ควรใช้รถประเภทไหนที่เหมาะสมกับต้นทุนพลังงาน
สมมติว่า มีถนนเส้นนึง ให้เลือกได้ระหว่างรถสองแถวคันใหญ่ให้บริการทุก 30 นาทีกับรถสองแถวคันเล็กให้บริการทุก 15 นาที อย่างนี้ต้องดูว่า ให้บริการแบบไหนจึงมีความเหมาะสมกับถนนเส้นนั้น อย่างไหนที่ตอบโจทย์ผู้โดยสารพื้นที่นั้นมากกว่ากัน
ภาครัฐน่าจะทำประชาพิจารณ์ว่า พื้นที่ไหนของประเทศที่ต้องการรถโดยสารสาธารณะมาก พื้นที่ไหนที่มีคนลงชื่อเรียกร้องรถสาธารณะกันมากที่สุด ก็จัดสรรให้พื้นที่นั้นก่อน แล้วพื้นที่นั้นต้องการรถโดยสารประเภทไหนดี รถบัส หรือรถสองแถวดี หรือรถสามล้อสองแถว รถประเภทไหนจึงจะเหมาะสมกับพื้นที่นั้น ถนนเส้นนั้น สามารถบริหารต้นทุนได้ดี รัฐก็จัดประเภทรถที่คนพื้นที่นั้นต้องการไป ไม่จำเป็นต้องเป็นรถไฟฟ้า bts,mrt แต่ขอให้เป็นรถที่เหมาะสมกับต้นทุนพลังงาน จำนวนผู้โดยสาร และกำลังการซื้อของคนในพื้นที่นั้น ได้ตามนี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว
รถทุกประเภทที่ให้บริการตามต่างจังหวัด เน้นให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อต้นทุนค่าโดยสารที่ถูกลง ถ้ามีระบบ gps ติดตามรถด้วยยิ่งดี ให้รู้ว่ารถที่เราจะนั่งโดยสาร มาถึงไหนแล้ว ใกล้ถึงเราแล้วยัง จะช่วยให้รถโดยสารน่าใช้บริการมากๆ
ภาครัฐวางแผนทำระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพอย่างดีเยี่ยม ทั้งขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าทั่วกรุง ค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายทุกสาย ก็ควรจะมาทำคมนาคมตามต่างจังหวัดให้ดีด้วย ให้ดูเป็นธรรมต่อคนจังหวัดที่ไม่ได้อาศัยอยู่ใน
กรุงเทพด้วย
รัฐทำขนส่งมวลชนให้คนกรุงเทพฯดีมากแล้ว ทั้งสร้างรถไฟฟ้าทั่วกรุงและค่าโดยสาร 20 บาท อย่าลืมทำให้คนต่างจังหวัดด้วยล่ะ
คนต่างจังหวัด คนภาคอื่นเมืองอื่นก็ได้แต่คิดกันว่า ภาครัฐได้แต่เอาใจคนกรุงเทพ เอาภาษีของคนต่างจังหวัดไปบำรุงอุดหนุนให้คนกรุงเทพได้รับแต่ความสะดวกสบาย ภาครัฐไม่ใส่คนต่างจังหวัดเท่าที่ควร
ถ้าภาครัฐเอาใจใส่คนกรุงเทพมาก ก็ควรเอาใจใส่คนต่างจังหวัดให้มากด้วย อย่าให้เขาคิดว่า เขาก็แค่คนห่างไกล เป็นได้แค่กลุ่มคนที่ภาครัฐค่อยไม่เอาใจใส่ รัฐไม่เอาเงินที่เขาจ่ายภาษีให้มาช่วยเหลือเขาอย่างที่ควรจะเป็น
การสร้างระบบคมนาคมที่ดีให้คนต่างจังหวัด ไม่จำเป็นต้องสร้างรถไฟฟ้าให้ก็ได้ และไม่จำเป็นต้องจัดรถบัสใหญ่ติดแอร์เย็นๆมาให้คนต่างจังหวัดนั่งเสมอไป
ความจริงการให้บริการนั้น จะเป็นรถอะไรก็ได้ที่พอนั่งได้และค่าโดยสารราคาไม่แพง ไม่ต้องถึงขนาดรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกสายแบบในกรุงเทพ แต่เป็นค่าโดยสารที่คนต่างจังหวัดรับได้ รถไม่ต้องหรูก็ได้ แต่สามารถส่งผู้โดยสารให้ถึงปลายทางได้อย่างสะดวกสบาย
คิดถึงรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า muvmi ที่เป็นกึ่งรถโดยสารส่วนตัว กึ่งรถโดยสารสาธารณะ คือ สามารถให้ได้ 2 แบบ จะบริการแบบ taxi ได้ เรียกรถมา ก็จ่ายค่าโดยสารเองคนเดียว หรือมีระบบแชร์ค่าโดยสารกับผู้ที่ร่วมเดินทางไปรถโดยสารคนคันเดียวกันได้ ให้คนที่นั่งรถไปด้วยกันช่วยจ่ายค่าโดยสารด้วยก็ได้
