ปชช.เชื่อ คอร์รัปชั่น ต้นเหตุตึกถล่ม ACT แฉกลโกง แม้ระเบียบครบ จับตาภาษี 2 แสนล้าน
https://www.matichon.co.th/social/news_5136057
.
.
ผลโหวตชี้ชัด ปชช.เชื่อ คอร์รัปชั่น ต้นเหตุตึกถล่ม ACT แฉกลโกง แม้ระเบียบครบ จับตาภาษี 2 แสนล้าน
.
เมื่อวันที่ 11 เมษายน องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เปิดโปง “โกงครบสูตร แม้ระเบียบครบถ้วน” จับตาเงินภาษี 2 แสนล้านบาท/ปี หายเข้ากระเป๋าบางกลุ่ม
ประชาชนชี้ชัด คอร์รัปชั่น ต้นเหตุตึก สตง. ถล่ม จี้รัฐเอาผิด “ตัวการใหญ่” ไม่ใช่แค่ “จับแพะ” เสนอมาตรการแรง “ตัดสิทธิรับเหมาตลอดชีวิต – ประหารคนโกง”
.
ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) หรือ ACT กล่าวว่า จากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนผ่านระบบ D-vote หัวข้อ “คุณคิดว่าเหตุการณ์อาคาร สตง. แห่งใหม่ถล่ม เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นหรือไม่?” ซึ่งเปิดให้ประชาชนโหวตระหว่างวันที่ 7-10 เมษายน 2568 โดยได้ผลสำรวจเบื้องต้นจากกลุ่มตัวอย่างกระจายทุกช่วงอายุและภูมิภาคจำนวน 182 ตัวอย่าง ค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 87.0 พบว่าร้อยละ 98 ของผู้ตอบ
.
แบบสอบถามเชื่อว่าเหตุการณ์อาคาร สตง.ถล่มเกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่น เมื่อถามเจาะลึกถึงสาเหตุตึกถล่ม ประชาชนชี้ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
.
• คอร์รัปชั่นของผู้เกี่ยวข้อง
• การใช้วัสดุคุณภาพต่ำ เช่น เหล็กปลอม
• และกำหนดแบบก่อสร้างเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เช่น ต้องการเงินทอน
.
สำหรับการลงโทษผู้กระทำผิด ประชาชนจี้รัฐ
.
• “ฟันให้ถึงตัวใหญ่” ไม่ใช่แค่โยนแพะ โดยเสียงส่วนใหญ่ ไม่ต้องการให้แค่หาผู้รับเหมากลับมารับผิด แต่เรียกร้องให้ดำเนินคดี “ผู้มีอำนาจ” ที่อยู่เบื้องหลัง
• รวมทั้งเสนอให้แบล็กลิสต์ บริษัทรับเหมาที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ห้ามรับงานรัฐอีกตลอดชีวิต
• และจำคุกตลอดชีวิตผู้เกี่ยวข้องกับคอร์รัปชั่นโดยไม่ลดหย่อนโทษ
.
ส่วนแนวทางแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยตึกถล่ม เสียงจาก ประชาชนเสนอแนวทางแก้ปัญหา ที่สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่
1. ปรับปรุงกฎหมายให้เข้มงวด บังคับให้ทุกโครงการต้องมีกระบวนการตรวจสอบคอร์รัปชั่น ทั้งตรวจสอบผู้รับเหมา ผู้ควบคุมงาน ตรวจรับวัสดุ
2. บังคับใช้กฎหมายปราบคอร์รัปชั่นด้วยบทลงโทษเด็ดขาดรุนแรงถึงขั้น จำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
3. รัฐต้องปรับปรุงระบบข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างให้ประชาชนตรวจสอบอย่างโปร่งใส
4. ให้ทุกโครงการเมกะโปรเจกต์ (มูลค่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป) ต้องผ่านข้อตกลงคุณธรรม ให้ประชาชนร่วมสังเกตการณ์ตั้งแต่ต้น
.
“โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ หรือโครงการร่วมลงทุนภาครัฐกับเอกชน เป็นโครงการ ที่ใช้งบลงทุนสูงเป็นเป้าหมายของคนโกง โดยอาศัยช่องทางตามระเบียบ ดูเผินๆ เหมือนถูกต้องตามระเบียบทุกประการ แต่กลับมีช่องพลิกแพลงให้คอร์รัปชั่นหลากหลายเทคนิค เช่น การล็อกสเปก เพื่อให้เฉพาะบริษัทบางรายเท่านั้นที่ผ่านคุณสมบัติ การฮั้วประมูล โดยตกลงราคาล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ชนะได้งาน ส่วนผู้แพ้ได้ ‘ค่าตอบแทน’ การแบ่งสัญญา ล่วงหน้าตาม ‘คิว’ ผู้รับเหมาที่ต้องได้รับงาน รวมถึงการหักหัวคิว หรือเงินทอน ร้อยละ 20-30 ของมูลค่างาน เพื่อจ่ายให้เจ้าหน้าที่หรือผู้มีอำนาจเอื้อประโยชน์ ที่ผ่านมาพบว่า 3 ขั้วอำนาจที่ร่วมมือกันแนบแน่น ทำให้คอร์รัปชั่นดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง คือ ข้าราชการ นักการเมือง และนายทุน ข้าราชการที่รู้เห็นแต่เงียบเฉย ก็ถือว่ามีส่วนร่วมเช่นกัน” ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นฯกล่าว
.
งบประมาณงานก่อสร้างภาครัฐแต่ละปี มีมูลค่ารวมกว่า 780,000 ล้านบาท หากคอร์รัปชั่นเฉือนหัวคิวไปร้อยละ 30 จะคิดเป็นเงินสูงถึงกว่า 200,000 ล้านบาท ที่หายไปจากระบบเศรษฐกิจ เข้าสู่กระเป๋าคนบางกลุ่ม
.
ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นฯ กล่าวในที่สุดว่า คอร์รัปชั่นไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และการนิ่งเฉยคือการสมรู้ร่วมคิด สื่อมวลชนและภาคประชาชนมีบทบาทสำคัญในการกดดันให้เกิด การเปลี่ยนแปลง “เราต้องไม่แค่เรียกร้องให้รัฐโปร่งใส แต่ต้องปฏิเสธคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ หยุดระบบฮั้ว หัวคิว เงินทอน และรวมพลังประชาชนลุกขึ้นสู้ เพื่อเปลี่ยนประเทศของเรา”
.
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้าร่วมโหวตแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่องได้ที่เพจขององค์กรฯ เพื่อสะท้อนเสียงและนำไปสู่การผลักดันไม่ให้โศกนาฏกรรมซ้ำรอยต่อไป
.
.
เท้ง-พิธา แอ่วเหนือวันนี้ อิ๊งค์ บินไปเชียงใหม่ 13 เม.ย. ‘ทักษิณ’ ทำบุญพบปะญาติพี่น้อง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5136337
.
เท้ง-พิธา แอ่วเหนือวันนี้ อิ๊งค์ บินไปเชียงใหม่ 13 เม.ย. เปิดสงกรานต์ข่วงประตูท่าแพ ร่วมสาดน้ำนักท่องเที่ยว ‘ทักษิณ’ ทำบุญพบปะญาติพี่น้อง
.
เมื่อวันที่ 11 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวพรรคประชาชน (ปชน.) ช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ของแกนนำพรรค โดยปีนี้จะเดินสายเล่นน้ำ ทำบุญ และรับฟังปัญหาในพื้นที่ภาคเหนือ นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เข้าร่วมด้วย
.
สำหรับกิจกรรมเริ่มตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน จะแบ่งกันเป็น 2 สาย สายที่ 1 นายณัฐพงษ์ จะเยี่ยมชมการทำโคมศรีล้านนา ณ บ้านแยงบัว จ.ลำปาง ก่อนที่เวลา 15.10-17.00 น. ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ที่บริเวณหน้าสำนักงานไปรษณีย์ลำปาง ไปจบที่ห้างเสรีสรรพสินค้า
.
