อย่างที่เรารู้กันว่า "โดราเอม่อน" เป็นหุ่นยนต์แมวพี่เลี้ยงเด็ก ที่นั่งไทม์แมชชีนมาจากศตวรรษที่ 22 เพื่อมาช่วยเหลือ "โนบิ โนบิตะ" ปู่ทวดของ "โนบิ เซวาชิ" ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
ซึ่งในการ์ตูนมีการบอกสอดแทรกมาตลอดว่า ในโลกของโนบิตะ คืออยู่ในศตวรรษที่ 20 (สมัยที่ยังฉายในยุคแรกๆ จนถึงปลายยุคโชวะ) และศตวรรษที่ 21 (ที่ฉายช่วงยุคเฮเซย์-ปัจจุบัน)
โดยการ์ตูนจะเป็นรูปแบบจบในตอน ฉะนั้น กาลเวลาในเรื่องจะไม่เป็นผล ไม่ว่าจะผ่านฤดูร้อน หรือปีใหม่ซักกี่ครั้ง โนบิตะและเพื่อน ๆ ก็ยังอยู่ ป.4 เหมือนเดิม
จากที่เห็นว่า ตั้งแต่ข้ามปีปฏิทินจากศตวรรษที่ 20 -> 21 การ setting กับแบ็คกราวน์ของเรื่องในตอนก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เต็มที่ก็มีเพียงบ้านเรือนที่มีการออกแบบให้ร่วมสมัยกับยุคคนดูมากยิ่งขึ้น ที่เหลือก็เหมือนเดิม ไม่เคยเห็นใครในเรื่องใช้สมาร์ทโฟนด้วยซ้ำไป
ขนาดในเรื่องชินจัง ที่ถึงแม้จะยัง 5 ขวบเหมือนเดิม แต่แบคกราวน์และบทบาทตัวละครแต่ละคนก็มีการปรับเปลี่ยนให้ร่วมสมัยในทุกด้าน ตั้งแต่มีการใช้แฟ็กซ์ โทรศัพท์ฝาพับ ไปจนถึงสมาร์ทโฟน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การ์ตูนโดราเอม่อน ก็ยังเป็นการ์ตูนอมตะที่เป็น iconic ของญี่ปุ่นไปแล้ว เชื่อว่าจะมีการฉายรายตอนต่อเนื่องไปอีกนาน
แต่ถ้าหากว่ามันฉายต่อเนื่อง โดยใช้ setting แบบนี้ จนถึงศตวรรษที่ 22 เลยล่ะ นั่นเป็นช่วงที่โดราเอม่อนใกล้จะเกิดแล้วนะ (โดราเอม่อนเกิดปี 2112)
ดังนั้นมาวิเคราะห์กันดีกว่า ว่าหากถึงตอนนั้นแล้วจะเป็นอย่างไรได้บ้าง
1. การ์ตูนตาย หมดความนิยมไปแล้ว
เป็นอีกความเป็นไปได้ที่ การ์ตูนโดราเอม่อน จะหมดความนิยมลงไป ก่อนถึงศตวรรษที่ 22 ด้วยความที่พล็อตเรื่องแต่ละตอนก็จะคล้าย ๆ กัน ส่วนใหญ่ไม่พ้นโนบิตะโดนไจแอนท์รังแก ซูเนโอะมาอวดของให้อิจฉา หรือชวนเพื่อนทุกคนไปเที่ยวยกเว้นโนบิตะ เป็นต้น แล้วก็ต้องมาร้องไห้ขอให้โดราเอม่อนช่วยทุกทีไป หลังจากอุตสาหกรรมการ์ตูนในญี่ปุ่นเฟื่องฟูมากขึ้นทุกปี ตัวเลือกในการรับชมก็มีเยอะขึ้น แม้จะเป็นการ์ตูนเด็กแต่ก็ยังมีตัวเลือกเยอะอยู่ดี ซึ่งแม้ผมจะมานั่งเขียนวิเคราะห์ไปก็คงไม่อาจทราบได้ เพราะตัวเลือกที่เรามีในไทยย่อมน้อยกว่าต้นทางที่ฉายทางทีวีทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ที่เรารู้ๆ กัน ในหมวดการ์ตูนเด็กเนื้อเรื่องย่อยง่ายๆ ก็มี ชินจัง มารูโกะจัง อาตาชินจิครอบครัวตัวป่วน หรือซาซาเอะซัง เป็นต้น นี่แค่พูดถึงในยุคนี้นะยังเยอะเลย
2. ใช้ setting เดิมไปเลย