รถลักษณะแบบนี้ น่าเอามาให้บริการตามต่างจังหวัดที่มีกำลังการซื้อไม่มาก ช่วยส่งเสริมนโยบายด้านคมนาคมตามต่างจังหวัดมากๆ
จำแนกรถโดยสารที่นำมาให้บริการคนต่างจังหวัดตามความเหมาะสมของเขตพื้นที่ดังนี้
รถบัสติดแอร์ นั่งได้ 32-35 คน
รถมินิบัสติดแอร์ นั่งได้ 22-26 คน
รถสองแถวคันใหญ่ไม่ติดแอร์ นั่งได้ 18-20 คน
รถสองแถวคันเล็กไม่ติดแอร์ นั่งได้ 10-12 คน
รถสามล้อไฟฟ้าสองแถว นั่งได้ 6-8 คน
รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง นั่งได้ 3-4 คน
รถบัสใหญ่เอาไว้วิ่งถนนที่มีผู้โดยสารใช้บริการมากและวิ่งระยะทางไกล 50-80 กิโล
รถมินิบัสเอาไว้วิ่งถนนที่มีจำนวนผู้โดยสารปานกลาง วิ่งระยะทางไกล 50-80 กิโล
รถสองแถวคันใหญ่ไม่ติดแอร์เอาไว้วิ่งถนนที่มีจำนวนผู้โดยสารปานกลาง วิ่งระยะทางไกล 40-70 กิโลแต่ผู้โดยสารกำลังซื้อต่ำ ไม่สามารถจ่ายค่าโดยสารแพงได้
รถสองแถวคันเล็กไม่ติดแอร์ เอาไว้วิ่งถนนที่มีจำนวนผู้โดยสารน้อย วิ่งระยะทางไกล 40-50 กิโล ผู้โดยสารกำลังซื้อต่ำ ไม่สามารถจ่ายค่าโดยสารแพงได้
รถสามล้อไฟฟ้าสองแถวเอาไว้วิ่งถนนที่ผู้โดยสารน้อยมาก วิ่งระยะทางประมาณ 25-40 กิโล ผู้โดยสารมีกำลังซื้อต่ำ ค่าโดยสารราคาถูก
รถมอเตอร์ไซค์+พ่วงข้าง ค่าโดยสารถูกๆ เอาไว้วิ่งตามตรอกซอกซอย ถนนเล็กๆในหมู่บ้าน ระยะทางวิ่งก็ประมาณ 10-20 กิโล
ระยะเวลาปล่อยรถโดยสารออกจากท่า ก็ประมาณ 20-30 นาทีต่อรอบ หรือถ้าได้ 15 นาทียิ่งดี ผู้โดยสารไม่ต้องรอนาน รถก็วิ่งสู่จุดหมายปลายทางของผู้โดยสาร
วางแผนบริหารจัดการเอาว่า ถ้าจะปล่อยรถให้ถี่ ควรใช้รถประเภทไหนที่เหมาะสมกับต้นทุนพลังงาน
สมมติว่า มีถนนเส้นนึง ให้เลือกได้ระหว่างรถสองแถวคันใหญ่ให้บริการทุก 30 นาทีกับรถสองแถวคันเล็กให้บริการทุก 15 นาที อย่างนี้ต้องดูว่า ให้บริการแบบไหนจึงมีความเหมาะสมกับถนนเส้นนั้น อย่างไหนที่ตอบโจทย์ผู้โดยสารพื้นที่นั้นมากกว่ากัน
ภาครัฐน่าจะทำประชาพิจารณ์ว่า พื้นที่ไหนของประเทศที่ต้องการรถโดยสารสาธารณะมาก พื้นที่ไหนที่มีคนลงชื่อเรียกร้องรถสาธารณะกันมากที่สุด ก็จัดสรรให้พื้นที่นั้นก่อน แล้วพื้นที่นั้นต้องการรถโดยสารประเภทไหนดี รถบัส หรือรถสองแถวดี หรือรถสามล้อสองแถว รถประเภทไหนจึงจะเหมาะสมกับพื้นที่นั้น ถนนเส้นนั้น สามารถบริหารต้นทุนได้ดี รัฐก็จัดประเภทรถที่คนพื้นที่นั้นต้องการไป ไม่จำเป็นต้องเป็นรถไฟฟ้า bts,mrt แต่ขอให้เป็นรถที่เหมาะสมกับต้นทุนพลังงาน จำนวนผู้โดยสาร และกำลังการซื้อของคนในพื้นที่นั้น ได้ตามนี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว
รถทุกประเภทที่ให้บริการตามต่างจังหวัด เน้นให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อต้นทุนค่าโดยสารที่ถูกลง ถ้ามีระบบ gps ติดตามรถด้วยยิ่งดี ให้รู้ว่ารถที่เราจะนั่งโดยสาร มาถึงไหนแล้ว ใกล้ถึงเราแล้วยัง จะช่วยให้รถโดยสารน่าใช้บริการมากๆ
ภาครัฐวางแผนทำระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพอย่างดีเยี่ยม ทั้งขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าทั่วกรุง ค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายทุกสาย ก็ควรจะมาทำคมนาคมตามต่างจังหวัดให้ดีด้วย ให้ดูเป็นธรรมต่อคนจังหวัดที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพด้วย