ส่วนสายที่2 นายพิธาจะร่วมกิจกรรมประเพณี วิถีน้ำ วิถีไทย ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จ.เชียงใหม่ ก่อนที่เวลา 17.30-18.30 น. ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์แยกรินคำ เมญ่านิมมาน ส่วนวันที่ 13 เมษายน นายณัฐพงษ์จะเดินชมงานกิจกรรมสงกรานต์ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ เวลา 10.00-11.00 น. ก่อนที่จะไปเจอนายพิธา เวลา 13.00-15.30 น.
.
ร่วมพิธีขบวนแห่สรงน้ำพระพุทธรูป ณ หน้าโรงเรียนจักรคำคณาทร และร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ พบปะ เยี่ยมชม ร้านค้าชุมชนบริเวณ ณ ศูนย์นักท่องเที่ยวเชิงสะพานท่าขาม จ.ลำพูน ร่วมกัน
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 13 เมษายน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางไป จ.เชียงใหม่ในช่วงเช้า จากนั้นเวลา 16.30 น. จะเป็นประธานเปิดงาน Amazing Songkran Chiangmai x Boryeong Mud Festival 2025 จากประเทศเกาหลี ณ ข่วงประตูท่าแพ (ฝั่งถนนชัยภูมิ) อ.เมืองเชียงใหม่ โดยมีกิจกรรมพิธีเปิดอุโมงค์น้ำ Maha Songkran Chiang Mai Amazing Water Splash ปล่อยขบวน ตุ๊กตุ๊ก ไทยแลนด์ มหาม่วน มหามันส์ และร่วมเล่นน้ำสงกรานต์เชียงใหม่กับนักท่องเที่ยว ส่วนช่วงเย็นจะเดินไปวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมืองเชียงใหม่ ทำพิธีสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ พระคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่
.
จากนั้นนายกฯจะร่วมกิจกรรม SF My Water World Songkran Festival 2025 ที่ลานเมญ่า สแควร์ ศูนย์การค้าเมญ่า อ.เมืองเชียงใหม่ สำหรับวันที่ 14 เมษายน เวลา 09.30 น. นายกฯเดินทางมาร่วมงานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองสันกำแพง ณ ชุมชนโหล่งฮิมคาว อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เมื่อเสร็จกิจกรรมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ
.
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับการเดินทางกลับ จ.เชียงใหม่ในครั้งนี้ น.ส.แพทองธารจะไปพร้อมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยใช้วันหยุดยาวพักผ่อนกับครอบครัว และพบปะญาติๆ ที่ จ.เชียงใหม่ และถือโอกาสทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล และนายทักษิณเปิดบ้านพักส่วนตัวที่ อ.แม่ริม ให้ญาติๆ รดน้ำดำหัว
.
.
คอนโดไทย แรงซื้อต่างชาติเริ่มแผ่ว ไตรมาส 4 มูลค่าการโอนร่วง 19.7% เปิด 5 จังหวัดยอดฮิต
https://www.matichon.co.th/economy/news_5136187
.
คอนโดไทย แรงซื้อต่างชาติเริ่มแผ่ว ไตรมาส 4 มูลค่าการโอนร่วง 19.7% เปิด 5 จังหวัดยอดฮิต
.
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รายงานสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 พบว่ามีจำนวน 3,557 หน่วย ลดลงร้อยละ -5.0 มีมูลค่า 16,778 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -19.7 คิดเป็นพื้นที่การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดรวม 152,730 ตารางเมตร ลดลงร้อยละ -11.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
.
ขณะที่สัดส่วนของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10.7 ของจำนวนหน่วยที่โอนกรรมสิทธิ์ และร้อยละ 19.9 ของมูลค่าการโอน ปรับลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วนร้อยละ 12.8 และร้อยละ 26.1 ตามลำดับ
.
“สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ห้องชุดในกลุ่มผู้ซื้อชาวต่างชาติ”
.
อย่างไรก็ตามภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศทั้งปี 2567 มีจำนวน 14,573 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 มีมูลค่า 68,182 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -6.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
.
หากแบ่งเป็นรายจังหวัด พบว่า จังหวัดที่มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
– กรุงเทพฯ 5,689 หน่วย
– ชลบุรี 5,120 หน่วย
– ภูเก็ต 1,006 หน่วย
– เชียงใหม่ 910 หน่วย
– สมุทรปราการ 721 หน่วย
.
