คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล : TIMELINE การอภิวัฒน์การศึกษาไทย2538:เพื่อเตรียมพร้อมพลเมืองไทยสำหรับศตวรรษที่ 21

กระทู้สนทนา
ข้อมูลจาก UNESCO ประเทศออสเตรีย ปี 1995 / 2538  ก่อน การอภิวัฒน์การศึกษา2538 ระดับการศึกษาของแรงงานไทย:
79.1 % ต่ำกว่าประถม 8.0% มัธยมต้น มัธยมปลาย 3.3% อาชีวะ 3.2% ปริญญาตรี หรือ สูงกว่า 6.4%  ประเทศไทย เหลื่อมล้ำเป็นอันดับต้นๆของโลก

หลักฐาน : คนจนเรียน มัธยมศึกษาตอนปลาย รวมกับ อาชีวะ ต่ำกว่า คนรวย เรียนระดับ ปริญญา เนื่องจาก การบริการ การศึกษา คือ บริการสำหรับคนรวยเท่านั่น

1) ปี 2538  โรดเมป 150 วัน กรกฎาคม - พฤศจิกายนพบว่า คนไทย 4.35 ล้านคน อายุ 3-17 ปี จากครอบครัวเกษตรกรยากจน ไม่มีที่เรียน ดังนี้คือ:
📌 เด็กอายุ 3-5 ปี (7 แสนคน)📌 เด็กอายุ 6-11 ปี (6.5 แสนคน) 📌 เด็กอายุ 12-14 ปี (1 ล้านคน) 📌 เด็กอายุ 15-17 ปี (2 ล้านคน)
12.33 ล้านคนเรียนในโรงเรียน ผุผุพังพัง ครูถูกทอดทิ้ง หลักสูตรโบราณ และ จัดงบประมาณจากส่วนกลางโดยไม่กระจายอำนาจการบริหาร และ งบประมาณ

2)  ธันวาคม 2538 เริ่มอภิวัฒน์การศึกษาไทย ตามแผนแม่บทนโยบายปฏิรูปการศึกษายุคโลกาภิวัตน์ 2538 : เพื่อเตรียมพร้อมพลเมืองไทยสำหรับศตวรรษที่ 21 โดยปฏิรูประบบบริหารสถานศึกษา ปฏิรูปสถานศึกษา จัดเตรียม วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์(ชลบุรี) เพื่อปฏิรูปครู และ การปฏิรูปหลักสูตรด้วยนวัตกรรม โดยเริ่มจาก การให้เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ และ คอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ประถม 1 ทุกคน ทั่วไทย เพื่อแก้ไข เหลื่อมล้ำ

3) ปี2539 แก้ไขเพิ่มเติม ทรัพยากรมนุษย์ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 เพื่อใช้เป็น เครื่องมืออภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 แต่มีปัญหาการปฏิบัติในพื้นที่

4) คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล คิดกระบวนทัศน์ใหม่ในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8เพราะ การอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 ซึ่งไม่สำเร็จเกือบ 1 ปี ระหว่าง ธันวาคม 2538 - กันยายน 2539  ภายใต้แผนฯ พัฒนา 7

5) แผนพัฒนาฯ 8  การพัฒนาโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง เริ่มใช้จริง 1ตุลาคม 2539

6) โรดเมป 180 วัน พฤษภาคม 2540  กระทรวงศึกษาธิการ สามารถรับ คนไทยอายุ 3-17 ปีจากครอบครัวยากจนเพิ่มได้ 4.35ล้านคน ซ่อมโรงเรียนผุพังให้ 12.33ล้านคน  โดยทุกคน = 16.68 ล้านคนได้เรียนภาษาอังกฤษ และ คอมพิวเตอร์ ทุกโรงเรียนใช้ระบบ บริหาร SBM คืนครูให้ห้องเรียน และ เริ่มครูคืนถิ่น  กระจายงบประมาณ กระจายอำนาจบริหารการศึกษา  โดยปูพรมโรงเรียนนิติบุคคล เพื่อให้ทุกคนได้รับ อาหาร และ อุปกรณ์ครบครัน

7) เพื่อเด็กไทย 16.68 ล้านคน ได้เรียนฟรีจริงทุกคน เท่าเทียม ทั่วถึง ทั่วไทย
การปรับปรุง สถานศึกษาสำหรับ นักเรียน 12.33ล้านคน ในระบบการศึกษา✅ ปรับปรุงโรงเรียน: 29,845 โรงเรียน ทั่วประเทศ✅ ปรับปรุงอาคารเรียน: 38,112 หลัง เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน✅ ปรับปรุงอาคารเอนกประสงค์: 12,227 หลัง รองรับกิจกรรมเสริมการเรียนรู้✅ ปรับปรุงห้องน้ำที่ถูกสุขอนามัย: 11,257 หลัง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของนักเรียน และ ขยายห้องเรียนสำหรับ 4.35  ล้านคน นอกระบบการศึกษา เพื่อได้รับบริการในโรงเรียนเก่าหลังปรับปรุงหรือ โรงเรียนสร้างใหม่

8):1)มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่ดินดอยแง่ม 4997ไร่และงบประมาณปี 2540, 2)สถาบันราชภัฏ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ศรีสะเกษ นครพนม ชัยภูมิ 20 เมษา 2540 ,3) สถาบันอาชีวะศึกษา 278 แห่ง,4) โรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ12แห่ง จุฬาภรณ์ 2แห่งกาญจนาภิเษก 1แห่ง มหิดลวิทยานุสรณ์,5) โรงเรียนขยายโอกาส 2685แห่ง,6) ศูนย์เด็กเล็กจาก74 เป็น 3470แห่ง, 7) ศูนย์วิทยาศาสตร์ 17 แห่ง  ในสถาบันราชภัฏ, 8 )ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติกาญจนภิเษก 99 แห่งทั่วประเทศ เมื่อ 5 ธันวาคม2539, 9) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน ปี 2539, 10) ห้องสมุดโรงเรียนมัธยม 2542 แห่ง ศูนย์การเรียนรู้และห้องสมุดประชาชนทั่วไทย

9) กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.เบิกจ่ายได้จริง 16 มกราคม พ.ศ. 2539 โดยใช้กฎหมาย พ.ศ.2491 รองรับ
มีเจตนารมณ์ยกหนี้ให้ผู้เรียนจบจริง เพื่อป้องกัน การใช้ทุนในทางที่ผิด
จึงให้กู้ยืมแทน การให้เปล่า

10) 🏆 UNESCO มอบรางวัลด้านการศึกษา 3 รางวัล เมื่อปี 2540 -2541


ข้อมูลจาก UNESCO ประเทศออสเตรีย ปี 1995 / 2538  ก่อน การอภิวัฒน์การศึกษา2538 ระดับการศึกษาของแรงงานไทย:
79.1 % ต่ำกว่าประถม 8.0% มัธยมต้น มัธยมปลาย 3.3% อาชีวะ 3.2% ปริญญาตรี หรือ สูงกว่า 6.4%

รางวัลนานาชาติ การอภิวัฒน์การศึกษา2538/1995


1) 1996 "During his trip to the Philippines, H.E. Mr. Sukavich Rangsitpol was conferred an Honorary Degree of Doctor of Education by the Philippine Normal University. His will to reform education and strong leadership in educational management were highly commended."

2) ปี 2540 UNESCO มอบรับรางวัลการจัดบริการการศึกษาเป็นเลิศ
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000114483

3) ปี 2541 UNESCO มอบ รางวัลการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารการศึกษา และ บริการการศึกษา
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000141834







แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่