ที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ดีอยู่แล้ว ให้ setting ให้โลกของโนบิตะอยู่ในศตวรรษที่ 21 ตลอดกาลไปเลย ถึงแม้ว่าการ์ตูนจะได้รับความนิยมไปอีกร้อยปีก็ตาม เพื่อคงความเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องนี้ไว้ เดิมทีเทคโนโลยีแบบปัจจุบันร่วมสมัย ไม่ใช่แก่นของเรื่องอยู่แล้ว จะเน้นไปที่ของวิเศษเหนือจินตนาการเสียมากกว่า แต่ก็อาจจะไม่พูดถึงว่าโดราเอม่อนมาจากศตวรรษไหน อาจบอกแค่ว่ามาจากโลกอนาคต (เพราะไม่แน่ว่าเทคโนโลยีในชีวิตจริงตอนนั้น อาจยังไม่ทันเทคโนโลยีของยุคโดราเอม่อน หากพูดถึงก็คงจะดูแปล่งๆ)
3. สร้างตัวละครใหม่หมด ให้อยู่ในยุคของเซวาชิ
แน่นอนว่าในโลกอนาคต ศตวรรษที่ 22 โดราเอม่อน เป็นหุ่นยนต์พี่เลี้ยงของเซวาชิ ซึ่งเซวาชิที่เราเห็นในเรื่อง อายุคงราว ๆ 10 ขวบเท่าโนบิตะในเนื้อเรื่องหลัก เป็นไปได้ว่าถึงตอนนั้น ทีมงานอนิเมะจะวางโครงเรื่องใหม่ โดยการตัดเรื่องของยุคสมัยออกไป ให้เหลือแค่ "โลกของโดราเอม่อน และเซวาชิ" ซึ่งวัตถุดิบของเรื่องราวนั้นสามารถสร้างตัวละครใหม่ได้ง่ายมาก ทั้งโดราเอม่อน เซวาชิ กับโดรามี ที่มีอยู่แล้ว และอาจเพิ่มบทลูกหลานของไจแอนท์ ซูเนโอะ เดคิสุงิ ให้กลายเป็นตัวละครหลักในยุคของเซวาชิไปเลย ส่วนเนื้อเรื่องก็อาจเป็นการท่องไปยังกาลเวลาต่าง ๆ โดยไม่เอาเรื่องของเส้นเวลาและกฎกาลเวลามาเล่น เหมือนโนบิตะที่เป็นแกนหลักของจักรวาล ต่อให้ท่องไปไหนมาไหนก็ไม่โดนตำรวจกาลเวลามารวบไป
4. ปลุกตำนาน "เดอะ โดราเอม่อนส์"
หลายคนอาจเคยผ่านหูผ่านตา ว่าสมัยที่โดราเอม่อนยังเรียนอยู่ที่ โรงเรียนฝึกสอนหุ่นยนต์พี่เลี้ยง ในศตวรรษที่ 22 โดราเอม่อนมีแก๊งเพื่อนกับเขาด้วย อันได้แก่ โดราเดอะคิด, โดราเหม็ด รุ่นที่ 3, หวังโดร่า, เอล มาทาโดร่า, โดรานินโญ่ และโดรานิคอฟ ซึ่งทุกตัวล้วนมีคาแรคเตอร์เด่นเป็นของตัวเองทั้งนั้น แต่จริง ๆ ตัวละครเหล่านี้ไม่ใช่ original characters ของ อ.ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ แต่อย่างใด ปัจจุบันทางทีมงานอนิเมะผู้ถือลิขสิทธิ์ไม่ได้นำตัวละครเหล่านี้มาใช้เลย (คาดว่าเป็นการให้เกียรติผลงานของอาจารย์) แต่หากวันดีคืนดี ทีมผู้สร้างเกิดหมดมุข เรตติ้งเริ่มตกขึ้นมา การนำเหล่าตัวละครในตำนานเหล่านี้มาใช้ อาจดึงเรตติ้งจากเหล่าแฟนๆ โดราเอม่อนได้ไม่น้อยเลย ซึ่งหลายคนก็ยังคงรอให้มันเกิดขึ้นอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรหยิบมาใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา เพราะคนที่เคยดู เดอะ โดราเอม่อนส์ ทัน ตอนนี้หัวก็เริ่มหงอกกันประปรายแล้ว หากไม่นำมาใช้เลยคงแก่ตายก่อนจะได้เห็น คนที่ไฮป์ก็จะมีแต่รุ่นนี้แหละ การันตีไม่ได้เหมือนกันว่าเด็กรุ่นใหม่จะชอบคาแรคเตอร์เหล่านี้เท่ากับที่เราเคยดูกัน
นี่ก็เป็นความเป็นไปได้ที่ผมวิเคราะห์มา ว่าหากถึงตอนนั้น โดราเอม่อน จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรได้บ้าง ในยุคที่โลกมีการพัฒนาไปไวถึงขนาดนี้
ใครมีไอเดียความเป็นไปอย่างอย่างอื่นอีก มาลองพูดคุยกันได้ครับ
หากการ์ตูน โดราเอม่อน มีการฉายต่อเนื่องจนถึงศตวรรษที่ 22?