ส่วนใหญ่อยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ และชลบุรี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 35.1 โดยทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันสูงถึงร้อยละ 74.1 ของทั่วประเทศ และในปี 2567 กรุงเทพมหานคร มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติมากกว่าชลบุรี
.
จังหวัดที่มีจำนวนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
– กรุงเทพฯ 40,644 ล้านบาท
– ชลบุรี 14,335 ล้านบาท
– ภูเก็ต 5,120 ล้านบาท
– สมุทรปราการ 2,458 ล้านบาท
– เชียงใหม่ 2,361 ล้านบาท
.
ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพมหานคร และชลบุรี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.0 โดยทั้ง 2 จังหวัด มีสัดส่วนมูลค่ารวมกันสูงถึงร้อยละ 80.6 ของทั่วประเทศ และหากเทียบตั้งแต่ปี 2564 พบว่า กรุงเทพฯและชลบุรี ยังคงเป็นจังหวัดที่มีจำนวนมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติ ในสัดส่วนที่มากที่สุดเช่นเดียวกัน ส่วนอันดับรองลงมาเป็นจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ ภูเก็ต, สมุทรปราการ และเชียงใหม่
.
ส่วนสัญชาติของผู้ซื้อห้องชุดนั้น สัญชาติจีน ยังคงเป็นกลุ่มที่มีจำนวนหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 อันดับ 2 สัญชาติพม่า และอันดับ 3 สัญชาติรัสเซีย ยังพบว่า ผู้ซื้อสัญชาติอินเดียเป็นสัญชาติที่มีทั้งมูลค่าการโอนต่อหน่วยมากที่สุด คือ เฉลี่ย 5.9 ล้านบาทต่อหน่วย และโอนขนาดห้อง ใหญ่ที่สุดเฉลี่ย 71.6 ตารางเมตร ส่วนชาวจีนซึ่งเป็นสัญชาติที่มีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากที่สุด มีมูลค่าการโอนเฉลี่ย 4.6 ล้านบาทต่อหน่วย และพื้นที่ห้องชุดเฉลี่ย 39.2 ตารางเมตร
JJNY : ปชช.เชื่อคอร์รัปชั่น ต้นเหตุตึกถล่ม│เท้ง-พิธา แอ่วเหนือวันนี้│แรงซื้อต่างชาติเริ่มแผ่ว│เช็กด่วน!! จว.ต้องระวัง
https://www.matichon.co.th/social/news_5136057
.
.
เท้ง-พิธา แอ่วเหนือวันนี้ อิ๊งค์ บินไปเชียงใหม่ 13 เม.ย. ‘ทักษิณ’ ทำบุญพบปะญาติพี่น้อง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5136337
.
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับการเดินทางกลับ จ.เชียงใหม่ในครั้งนี้ น.ส.แพทองธารจะไปพร้อมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยใช้วันหยุดยาวพักผ่อนกับครอบครัว และพบปะญาติๆ ที่ จ.เชียงใหม่ และถือโอกาสทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล และนายทักษิณเปิดบ้านพักส่วนตัวที่ อ.แม่ริม ให้ญาติๆ รดน้ำดำหัว
.
คอนโดไทย แรงซื้อต่างชาติเริ่มแผ่ว ไตรมาส 4 มูลค่าการโอนร่วง 19.7% เปิด 5 จังหวัดยอดฮิต
https://www.matichon.co.th/economy/news_5136187
.
– กรุงเทพฯ 5,689 หน่วย
– ชลบุรี 5,120 หน่วย
– ภูเก็ต 1,006 หน่วย
– เชียงใหม่ 910 หน่วย
– สมุทรปราการ 721 หน่วย
– กรุงเทพฯ 40,644 ล้านบาท
– ชลบุรี 14,335 ล้านบาท
– ภูเก็ต 5,120 ล้านบาท
– สมุทรปราการ 2,458 ล้านบาท
– เชียงใหม่ 2,361 ล้านบาท