ซึ่งในการ์ตูนมีการบอกสอดแทรกมาตลอดว่า ในโลกของโนบิตะ คืออยู่ในศตวรรษที่ 20 (สมัยที่ยังฉายในยุคแรกๆ จนถึงปลายยุคโชวะ) และศตวรรษที่ 21 (ที่ฉายช่วงยุคเฮเซย์-ปัจจุบัน)
โดยการ์ตูนจะเป็นรูปแบบจบในตอน ฉะนั้น กาลเวลาในเรื่องจะไม่เป็นผล ไม่ว่าจะผ่านฤดูร้อน หรือปีใหม่ซักกี่ครั้ง โนบิตะและเพื่อน ๆ ก็ยังอยู่ ป.4 เหมือนเดิม
จากที่เห็นว่า ตั้งแต่ข้ามปีปฏิทินจากศตวรรษที่ 20 -> 21 การ setting กับแบ็คกราวน์ของเรื่องในตอนก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เต็มที่ก็มีเพียงบ้านเรือนที่มีการออกแบบให้ร่วมสมัยกับยุคคนดูมากยิ่งขึ้น ที่เหลือก็เหมือนเดิม ไม่เคยเห็นใครในเรื่องใช้สมาร์ทโฟนด้วยซ้ำไป
ขนาดในเรื่องชินจัง ที่ถึงแม้จะยัง 5 ขวบเหมือนเดิม แต่แบคกราวน์และบทบาทตัวละครแต่ละคนก็มีการปรับเปลี่ยนให้ร่วมสมัยในทุกด้าน ตั้งแต่มีการใช้แฟ็กซ์ โทรศัพท์ฝาพับ ไปจนถึงสมาร์ทโฟน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การ์ตูนโดราเอม่อน ก็ยังเป็นการ์ตูนอมตะที่เป็น iconic ของญี่ปุ่นไปแล้ว เชื่อว่าจะมีการฉายรายตอนต่อเนื่องไปอีกนาน
แต่ถ้าหากว่ามันฉายต่อเนื่อง โดยใช้ setting แบบนี้ จนถึงศตวรรษที่ 22 เลยล่ะ นั่นเป็นช่วงที่โดราเอม่อนใกล้จะเกิดแล้วนะ (โดราเอม่อนเกิดปี 2112)
ดังนั้นมาวิเคราะห์กันดีกว่า ว่าหากถึงตอนนั้นแล้วจะเป็นอย่างไรได้บ้าง
1. การ์ตูนตาย หมดความนิยมไปแล้ว
เป็นอีกความเป็นไปได้ที่ การ์ตูนโดราเอม่อน จะหมดความนิยมลงไป ก่อนถึงศตวรรษที่ 22 ด้วยความที่พล็อตเรื่องแต่ละตอนก็จะคล้าย ๆ กัน ส่วนใหญ่ไม่พ้นโนบิตะโดนไจแอนท์รังแก ซูเนโอะมาอวดของให้อิจฉา หรือชวนเพื่อนทุกคนไปเที่ยวยกเว้นโนบิตะ เป็นต้น แล้วก็ต้องมาร้องไห้ขอให้โดราเอม่อนช่วยทุกทีไป หลังจากอุตสาหกรรมการ์ตูนในญี่ปุ่นเฟื่องฟูมากขึ้นทุกปี ตัวเลือกในการรับชมก็มีเยอะขึ้น แม้จะเป็นการ์ตูนเด็กแต่ก็ยังมีตัวเลือกเยอะอยู่ดี ซึ่งแม้ผมจะมานั่งเขียนวิเคราะห์ไปก็คงไม่อาจทราบได้ เพราะตัวเลือกที่เรามีในไทยย่อมน้อยกว่าต้นทางที่ฉายทางทีวีทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ที่เรารู้ๆ กัน ในหมวดการ์ตูนเด็กเนื้อเรื่องย่อยง่ายๆ ก็มี ชินจัง มารูโกะจัง อาตาชินจิครอบครัวตัวป่วน หรือซาซาเอะซัง เป็นต้น นี่แค่พูดถึงในยุคนี้นะยังเยอะเลย
2. ใช้ setting เดิมไปเลย
ที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ดีอยู่แล้ว ให้ setting ให้โลกของโนบิตะอยู่ในศตวรรษที่ 21 ตลอดกาลไปเลย ถึงแม้ว่าการ์ตูนจะได้รับความนิยมไปอีกร้อยปีก็ตาม เพื่อคงความเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องนี้ไว้ เดิมทีเทคโนโลยีแบบปัจจุบันร่วมสมัย ไม่ใช่แก่นของเรื่องอยู่แล้ว จะเน้นไปที่ของวิเศษเหนือจินตนาการเสียมากกว่า แต่ก็อาจจะไม่พูดถึงว่าโดราเอม่อนมาจากศตวรรษไหน อาจบอกแค่ว่ามาจากโลกอนาคต (เพราะไม่แน่ว่าเทคโนโลยีในชีวิตจริงตอนนั้น อาจยังไม่ทันเทคโนโลยีของยุคโดราเอม่อน หากพูดถึงก็คงจะดูแปล่งๆ)
3. สร้างตัวละครใหม่หมด ให้อยู่ในยุคของเซวาชิ
แน่นอนว่าในโลกอนาคต ศตวรรษที่ 22 โดราเอม่อน เป็นหุ่นยนต์พี่เลี้ยงของเซวาชิ ซึ่งเซวาชิที่เราเห็นในเรื่อง อายุคงราว ๆ 10 ขวบเท่าโนบิตะในเนื้อเรื่องหลัก เป็นไปได้ว่าถึงตอนนั้น ทีมงานอนิเมะจะวางโครงเรื่องใหม่ โดยการตัดเรื่องของยุคสมัยออกไป ให้เหลือแค่ "โลกของโดราเอม่อน และเซวาชิ" ซึ่งวัตถุดิบของเรื่องราวนั้นสามารถสร้างตัวละครใหม่ได้ง่ายมาก ทั้งโดราเอม่อน เซวาชิ กับโดรามี ที่มีอยู่แล้ว และอาจเพิ่มบทลูกหลานของไจแอนท์ ซูเนโอะ เดคิสุงิ ให้กลายเป็นตัวละครหลักในยุคของเซวาชิไปเลย ส่วนเนื้อเรื่องก็อาจเป็นการท่องไปยังกาลเวลาต่าง ๆ โดยไม่เอาเรื่องของเส้นเวลาและกฎกาลเวลามาเล่น เหมือนโนบิตะที่เป็นแกนหลักของจักรวาล ต่อให้ท่องไปไหนมาไหนก็ไม่โดนตำรวจกาลเวลามารวบไป
4. ปลุกตำนาน "เดอะ โดราเอม่อนส์"
หลายคนอาจเคยผ่านหูผ่านตา ว่าสมัยที่โดราเอม่อนยังเรียนอยู่ที่ โรงเรียนฝึกสอนหุ่นยนต์พี่เลี้ยง ในศตวรรษที่ 22 โดราเอม่อนมีแก๊งเพื่อนกับเขาด้วย อันได้แก่ โดราเดอะคิด, โดราเหม็ด รุ่นที่ 3, หวังโดร่า, เอล มาทาโดร่า, โดรานินโญ่ และโดรานิคอฟ ซึ่งทุกตัวล้วนมีคาแรคเตอร์เด่นเป็นของตัวเองทั้งนั้น แต่จริง ๆ ตัวละครเหล่านี้ไม่ใช่ original characters ของ อ.ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ แต่อย่างใด ปัจจุบันทางทีมงานอนิเมะผู้ถือลิขสิทธิ์ไม่ได้นำตัวละครเหล่านี้มาใช้เลย (คาดว่าเป็นการให้เกียรติผลงานของอาจารย์) แต่หากวันดีคืนดี ทีมผู้สร้างเกิดหมดมุข เรตติ้งเริ่มตกขึ้นมา การนำเหล่าตัวละครในตำนานเหล่านี้มาใช้ อาจดึงเรตติ้งจากเหล่าแฟนๆ โดราเอม่อนได้ไม่น้อยเลย ซึ่งหลายคนก็ยังคงรอให้มันเกิดขึ้นอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรหยิบมาใช้ให้ถูกที่ถูกเวลา เพราะคนที่เคยดู เดอะ โดราเอม่อนส์ ทัน ตอนนี้หัวก็เริ่มหงอกกันประปรายแล้ว หากไม่นำมาใช้เลยคงแก่ตายก่อนจะได้เห็น คนที่ไฮป์ก็จะมีแต่รุ่นนี้แหละ การันตีไม่ได้เหมือนกันว่าเด็กรุ่นใหม่จะชอบคาแรคเตอร์เหล่านี้เท่ากับที่เราเคยดูกัน
นี่ก็เป็นความเป็นไปได้ที่ผมวิเคราะห์มา ว่าหากถึงตอนนั้น โดราเอม่อน จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรได้บ้าง ในยุคที่โลกมีการพัฒนาไปไวถึงขนาดนี้
ใครมีไอเดียความเป็นไปอย่างอย่างอื่นอีก มาลองพูดคุยกันได้ครับ